ภวังคจิต และสัมมาสมาธิ

 
stfurol
วันที่  23 พ.ค. 2568
หมายเลข  50002
อ่าน  153

ตอนนี้เข้าใจว่า ภวังคจิต ประกอบด้วยอารมณ์เดียวกันกับปฏิสนธิจิต ของผู้ที่เป็นติเหตุกะบุคคล ประกอบด้วย อโลภะ อโทสะ และปัญญาเป็นอารมณ์ (ซึ่งทราบว่ามีสติ ร่วมด้วย) ถ้าอย่างนั้น ช่วงหลับลึก ของติเหตุกะบุคคล เรียกว่าเป็นสัมมาสมาธิไหมครับ

ขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 25 พ.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความจริงแล้ว ภวังคจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนี้ไว้จนกว่าจะจุติ ภวังคจิต รู้อารมณ์เดียวกันกับปฏิสนธิจิต คือ ไม่ได้รู้อารมณ์ของโลกนี้เลย แต่รู้อารมณ์เดียวกันกับอารมณ์ของชวนจิตก่อนตายของชาติที่แล้ว ในชีวิตประจำวันมีจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ สลับกับภวังคจิต (ที่เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยทวารทั้ง ๖ เลย) เพราะเหตุว่า ปฏิสนธิจิตเกิดแล้วดับแล้วตั้งแต่ขณะแรกในภพนี้ชาตินี้ ส่วนจุติจิตซึ่งเป็นจิตขณะสุดท้ายของภพนี้ชาตินี้ ยังไม่เกิดขึ้น แต่ต้องเกิดแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถจะทราบได้ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาใด

สำหรับ ขณะที่หลับสนิทของติเหตุกบุคคล ก็เป็นภวังจิตนั่นแหละ ซึ่งแน่นอนประกอบด้วยอโลภะ อโทสะ อโมหะ (ปัญญา) เมื่อเกิดร่วมกับภวังคจิตที่เป็นชาติวิบาก สภาพธรรมที่เกิดพร้อมกันขณะนั้น ก็เป็นชาติเดียวกัน คือ ชาติวิบาก เอกัคคตา (สมาธิ) ก็มีด้วย ซึ่งเป็นชาติวิบาก จึงไม่เป็นสัมมาสมาธิ เพราะสัมมาสมาธิ ต้องเป็นไปในการอบรมเจริญความสงบของจิตและเป็นไปในการอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้สภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง ครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ stfurol และทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
stfurol
วันที่ 25 พ.ค. 2568

กราบขอบพระคุณครับอาจารย์

กราบอนุโมทนาอาจารย์ครับ

ตอนนี้เข้าใจว่าจะเป็นสัมมาสมาธิ ถ้าเกิดในชาติกุศล หรือชาติกิริยา ครับอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 25 พ.ค. 2568

เรียนความคิดเห็นที่ ๒ ครับ

ยังมีความละเอียดอีกมากที่จะต้องค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกต่อไป ครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ stfurol และทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
stfurol
วันที่ 26 พ.ค. 2568

กราบขอบพระคุณครับอาจารย์

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ