ขับรถยนต์ เดินข้ามถนน
คนที่คิดว่า ขับรถยนต์ เดินข้ามถนน เจริญสติแล้วจะมีอันตราย ก็คงจะพอใจให้เป็นโลภะ โทสะ โมหะ เพราะว่าที่ขับรถยนต์ เดินข้ามถนนนั้น ด้วยโลภะ โทสะ โมหะ ถ้าไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในการเจริญภาวนา ก็ต้องเป็นโลภะ โทสะ โมหะ
ท่านที่เคยขับรถยนต์และยังไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน ในขณะที่กำลังขับรถยนต์ มีโลภะไหม มีโทสะไหม มีโมหะไหม เมื่อเจริญสติ แทนที่จะเป็นโลภะ เป็นโทสะ เป็นโมหะ สติก็ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏ ไม่เป็นโลภะ ไม่เป็นโทสะ ไม่เป็นโมหะ
ท่านจะคิดนึกเรื่องอะไร ท่านจะป้องกันอันตรายใดๆ ท่านจะเหยียด จะคู้ จะไหวอย่างไร แทนที่จะกระทำไปด้วยโลภะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ก็เป็นสติที่รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ สามารถที่จะเป็นไปได้ไหมในวันหนึ่งๆ ด้วยความรวดเร็วของจิต ไม่ใช่ว่าจะต้องไปทำช้าๆ จดจ้อง วันหนึ่งไม่ให้รู้อะไร ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นปกติธรรมดา แต่แทนที่จะเป็นโลภะ โทสะ โมหะ ก็เป็นสติ
เดินข้ามถนนด้วยกัน คนหนึ่งเดินด้วยโลภะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ แต่สำหรับคนที่เจริญสติปัฏฐาน เห็น ได้ยิน เหมือนกันทุกอย่าง แต่แทนที่จะเป็นโลภะ โทสะ โมหะ ก็เป็นสติที่รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ตรงกับสภาพธรรมและพระธรรมที่ได้แสดงไว้ ในเรื่องการสังวรทางตา จักขุนทรีย์สังวร โสตินทรีย์สังวร ฆานินทรีย์สังวร ชิวหินทรีย์สังวร กายินทรีย์สังวร มนินทรีย์สังวร
สังวรได้ทั้ง ๖ ทาง ไม่ใช่ได้แต่เฉพาะ ๕ ทาง ใจจะคิดนึก จะรู้เรื่อง จะรู้ความหมาย สติก็รู้ว่า สภาพนั้นก็เป็นนามธรรม รวดเร็วมาก ไม่ทำให้เกิดอันตรายได้เลย แทนที่จะเป็นโมหะ โลภะ โทสะ ก็เป็นสติ เป็นกุศล ควรเจริญ ไม่ใช่ควรเว้น [ตอนที่ 43]
รับฟัง ...

"ธรรมดา คือความเป็นไปของธรรม แต่เวลาธรรมเป็นไป ... ไม่รู้
ศึกษาเพิ่มเติม
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ




