จิตนำไป กับวิตกเจตสิกเป็นเท้าของโลก
อ.ธีรพันธ์: การศึกษาธรรมนี่ บางทีสนทนาบางครั้งก็อาจจะเพียงต้องการ คำตอบ เท่านั้นเอง แต่ความลึกซึ้ง อย่างเช่น คำว่า จิตนำไป กับวิตกเป็นเท้าของโลก ความจริงก็ไม่ใช่สภาพธรรมเดียวกัน แต่ว่า ความสอดคล้องอย่างไรครับจึงไม่เข้าใจผิดว่า คำว่า นำไป กับการที่ว่า วิตก เป็นเท้าของโลก ก็ก้าวไปอยู่เหมือนกันครับ ก้าวไป จิตก็นำไป จะเห็นความแตกต่าง และความลึกซึ้งอย่างไรครับ
ท่านอาจารย์: จะเอา คำ หรือเอาความหมายซึ่งเป็นความจริงของสภาพธรรม?
อ.ธีรพันธ์: เอาความหมายครับ
ท่านอาจารย์: ถ้าความหมาย ก็ต้องเข้าใจว่า จิต คืออะไร? วิตก คืออะไร? ถึงจะไม่สงสัย ไม่ใช่เอา คำ นั้นมานำหน้า จะได้รู้จักสภาพธรรมนั้น แต่ต้องรู้จัก ภาวะ ความเป็นสภาพนั้น ไม่ว่าจะใช้คำอะไร ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็ไม่ผิดไม่ว่าจะใช้คำอะไร เพราะมีอะไรที่อยู่เฉยไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไม่มีครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็ต้องไปทั้งหมดใช่ไหม?
อ.ธีรพันธ์: ครับ
ท่านอาจารย์: ไปด้วยทุกอย่าง แต่ใครไปอย่างไร ไปแบบไหน ไม่ว่าจะเกิดด้วยกัน
อ.ธีรพันธ์: ท่านอาจารย์พูดอย่างนี้ละเอียดลึกซึ้ง ทำให้ผมคิดว่า การศึกษาธรรมเราคิดเอง อย่างเช่น ผมก็แยกไปเลยครับ จิตเป็นคนละเรื่องกับวิตก แต่ตอนท่านอาจารย์พูด คำว่า จิตก็นำไป วิตกก็ก้าวไป
ท่านอาจารย์: ไม่ต้องใช้ นำไป ก้าวไป ได้ไหม? เดี๋ยวจะไปติดที่คำ แล้วก็จำว่า นำ กับก้าว
มีอะไรบ้างไหม ที่ไม่ไป?
อ.ธีรพันธ์: ไม่มีเลยครับ
ท่านอาจารย์: ไม่มี เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่เกิด ไปหมด ใช่ไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไปหมดเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น แต่ละหนึ่งต่างกัน ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
อ.ธีรพันธ์: ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จิตไปแบบไหน วิตกไปแบบไหน ไปด้วยกัน จิตก็ไป ไม่ใช่จิตไป แล้ววิตกไม่ไป
อ.ธีรพันธ์: ครับ จิต เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์
ท่านอาจารย์: ไปสู่อารมณ์เท่านั้น โดยจิต คือรู้แจ้งลักษณะเฉพาะของอารมณ์นั้นเท่านั้น ต้องไม่ลืมเลย
อ.ธีรพันธ์: แต่ ก้าวไป ...
ท่านอาจารย์: ไปเอา ก้าว มาอีกแล้ว เพราะฉะนั้น ฟังให้เข้าใจธรรมว่า ทุกอย่าง ไป ใช่ไหม?
อ.ธีรพันธ์: ครับ ไปครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ทุกอย่างใช่ไหม?
อ.ธีรพันธ์: ทุกอย่างครับ
ท่านอาจารย์: จิต ไปไหม? เจตสิก ไปไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไปครับ
ท่านอาจารย์: ไม่ต้องไปคิดถึง ก้าว อะไรเลยทั้งสิ้น จิตก็ไป เจตสิกก็ไป แต่จิตไปแบบไหน และก็วิตกเจตสิกไปแบบไหน
อ.ธีรพันธ์: ท่านอาจารย์พูดอย่างนี้ ทำให้ผมคิดถึง คำว่า วิตก ไม่ใช่เพียง ก้าวไป แต่ จรด ในอารมณ์ ตรงนี้ครับที่ได้สนทนาเพิ่มเข้ามาแล้วครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะลืมอะไรได้ไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไม่ได้เลยครับ ก็ก้าวไปไม่หยุด
ท่านอาจารย์: ต้องก้าวไปไหม หรือไปไม่หยุด
อ.ธีรพันธ์: ไม่ต้องก้าวครับ
ท่านอาจารย์: เกิดแล้วก็ไปๆ ๆ แต่ก่อนจะไปนี่ เกิดมาทำอะไร?
อ.ธีรพันธ์: ก็มีความลึกซึ้งมากเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปจำ คำ และก็พูดตาม ไม่อย่างนั้นก็กลายเป็นก้าวบ้าง กลายเป็นนำบ้าง กลายเป็นยกขึ้นบ้าง อะไรสารพัดอย่าง แต่ว่า ต้องเข้าใจความหมายจริงๆ ของภาวะที่มีจริงขณะนั้น
แต่ไม่ต้องไปติดที่คำ ไม่ต้องไปน้อม ไม่ต้องอะไรไปเรื่อยๆ พูดแต่คำ แต่ว่าต้องเข้าใจความหมาย
อ.ธีรพันธ์: นำไป นี่กินความมากเลย ทั้งเป็นใหญ่ ทั้งเป็นนำ ทุกอย่างครับ
ท่านอาจารย์: ไม่ต้องนำได้ไหม ไปเฉยๆ ?
อ.ธีรพันธ์: ไม่ต้องนำก็ได้ครับเพราะเป็นสภาพรู้
ท่านอาจารย์: ติดคำหมดเลย พูดอะไรก็ตาม คำแปลหมด
อ.ธีรพันธ์: ศึกษาติดในคำทั้งนั้นเลยครับ
ท่านอาจารย์: ก็ติดแล้ว ก็สงสัยอีก ก็เพราะเหตุว่า ไม่รู้จักตัวธรรม ถ้ารู้จักตัวธรรม ไม่ติดคำเลยไม่ต้องไปใช้คำตามนั้น เพราะสามารถเข้าถึงความเป็นจริงของสภาพนั้น เข้าใจในความเป็นอย่างนั้น
อ.ธีรพันธ์: ครับ ในความเป็นอย่างนั้น โดยไม่มีชื่อ
ท่านอาจารย์: ต่างกันเอง ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
อ.ธีรพันธ์: ครับผม
ขอเชิญอ่านเพิ่มได้ที่..
ขอเชิญฟังเพิ่มได้ที่..
วิตกเจตสิก เป็นได้ทั้งสัมมาสังกัปปะ หรือ มิจฉาสังกัปปะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ธีรพันธ์ ด้วยความเคารพค่ะ