เรากำลังพูดถึงสิ่งที่กำลังมี

 
เมตตา
วันที่  10 พ.ค. 2568
หมายเลข  49898
อ่าน  301

อ.อรรณพ: เดี๋ยวต้องกราบเท้าถามท่านอาจารย์ แต่ว่า ผมขอให้ อ.คำปั่น ช่วยแปลคำว่า ปริยัติ ครับ ต้องการเข้าใจที่เริ่มเข้าใจพระธรรม ปริยัติ ขอ อ.คำปั่น ช่วยให้ความหมายศัพย์นี้ก่อนครับ ปริยัติ ครับ

อ.คำปั่น: ปริยิติ ก็คือความรอบรู้ในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ เพราะว่า สิ่งที่ควรศึกษา ควรเรียนให้เข้าใจ ก็คือพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่ง คำ แต่ละคำของพระองค์ก็ดำรงสืบทอดมาจนถึงยุคนี้สมัยนี้ ที่ปรากฏจารึกในพระไตรปิฏก และก็อรรถกถาทั้งหมด นี่ก็คือเป็นสิ่งที่ควรเรียน ควรศึกษาให้เข้าใจ

เมื่อศึกษามีความเข้าใจใน แต่ละคำ ของพระองค์อย่างมั่นคง นั่นคือ ปริยัติ คือความรอบรู้ในพระพุทธพจน์ ซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

อ.อรรณพ: กราบท่านอาจารย์ครับ ที่ อ.คำปั่น ได้กล่าวมานี่ เป็นพื้นฐานความเข้าใจตั้งแต่ศัพท์มาเลยนะครับ การที่จะรอบรู้ในพระพุทธพจน์นี่ คืออย่างไร ครับ ก็มีอยู่ ๒ อย่าง ก็คือ

๑) ก็พยายามที่จะอ่านจะจำ บางคนก็ท่องพระสูตรได้ ท่องพระไตรปิฎกได้ก็มีครับ แล้วก็ แล้วคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสใน ๔๕ พรรษา มากมายจริงๆ ครับ ถ้าจะรอบรู้ในพระพุทธพจน์ได้อย่างไร ในเมื่อ คำ มากมายมากมาย ๔๕ พรรษา แล้วเราก็ปัญญาน้อยมาก เพราะว่า ไม่ใช่บุคคลในสมัยโน้น ไม่ใช่ท่านพระอานนท์ ไม่ใช่ศิษย์ขั้นต้นๆ ของท่านพระอานนท์ครับ การจะรอบรู้ในพระพุทธพจน์คืออย่างไร จะเป็นปริยัติ กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ อันนี้สำคัญมาก

ท่านอาจารย์: ไม่ใช่รอบรู้ในคำแปลอย่างที่ฟังแล้ว แต่รู้ว่า ธรรมมีจริง เห็นไหม? นี่ขั้นฟังนะ รู้ว่า ธรรมมีจริง และถ้าพูดถึงอะไร สิ่งนั้นกำลังมี เช่น เวลานี้พูดถึงเห็น ทุกคนรู้ มีเห็น แต่เข้าใจว่า เรากำลังพูดถึงเห็นจริงๆ หรือเปล่า เพื่อที่จะได้รู้ความจริง เห็น คืออะไรจนมั่นคง

ถ้าไม่มั่นคง ก็แสดงว่า ลืม แล้วก็เพียงแค่จำ แต่ว่า ไม่รู้ว่า เรากำลังพูดถึงสิ่งที่กำลังมี แต่ไม่ได้รู้ความจริงเลย เพราะกำลังพูดถึงเห็น และเห็นก็กำลังเห็น ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสเรื่องเห็นให้เริ่มเข้าใจถูกต้อง ใครจะรู้ว่า เดี๋ยวนี้เห็นมี แต่ไม่ได้ตรงเห็น ไม่ได้รู้ว่าเป็นธรรม ฟังแต่ชื่อว่า เห็นมี แต่เดี๋ยวนี้กำลังเห็น เห็นมี

เพราะฉะนั้น ฟังเรื่องเห็น เพื่อเข้าใจเห็น ไม่ใช่เข้าใจเรื่องอื่น

เพราะฉะนั้น เข้าใจเห็นแล้วหรือ? จึงจะต้องฟังเรื่องเห็น จนกระทั่งรอบรู้ในความเป็นเห็น จนค่อยๆ รู้ว่า ขณะนี้ เห็น ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง เพียงแต่เริ่มรู้ว่า เห็นเป็นเห็นอย่างไร ในขณะที่กำลังเห็น

อ.อรรณพ: เพราะฉะนั้น ที่ค่อยๆ เริ่มรู้ว่า เห็นเป็นเห็นอย่างไร แล้วก็ไม่ใช่ เห็น ในหนังสือที่ไหน แต่เห็นในขณะนี้

เพราะฉะนั้น ขณะนี้ที่กำลังเห็น ก็ค่อยๆ เข้าใจว่า เห็น เป็นสภาพที่เห็นจริงๆ ที่มีเดี๋ยวนี้ แม้ยังจะไม่ได้รู้ตรงเห็น แล้วไม่ได้ประจักษ์การเกิดดับของเห็นจริงๆ ครับ แต่เมื่อแม้เข้าใจถูกในขั้นฟังขั้นไตร่ตรอง ก็ค่อยๆ เริ่มที่จะรู้ แต่รู้เท่านี้ก็คงไม่พอ จนกว่าจะรอบรู้จริงๆ

ซึ่งวันนี้เป็นชาวพุทธหรือยังครับ เริ่มเข้าใจถูกแม้ขั้นการฟังว่า ขณะนี้เป็นธรรมเดี๋ยวนี้ เห็นเดี๋ยวนี้แหละเป็นสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งไม่ใช่คน ไม่ใช่เราจริงๆ เลย ก็เริ่มเป็นชาวพุทธครับ แล้วก็ต้องค่อยๆ รู้ต่อไปจนรอบรู้จริงๆ ที่จะเป็นปริยัติ ซึ่งท่านอาจารย์ก็อนุเคราะห์มาก ผมก็ปรารภด้วยความซาบซึ้งในความกรุณาที่ท่านอาจารย์เกื้อกูลพวกเรามากทีเดียว

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

ปริยัติ

ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ...

ผู้ที่ทรงไว้ซึ่งปริยัติ ที่จะไม่พ้นทุกข์ ไม่มี

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ปริยัติไม่ใช่จำเรื่อง

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ต้องตรงกัน

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ และ อ.คำปั่น ด้วยความเคารพค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 10 พ.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ