ฟังท่านอาจารย์ทุกคืนๆ

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  13 พ.ค. 2568
หมายเลข  49930
อ่าน  383

ต้องอาศัยการเป็นผู้ตรงต่อตัวเองจริงๆ ว่า รู้จริงหรือว่าคิด ที่ว่าประจักษ์ความเกิดขึ้น และดับไป เพียงแต่ว่าสิ่งนั้นหมดไป โดยที่ไม่ทันรู้ว่านามธรรมหมดไป หรือรูปธรรมหมดไป ลักษณะใดที่หมดไป ซึ่งจะต้องมีการอบรมอีกมากทีเดียว


ผู้ฟัง ผมเปิดฟังท่านอาจารย์ทุกคืนๆ เป็นเวลา ๒ – ๓ ปี สรุปว่า สุขกับทุกข์ทั้ง ๒ อย่างนี้ ถ้าเราใช้สติระลึกถึงสุขกับทุกข์ ๒ อย่างนี้ จะมีทางถึงนิพพานได้ไหม

ท่านอาจารย์ ๒ อย่างเท่านั้นหรือ ต้องมากกว่านั้นมาก เพียง ๒ อย่างเท่านั้นไม่ได้ ตลอดชีวิตไม่ใช่มีแต่สุขกับทุกข์ ๒ อย่าง แต่มีเห็นด้วย เห็นมีไหม ได้ยินมีไหม ได้กลิ่นมีไหม ลิ้มรสมีไหม รู้เรื่องราวต่างๆ มีไหม แล้วทำไมจะมีเฉพาะสุขกับทุกข์เท่านั้นหรือ

ผู้ฟัง ในอายตนะทั้ง ๖ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สิ่งที่จะเกิดสุข และทุกข์ ก็ต้องกระทบไปแล้วทั้งนั้น จึงจะเกิดสุข เกิดทุกข์ ถ้าเราจะสำเหนียก หรือว่าจะใช้สติรำลึกในจุดใหญ่ ๒ จุดนี้ ไม่ได้หรือ

ท่านอาจารย์ สักกายทิฏฐิมี ๒๐ ทางรูปขันธ์ ๔ เวทนาขันธ์ ๔ สัญญาขันธ์ ๔ สังขารขันธ์ ๔ วิญญาณขันธ์ ๔ สักกายทิฏฐิ ๒๐ เคยได้กล่าวถึงแล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้อดทนที่จะฟังต่อไป และจากการฟังนั้นเอง จะทำให้ทราบว่า เพียงรู้สุขเวทนากับทุกขเวทนาเท่านั้นไม่พอ

กำลังเห็นเป็นอวิชชา ขณะที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นอะไร และสภาพที่กำลังเห็นเป็นอะไร เพราะฉะนั้น การที่จะดับกิเลส ต้องดับอวิชชาด้วย

เรื่องการละกิเลสเป็นเรื่องละเอียดมาก ต้องสังเกต สำเหนียก สติระลึกเพิ่มความรู้ขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จึงจะเป็นการรู้ทั่ว รู้ชัด แต่ถ้าเป็นการไปบังคับไว้ สภาพธรรมตามปกติจะไม่เกิดขึ้นให้รู้เลย เพราะเหตุว่าไปบังคับไว้

รับฟังเพิ่มเติม ...

การละกิเลสเป็นเรื่องละเอียดมาก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
talaykwang
วันที่ 14 พ.ค. 2568

"สิ่งที่มีจริง ... ไม่ใช่เรา"

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ