ความลึกซึ้งของความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 171
ข้อความบางตอนจาก ...
เรื่องนายทารุสากฏิกะ
พระราชาทรงทราบความเป็นไปนั้นแล้ว ทรงพาชนทั้งสามนั้นไปสู่ สำนักพระศาสดา กราบทูลความเป็นไปทั้งปวงแล้ว ทูลถามว่า " ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ พุทธานุสสติเท่านั้น ย่อมเป็นคุณชาติเครื่องรักษาหรือ หนอแล หรือว่าอนุสสติอื่น แม้มีธัมมานุสสติเป็นต้น ก็เป็นคุณชาติเครื่องรักษา"
พระศาสดาทรงแสดงฐานะ ๖
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสแก่พระราชานั้นว่า "มหาบพิตร พุทธานุสสติอย่างเดียวเท่านั้น เป็นคุณชาติเครื่องรักษาก็หามิได้, ก็จิตอันชน เหล่าใดอบรมดีแล้วโดยฐานะ ๖. กิจด้วยอันรักษาและป้องกันอย่างอื่น หรือด้วยมนต์และโอสถ ย่อมไม่มีแก่ชนเหล่านั้น ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรง แสดงฐานะ ๖ ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
"สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในพระพุทธเจ้า เป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้น เป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในพระธรรมเป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้น เป็นสาวกของ พระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในพระสงฆ์เป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้น เป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในกายเป็นนิตย์ ทั้ง กลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. ใจของชนเหล่าใด ยินดีแล้วในอันไม่เบียดเบียน ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้น เป็นสาวกของ พระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. ใจของชนเหล่าใด ยินดีแล้วในภาวนา ทั้งกลาง วันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ"
อ.ธนากร: ผมมีโอกาสได้พบเห็น ความประพฤติเป็นไปของท่นอาจารย์ ที่มีความเคารพนอบน้อมอย่างสูงในพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโอกาสต่างๆ ครับ ก็ทำให้ไม่เห็นใครเลยที่จะเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่ากับท่านอาจารย์ ซึ่งความเป็นจริงต้องเป็นอย่างนั้น ต้องมีเหตุแน่นอนครับ
เมื่อวานนี้ก็ได้สนทนาในเรื่องของ พุทธานุสติ สติที่ตามระลึกถึงพระพุทธคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ่อยๆ เนืองๆ ครับ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่เลื่อนลอย แต่ว่าต้องมาจากความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงขณะนี้
เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า ท่านอาจารย์เป็นผู้ที่รู้เหตุ เป็นผู้ที่รู้ความเป็นไปของการที่จะเห็นคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามากที่สุด ก็อยากให้ท่านอาจารย์ได้กล่าวถึง ความลึกซึ้งของพระพุทธคุณ ครับ ซึ่งมาจากความเข้าใจสิ่งที่มีจริงขณะนี้ครับว่า พวกเราไม่ควรประมาทในอะไร ไม่ควรเผินในอะไร ก็กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์: ความลึกซึ้ง คือสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ยากที่จะปรากฏให้รู้ตามความเป็นจริงได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่ปรากฏ ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ทุกคำต้องมั่นคง ต้องเห็นความลึกซึ้งของความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
คนอื่นก็จะบอกว่า ทุกอย่างกำลังมีจริงๆ เดี๋ยวนี้ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรสทั้งวัน คิดนึก สุข ทุกข์ต่างๆ แล้วจะกล่าวว่า ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริงอย่างไร แล้วใครถูก? เห็นไหม ไม่สามารถจะคิดได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องเข้าใจ คำ ที่ลึกซึ้งอย่างยิ่งของทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตรัสให้รู้ความจริง เมื่อพระองค์ได้ทรงประจักษ์แจ้งความจริงถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง
เพราะฉะนั้น ฟังแล้ว ใครคิดเอง พระพุทธศาสนายากมาก สู้ฟังอย่างนั้นไม่ได้ อย่างนี้ไม่ได้ แล้วก็คิดเองกันไป อย่างนั้นจะไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ว่า จะกราบไหว้ด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ประการใดก็ตาม แต่ไม่ได้รู้คุณเลยสักนิดว่า การที่แต่ละคนสามารถที่จะเข้าถึงความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว ต้องอาศัยอะไรบ้าง? บำเพ็ญบารมีคุณความดีต่างๆ ที่จะไม่ให้อกุศลที่เคยเกิดอย่างมากมายมีโอกาสที่จะเกิดเหมือนเดิม แต่น้อยลง น้อยลง ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
คุณความดี และความเข้าใจก็เพิ่มขึ้น จนกว่าจะประจักษ์แจ้งความจริงที่พระองค์ตรัสว่า สิ่งที่ปรากฏไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง แค่นี้ค่ะ เคารพสูงสุดไหม?
สิ่งที่ปรากฏไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง จะผ่านข้อความนี้ไป ไม่สนใจอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นคำของใคร? และประโยชน์สูงสุดที่ทรงอนุเคราะห์ตรัสคำนี้ให้คนอื่นได้ฟัง ได้ไตร่ตรอง ได้รู้ความจริงว่า ความจริงเป็นอย่างไร ต้องลึกซึ้ง เพราะสิ่งที่ปรากฏไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้น ความจริงจะลึกซึ้งสักแค่ไหน?
อ.ธนากร: ความจริงต้องลึกซึ้งสุดสุดที่จะประมาณครับ
ขอเชิญอ่านเพิ่มได้ที่..
วิธีเจริญพุทธานุสติ [วิสุทธิมรรคแปล]
พุทธานุสสติ [เอกนิบาต-ทุกนิบาต]
ขอเชิญรับฟังวิดีโอได้ที่..
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ธนากร ด้วยความเคารพค่ะ


