[คำที่ ๗๐๕] ปญฺญาชนน

 
Sudhipong.U
วันที่  27 ก.พ. 2568
หมายเลข  49547
อ่าน  420

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ “ปญฺญาชนน”

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

ปญฺญาชนน อ่านตามภาษาบาลีว่า ปัน - ยา - ชะ - นะ - นะ มาจากคำว่า ปญฺญา (ปัญญา, ความเข้าใจถูกเห็นถูก) กับคำว่า ชนน (ยัง ... ให้เกิดขึ้น, ทำให้เกิดขึ้น) รวมกันเป็น ปญฺญาชนน แปลว่า ยังปัญญาให้เกิดขึ้น , ทำให้ปัญญาเกิดขึ้น เป็นอีก ๑ คำที่แสดงถึงคุณของพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ทุกคำของพระองค์เพื่อปัญญาอย่างแท้จริง พระธรรมทั้งหมดยังปัญญาให้เกิดขึ้น ทำให้ปัญญาเกิดขึ้น ไปตามลำดับจนถึงสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น

ข้อความในมโนรถปูรณี อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต แสดงถึงการชื่นชมสรรเสริญพระดำรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีประการต่างๆ รวมถึง ทำให้เกิดปัญญาด้วย ดังนี้

พระดำรัสของพระโคดมผู้เจริญดียิ่ง เพราะดียิ่ง เพราะให้บรรลุคุณ พึงประกอบเหมือนกัน ด้วยบทมีอาทิอย่างนี้ว่า “เพราะให้เกิดศรัทธา เพราะให้เกิดปัญญา เพราะมีอรรถ เพราะมีพยัญชนะ เพราะบทตื้น เพราะอรรถลึก เพราะสะดวกหู เพราะถึงใจ เพราะไม่ยกตน เพราะไม่ข่มท่าน เพราะเย็นด้วยกรุณา เพราะตรัสด้วยปัญญา เพราะเป็นทางที่น่ารื่นรมย์ เพราะข่มศัตรูได้ เพราะสบายแก่ผู้ฟัง เพราะน่าพิจารณา และเพราะเกื้อกูล”


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมในแต่ละครั้ง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง เพียงพอแก่ผู้ที่สามารถจะเข้าใจได้ ตามกำลังปัญญาของผู้นั้น พระองค์มิได้ทรงบังคับให้ผู้ใดมานับถือพระองค์ แต่คำจริงที่พระองค์ตรัสแต่ละคำๆ เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลแก่ผู้นั้น พระองค์ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา มีการพิจารณาไตร่ตรอง เห็นด้วยตนเองตามความเป็นจริง เกิดปัญญาเป็นของตนเอง เมื่อได้ฟัง ได้พิจารณา เข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว จากที่เคยเป็นผู้มากไปด้วยอกุศลประการต่างๆ ก็สามารถที่จะละคลายอกุศล ขัดเกลากิเลสของตนเอง และอบรมเจริญธรรมฝ่ายดีเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงตามความเป็นจริง ขัดเกลาละคลายอกุศลธรรมทั้งหลาย มีความเห็นผิด ความติดข้อง และความไม่รู้ เป็นต้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นเครื่องป้องกันความเห็นผิดที่คลาด-เคลื่อนจากความเป็นจริง ป้องกันไม่ให้ตกไปในฝ่ายผิด พระธรรมย่อมจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาอย่างแท้จริง ทำให้มีความมั่นคงในความเป็นจริง มั่นคงในความถูกต้อง ไม่หวั่นไหวไม่คล้อยตามในสิ่งที่ผิดที่ไม่ตรงตามพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำสอนของพระองค์ เกิดจากพระปัญญาตรัสรู้ซึ่งทรงต้องอาศัยการสะสมพระบารมีซึ่งเป็นคุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลสมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดง ย่อมไม่พ้นจากสิ่งที่มีจริง คำที่พระองค์ตรัส เป็นคำจริง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด

บุคคลผู้ที่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว มีความเข้าใจไปตามลำดับ ก็จะเห็นพระคุณของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงว่า ถ้าพระองค์ทรงไม่แสดงสภาพธรรมโดยนัยต่างๆ อย่างละเอียดแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายย่อมไม่สามารถพ้นไปจากความเห็นผิดและไม่สามารถพ้นไปจากความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏได้เลย

แม้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว แต่พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นศาสดาแทนพระองค์ พระธรรมยังดำรงอยู่ซึ่งถ้าผู้ใดไม่ศึกษาพระธรรม ไม่ฟังพระธรรม แต่คิดเอาเองว่าเข้าใจธรรมแล้ว ก็ย่อมจะเป็นผู้ที่ประมาทอย่างแท้จริง เพราะย่อมมีความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อน ไม่สามารถที่จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงได้เลย แต่ว่าถ้าศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมอยู่เสมอบ่อยๆ เนืองๆ ด้วยความละเอียดรอบคอบไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระองค์ทรงแสดง ก็ย่อมมีความเข้าใจในสภาพธรรมที่ปรากฏเพิ่มขึ้น มั่นคงในความเป็นจริงยิ่งขึ้น

กล่าวได้เลยว่าก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม ไม่มีความรู้อะไรเลยทั้งสิ้นในสิ่งที่มีจริงในชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายและจะไม่รู้อย่างนั้นไปตลอด ไม่มีใครที่จะสามารถให้ความจริงให้ความเข้าใจได้เลย แต่อานุภาพของพระธรรมซึ่งเป็นคำจริงแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว จะอุปการะเกื้อกูลให้เกิดสิ่งที่ไม่เคยเกิดในสังสารวัฏฏ์ คือ ความเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่มีและทำให้รู้ว่าผู้ที่สามารถรู้ความจริงที่จะทรงสามารถแสดงความจริงนี้ได้ คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ดังนั้น จึงต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เห็นถึงพระมหากรุณาคุณของผู้ที่ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาจนถึงความตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงสามารถที่จะทรงแสดงธรรมที่ได้ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ให้คนอื่นได้ฟัง ได้พิจารณา ได้น้อมประพฤติปฏิบัติตาม ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก จะค่อยๆ เจริญขึ้นจากพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง เมื่อมีความเข้าใจถูก ก็สามารถรู้ว่า สิ่งใดเป็นอกุศล สิ่งที่ไม่ดี และสิ่งใดที่เป็นกุศล เป็นความดีประการต่างๆ ปัญญาจะนำไปสู่ทางของกุศล ค่อยๆ ออกห่างจากอกุศลซึ่งเคยมีมากมายไปทีละเล็กทีละน้อย ปัญญานำไปในกิจทั้งปวงที่เป็นกุศลอย่างแท้จริง ถือเอาเฉพาะสิ่งที่ควร ละทิ้งสิ่งที่ไม่ควรโดยประการทั้งปวง ทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็มาจากได้อาศัยพระธรรมแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นคำสอนที่ยังปัญญาให้เกิดขึ้นหรือทำให้ปัญญาเกิดขึ้นโดยตลอด

ขอเชิญติดตามอ่านคำอื่นๆ ได้ที่..

บาลี ๑ คำ


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ