หนทางที่ลึกซึ้ง ยากที่จะรู้ได้

[เล่มที่ 22] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 147
ข้อความบางตอนจาก ... คณกโมคคัลลานสูตร
[๑๐๑] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วอย่างนี้ พราหมณ์คณกะโมคคัลลานะได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า สาวกของพระโคดมผู้เจริญอัน ท่านพระโคดม โอวาทสั่งสอนอยู่อย่างนี้ ย่อมสำเร็จนิพพานอันมีความสำเร็จ ล่วงส่วน ทุกรูปทีเดียวหรือ หรือว่าบางพวกก็ไม่สำเร็จ.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ สาวกของเรา อันเราโอวาทสั่งสอนอยู่อย่างนี้ บางพวกเพียงส่วนน้อย สำเร็จนิพพานอันมีความสำเร็จล่วงส่วน บางพวกก็ไม่ สำเร็จ.
ค. ข้าแต่ท่านพระโคดม อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ในเมื่อนิพพานก็ยังมีอยู่ ทางให้ถึงนิพพานก็ยังมีอยู่ ท่านพระโคดมผู้ชักชวน ก็ยังมีอยู่ แต่สาวกของท่านพระโคดม อันท่านพระโคดม โอวาทสั่งสอนอยู่ อย่างนี้ บางพวกเพียงส่วนน้อย จึงสำเร็จนิพพานอันมีความสำเร็จล่วงส่วน บางพวกก็ไม่สำเร็จ
[๑๐๓] พ. ดูก่อนพราหมณ์ ฉันนั้นเหมือนกันแล ในเมื่อนิพพาน ก็มีอยู่ ทางไปนิพพานก็มีอยู่ เราผู้ชักชวนก็มีอยู่ แต่ก็สาวกของเราอันเรา โอวาทสั่งสอนอยู่อย่างนี้ บางพวกเพียงส่วนน้อย สำเร็จนิพพานอันมีความ สำเร็จล่วงส่วน บางพวกก็ไม่สำเร็จ ดูก่อนพราหมณ์ ในเรื่องนี้ เราจะทำ อย่างไรได้ ตถาคตเป็นแต่ผู้บอกหนทาง
อ.ธนากร: กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ เพราะว่า หนทางที่ประพฤติ แล้วก็เข้าใจตามสิ่งที่พระองค์ทรงแสดงยากมากๆ เลยครับ เพราะว่าต้องเป็นไปตามลำดับจริงๆ ครับ
แล้วก็ถ้าขาดความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปเอง คิดเอง อันนี้ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินรอยเท้าตามที่พระองค์ทรงประกาศไว้เลยครับ ซึ่งอันนี้ก็ประมาทไม่ได้ แล้วก็สุ่มเสี่ยงมากครับ
เพราะฉะนั้น ก็เป็นคำเตือนของท่านอาจารย์ที่ดีอย่างยิ่งเลยครับ ทุกครั้งที่มีการสนทนา หรือว่าท่านอาจารย์ได้กล่าว คำจริง ก็ทำให้ไม่หลงลืมในส่วนที่ลืมตลอดลืมเสมอเลยครับ บางทีพอฟังไป ท่านอาจารย์ก็เตือนพวกเราว่า ใครที่กำลังคิด ใครที่กำลังไตร่ตรอง เหมือนจะเข้าใจนะครับเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ แล้วก็คิดไป พิจารณาไป ไตร่ตรองไป ก็อ๋อ!! เข้าใจแล้ว แต่ท่านอาจารย์ก็ถามต่อว่า แล้วใครที่ไตร่ตรอง ก็ทำให้กลับมาตั้งต้นใหม่ว่า นี่ไง!! ความไม่รู้กำลังมีอยู่
ซึ่งถ้าไม่เห็น ความไม่รู้ ตรงนี้ แล้วจะสามารถเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างที่ท่านอาจารย์ได้เตือนเสมอๆ เลยครับ
ก็อยากที่จะกราบเท้าท่านอาจารย์ถึงความลึกซึ้งตรงนี้ครับว่า ท่านอาจารย์เตือนพวกเราทุกครั้งโดยเฉพาะเรื่องของ ความเป็นเรา เพราะว่าบางทีหลายท่านก็อาจจะรู้สึกว่า ทำไมถึงเตือนบ่อยขนาดนี้ครับว่า ยังเป็นเราอยู่ แต่แท้ที่จริงแล้วก็คือว่า ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่เป็น แต่เป็นแล้วก็ยังไม่รู้ตัวว่า เป็นเราตลอดเวลา ครับ แต่ท่านอาจารย์ก็เตือนเพื่อให้เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ กราบเท้าท่านอาจารย์ถึงความลึกซึ้งตรงนี้ครับ
ท่านอาจารย์: เดี๋ยวนี้มีอะไรปรากฏ?
อ.ธนากร: โต๊ะครับ
ท่านอาจารย์: เป็นปกติใช่ไหม?
อ.ธนากร: ใช่ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น สิ่งที่ปรากฏทางตา ฟังเลย!! โต๊ะกระทบตาได้ไหม?
อ.ธนากร: ไม่ได้ครับ
ท่านอาจารย์: แล้วจะเป็นโต๊ะได้อย่างไรเมื่อปรากฏ? เมื่อปรากฏต้องเป็น ที่กระทบตา เท่านั้น เห็นไหม และเดี๋ยวนี้ก่อนเห็นไม่มีเห็น แล้วก็เกิดเห็น ลึกซึ้งไหม? สิ่งที่กระทบตาเท่านั้น ลึกซึ้งไหม แล้วดับทันที
ค่อยๆ ฟังว่า นี่เป็นจริงแค่ไหน อย่างไร และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประจักษ์แจ้งความจริงนี้ จึงได้ทรงแสดงหนทาง พระองค์ตรัสว่า ลึกซึ้ง ยากที่จะรู้ได้ แต่ก็รู้ได้เพราะมีจริงอย่างนี้
แต่ต้องมีความค่อยๆ เข้าใจในความเป็นจริงตามลำดับ ไม่สามารถจะไปประจักษ์แจ้งสิ่งที่เป็นจริงอย่างนั้นได้ทันที
ด้วยเหตุนี้ คำสอนของพระองค์ลึกซึ้งตามลำดับ ถ้าไม่มีปริยัติ กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงจนกระทั่งให้มั่นคงในความเป็นจริงของสิ่งนั้น จะไม่มีปัจจัยพอที่จะเริ่มเข้าใจความจริงที่ได้เข้าใจอีกขั้นหนึ่งจนกว่าจะประจักษ์แจ้ง
เพราะฉะนั้น ต้องรู้ความลึกซึ้ง ไม่ใช่ว่าเราฟังปุ๊บ เราต้องการจะประจักษ์ทันที ไปหาหนทางปฏิบัติ
อ.ธนากร: ลึกซึ้งกับคำว่า ค่อยๆ เข้าใจครับ โอ้โห!! พอท่านอาจารย์ถามมา ก็เห็นความบรมโง่ครับ ก็คือเป็นโต๊ะที่ปรากฏครับ แต่ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ไม่ได้เป็นอย่างนี้เลยนะครับ ต้องมีสิ่งที่ถูกเห็นกระทบตาด้วย และสิ่งนั้นต้องเกิด และเมื่อเกิดแล้วต้องปรากฏ เป็นเพียงสิ่งที่ถูกเห็น แล้วก็ต้องมีเห็นในขณะนั้น เป็นต้น แต่ว่า โต๊ะบังมิดเลยครับ ไม่ได้รู้ความจริงเหมือนอย่างที่ทรงแสดง
แต่ผมก็อุ่นใจนะครับว่า ยังไม่ได้รู้ความจริงอย่างที่พระองค์ทรงแสดง แต่ว่า ก็มีคำของพระองค์เป็นเครื่องนำทางให้รู้ว่า ต้องเข้าถึงความลึกซึ้งของคำของพระองค์มากขึ้นครับ เพื่อที่วันหนึ่งเมื่อบารมีค่อยๆ เจริญขึ้น แล้วก็พร้อมในวันนั้นจริงๆ ครับ คือต้องเป็นไปตามความจริงจริงๆ ครับ ความจริงเหล่านั้นจึงค่อยๆ เปิดเผยแม้เพียงแค่รู้ตรงลักษณะ แล้วก็เข้าใจขึ้นๆ ครับ
ก็เป็นความกรุณาของท่านอาจารย์อย่างยิ่งครับ ที่รู้ว่า พวกเรามีแต่ความไม่รู้เกาะเต็มไปหมดเลยครับ และก็มากมายในแสนโกฏกัปป์ แล้วก็เห็นว่าพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาให้พวกเราต้องเกิดความเข้าใจ ท่านอาจารย์ก็ไม่ละทิ้งที่จะให้คำของพระองค์ซึ่งพระองค์ก็บำเพ็ญบารมีเพื่อประโยชน์นี้ ให้มาถึงพวกเราได้เกิดประโยชน์จริงๆ ครับ ไม่ใช่เพียงแค่เหมือนกับว่า รับฟังแล้ว แล้วก็เข้าใจแล้ว แต่ว่าผิดครับ ขอกราบเท้าท่านอาจารย์ครับ
ขอเชิญอ่านได้ที่..
ตถาคตเป็นแต่ผู้บอกหนทาง [คณกโมคคัลลานสูตร]
ขอเชิญคลิกฟังได้..
เป็นหนทางเดียว มีความเข้าใจขึ้นๆ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ธนากร ด้วยความเคารพค่ะ


