เดี๋ยวนี้มีบาปไหม?

อ.อรรณพ: กราบท่านอาจารย์ครับ เห็นบาปโดยความเป็นบาป ที่ท่านอาจารย์สนทนากับ อ.ณภัทร ว่า แม้ในขั้นฟัง ขั้นไตร่ตรอง ในแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงนะครับ แต่เป็นขั้นศึกษา ขั้นไตร่ตรอง ขั้นเข้าใจครับก็พอจะมีกุศลมีปัญญาในขั้นไตร่ตรองที่จะเห็นบาปโดยความเป็นบาปบ้าง อย่างเช่นที่ อ.ณภัทรได้กล่าว เช่น การที่เคยมีการเพ่งแต่ความไม่ดีของผู้อื่น เขาไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ ก็เริ่มเห็นว่า อันนี้ไม่ดี
แล้วก็ประทับใจที่ท่านอาจารย์ก็กล่าวอยู่เรื่อยๆ แม้ที่นิกันติว่า ถ้ามีคนเขาพูดอะไรไม่ดี หรือทำอะไรไม่ดีกับเรา เป็นอย่างไรนะครับ
ถ้าเห็นบาปโดยความเป็นบาป แม้ในขั้นไตร่ตรอง ก็จะมีความคิดชอบว่า เราจะไม่พูดอย่างนี้กับใคร เราจะไม่ทำไม่ดีอย่างนั้นกับใคร ซึ่งเมื่อคนเขาทำไม่ดี พูดไม่ดีอย่างนี้ เราเองก็ไม่ชอบ ไม่ชื่นชม ไม่น่าฟัง ก็ไม่ทำใช่ไหม?
เพราะฉะนั้น อย่างนี้ก็ยังเป็น การเห็นบาปโดยความเป็นบาป เมื่อคืนก็มีการสนทนากัน ก็หลายๆ ท่านก็มีกุศลจิตอันเกิดจากความเข้าใจธรรมที่จะเห็นความไม่ดีโดยความไม่ดี หรือบาปโดยความเป็นบาปกันในชีวิตประจำวัน
ทีนี้ผมก็มาปรารถถึง บาปอันเป็นก้นบึ้ง ที่เห็นว่า เป็นบาปโดยความเป็นบาปได้ยากจริงๆ เลย ก็คือ ความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ แม้จะมีกุศลที่เห็นบาปโดยความเป็นบาปที่จะไม่ทำไม่พูดสิ่งที่ไม่ดีนะครับ เพราะเห็นโทษในขั้นคิดนึก แต่ยากที่จะเห็นก้นบึ้งของบาป คือความไม่รู้ ว่า ความไม่รู้เป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ปกปิดสิ่งที่กำลังปรากฏ อยู่ครับ
เพราะฉะนั้น ในความที่จะเป็นประโยชน์ ก็ต้องกราบเท้าขอท่านอาจารย์ได้กล่าวถึง การที่จะเห็นบาป คือความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏครับมีความละเอียดอย่างไร
ท่านอาจารย์: เริ่มด้วยความเป็นผู้ตรง เดี๋ยวนี้มีบาปไหม?
อ.อรรณพ: มีครับ เท่าที่ไตร่ตรอง
ท่านอาจารย์: แล้วถ้าไม่รู้บาปเดี๋ยวนี้ จะรู้เมื่อไหร่?
อ.อรรณพ: ก็ไม่รู้ไปเรื่อยๆ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น หนทางที่จะรู้มีไหม?
อ.อรรณพ: มีครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่จะรู้
ท่านอาจารย์: นั้น คืออะไร?
อ.อรรณพ: คือความเข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ท่านอาจารย์: อยู่ดีๆ ก็เข้าใจถูกได้ไหม?
อ.อรรณพ: ไม่ได้ครับ ต้องมีเหตุ
ท่านอาจารย์: และเหตุคืออะไร?
อ.อรรณพ: คือการฟัง คำ ของพระองค์แต่ละคำด้วยความเคารพด้วยความละเอียดด้วยความตรงด้วยความจริงใจครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อทุกคำของพระองค์ ที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวันธรรมดาที่สุด กำลังมีอยู่ขณะนี้ให้รู้ว่า ความจริงของขณะทุกขณะคืออะไร โดยละเอียดอย่างยิ่ง เพื่อที่จะให้เข้าใจว่า แต่ละ หนึ่งขณะ ต่างกันเพราะเหตุปัจจัย
แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่มีจริงขณะนี้ต่างกัน แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วก็จะพยายามไปรู้ความจริงโน่นนี่ได้อย่างไร นอกจากจะต้องเริ่มรู้ความจริงว่า สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ที่ต่างกันอะไรบ้าง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ ด้วยความเคารพค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ



