ขอถามเรื่องอสัญญสัตตาพรหมครับ
อยากขอถามครับว่า พอจะมีการยกตัวอย่างของรูปลักษณะ ของ อสัญญสัตตาพรหมไหมครับ
เช่นตอนที่เป็นรูปนั้น คือเป็นรูปในลักษณะไหนหรอครับ
เป็นรูปในแบบลักษณะของมนุษย์ได้หรือเปล่าครับ เช่น ก่อนตาย เป็นมนุษย์ และยังทำรูปฌานแบบอสัญญสัตตาพรหมได้ จนไปปฏิสนธิเพียงรูป รูปนั้นสามารถเป็นศพที่อยู่ไปหลายกัปโดยที่ไม่เน่าไม่เปื่อยได้ ใช่อะไรแบบนีไหมครับ
หรือสามารถไปเป็นภูเขา หรือ ต้นไม้ ก้อนหิน ได้ตลอดหลายกัป จนกว่าจะหมดวิบาก ถึงจะกลับมามีนามขันธ์อีกครั้ง แบบนี้เป็นไปได้ไหมครับ
คือความสงสัยของผมคือ ผมนึกภาพไม่ออกอะครับ ว่าอสัญญสัตตาพรหม มีตัวอย่างรูปร่างแบบไหนบ้างหรอครับ
เพราะถ้ามีแต่รูป รูปนั้นเป็นรูปหยาบ หรือ รูปละเอียดหรอครับ
เป็นรูปที่มนุษย์ธรรมดามองเห็นได้รึเปล่าครับ หรือเป็นรูปทิพย์ ที่ต้องเห็นด้วยตาทิพย์เอาอ่ะครับ
ช่วยยกตัวอย่าง ลักษณะรูป ของพรหมชั้นนี้ แบบนี้ ให้เห็นภาพทีได้ครับ ว่าพวกเขา สามารถมีลักษณะเป็นเช่นไรได้บ้าง ตามที่มีหลักฐานอ้างอิงไว้ในพระไตรปิฎกอะครับ
หรือช่วยบอกในรูปแบบไหนก็ได้ครับ ที่พอจะช่วยเอื้ออำนวยให้ผมได้เข้าใจ และเห็นภาพมากขึ้นในเชิงรูปธรรม เกี่ยวกับ พรหมชั้น อสัญญสัตตาพรหมมากขึ้นทีนะครับ
เพราะบางทีผมก็ไปคิดไปเข้าใจ อาจจะผิดพลาดได้เช่น เรื่องของภูเขาศักสิทธิ หรือก้อนหิน หรือต้นไม้ศักสิทธิคือใช่สิ่งนี้รึเปล่า
หรือความจริงคือ อสัญญสัตตาพรหม บางที ก็อาจจะเป็น รูปลักษณ์ ที่เคลื่อนไหวได้ หรือเคลื่อนไหวไม่ได้ เหมือนอย่างมนุษย์ หรือเทวดา แต่เพียงแค่ ไม่มีนาม ความคิดไม่มี ความจำไม่มี ความรู้สึกไม่มี การรับรู้ไม่มี อย่างชั่วคราวทั้งหมด ในขันธ์ที่เหลืออีก4ขันธ์
ขอความกรุณาในคำตอบที่พึงเมตตาจะช่วยตอบให้ผมทีนะครับ
กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับท่านอาจารย์
ขออีกหนึ่ง คำถามนะครับ
ผมเคยได้ยินว่า มีบางคนบางกลุ่ม เชื่อว่า หิน หรือ คริสตัล อัญญมณี บางประเภทนั้น มีจิตอาศัยอยู่ หรือมีนามความนึกคิดอาศัยอยู่ เรียกว่า มีความครบองค์ในขันธ์ 5 อยู่เลย
สิ่งนี้ สามารถเป็นไปได้ไหมครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ สิ่งนี้เราสามารถเรียกได้ว่าอะไรเมื่อเทียบกับในภพภูมิหรอครับ
ขอบพระคุณมากครับผม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตอบคำถามข้อที่ ๑
อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ ๑๙๘ มีดังนี้
สำหรับพวกอสัญญีสัตว์ ชีวิตนวกะนั่นแลตั้งอยู่โดยความเป็นปฏิสนธิ เพราะฉะนั้น อสัญญีสัตว์เหล่านั้น ชื่อว่า มีรูปเป็นปฏิสนธิ ฯ
อสัญญสัตตาพรหม มีกลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรมเพียง ๑ กลุ่ม คือกลุ่มของรูปที่เป็นชีวิตนวกกลาป เป็นกลุ่มของรูปที่รักษากัมมชรูปกลุ่มอื่น โดยเฉพาะชีวิตรินทียรูป ที่มีลักษณะรักษาสหชาตรูป คือรูปที่เกิดขึ้นพร้อมกันให้มีชีวิตดำรงอยู่ได้เหมือนน้ำที่หล่อเลี้ยงดอกอุบล ฉะนั้น ชีวิตรูปเป็นรูปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน คือเกิดจากกรรม จึงตามอนุบาลรักษากัมมชรูปที่เกิดพร้อมกันเท่านั้น ทำให้รูปของสัตว์ที่มีชีวิตแตกต่างจากรูปของสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือสัตว์ที่ตายแล้ว
สำหรับบุคคลผู้ที่จะไปเกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหมนั้น เมื่อบุคคลนั้นตายด้วยอิริยาบถใด อสัญญาสัตตาพรหมก็มีอิริยาบถนั้นไปตลอดอายุซึ่งมีอายุ ๕๐๐ กัปป์ ซึ่งในขณะนั้นไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมเลยแม้แต่น้อย แต่ก็อยู่ด้วยกำลังของกุศลที่เป็นฌาน ดำรงอยู่เท่าที่กำลังแห่งฌานยังมีอยู่ ตามข้อความในพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๒๖๔ ดังนี้
"ในพวกอสัญญีสัตว์นั้น ปรากฏแต่เพียงรูปขันธ์เท่านั้น. ธรรมดาว่า ลูกศรที่ถูกซัดขึ้นไปด้วยกำลังสายธนู ย่อมไปในอากาศเท่ากำลังสายธนูนั้นเอง ฉันใด อสัญญีสัตว์เหล่านั้นในชั้นอสัญญีสัตว์นั้น ถูกซัดไปด้วยกำลังแห่งฌาน เกิดขึ้นแล้ว ก็จะดำรงอยู่ได้ตลอดกาลเท่าที่กำลังฌานมีอยู่เท่านั้น ฉันนั้นนั่นแล. แต่เมื่อกำลังฌานเสื่อมถอย รูปขันธ์ในชั้นอสัญญีสัตว์นั้น ก็จะอันตรธาน"
เรื่องพรหมบุคคล เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ขณะนี้พวกเราได้เกิดในภูมิมนุษย์ซึ่งเป็นภูมิที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญกุศลได้ทุกประการไม่มีเว้นเลย และยังเป็นยุคที่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงอยู่ จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งในชีวิตที่จะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ไม่ควรละเลยโอกาสที่มีค่าอย่างสูงสุด
ขอเชิญอ่านคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติม ดังนี้
"ผลของกรรมที่ทำให้เกิดในอสัญญสัตตาพรหมภูมิ คือ มีรูปเกิดขึ้น เป็น รูปปฏิสนธิโดยที่ไม่มีจิตเจตสิกเกิดเลย ด้วยกำลังของปัญจมฌานซึ่งคลายความพอใจยินดีในนามธรรม
ในขณะที่เป็นอสัญญสัตตาพรหม ไม่ต้องรับผลของกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ผิดกับอรูปพรหมภูมิ เพราะว่าอรูปพรหมภูมิมีปฏิสนธิจิต มีภวังคจิตซึ่งดำรงภพชาติความเป็นอรูปพรหมบุคคล และมีอายุที่ยืนยาวมาก แต่สำหรับอสัญญสัตตาพรหม เป็น รูปปฏิสนธิ เมื่อไม่มีนามคือจิตเจตสิกเกิดเลย จึงไม่มีวิบากคือการรับผลของกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีจิตประเภทหนึ่งประเภทใดเลยระหว่างที่ยังเป็นอสัญญสัตตาพรหมบุคคล
เพราะฉะนั้น ถ้ามีคำถามว่า ปฏิสนธิไม่มีอารมณ์ มีไหม มี ได้แก่ รูปปฏิสนธิเป็นอสัญญสัตตาพรหม แต่ถ้าถามว่า ปฏิสนธิจิตไม่มีอารมณ์ มีไหม ไม่มี เพราะถ้าเป็นจิต ต้องรู้อารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทหนึ่งประเภทใดทั้งสิ้น
ถ้าถามสั้นๆ ว่า ปฏิสนธิไม่มีอารมณ์มีไหม ตอบว่า มี คือ รูปปฏิสนธิของ อสัญญสัตตาพรหมบุคคล แต่ถ้าถามว่า ปฏิสนธิจิตไม่มีอารมณ์มีไหม ต้องตอบว่า ไม่มี เพราะไม่ว่าจิตประเภทใดก็ตาม เกิดขึ้นในภพภูมิใดก็ตาม ต้องรู้อารมณ์ ต้องมีอารมณ์ทั้งนั้น"
ตอบคำถามข้อที่ ๒
หิน หรือ คริสตัล อัญญมณี เป็นเพียงกลุ่มของรูปธรรม จึงไม่มีนามธรรม เกิดขึ้น ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ Anyana และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 1 โดย Anyana
ขออีกหนึ่ง คำถามนะครับ
ผมเคยได้ยินว่า มีบางคนบางกลุ่ม เชื่อว่า หิน หรือ คริสตัล อัญญมณี บางประเภทนั้น มีจิตอาศัยอยู่ หรือมีนามความนึกคิดอาศัยอยู่ เรียกว่า มีความครบองค์ในขันธ์ 5 อยู่เลย
สิ่งนี้ สามารถเป็นไปได้ไหมครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ สิ่งนี้เราสามารถเรียกได้ว่าอะไรเมื่อเทียบกับในภพภูมิหรอครับ
ขอบพระคุณมากครับผม
ขอถามอีกนิดนึงนะครับอาจารย์
ต้นไม้ แผ่นดิน ดวงอาทิตย์ มีนามประกอบไหมครับ
ถ้าไม่มีนาม อสัญสัตตาพรหม สามารถเป็น ต้นไม้ แผ่นดิน ดวงอาทิตย์ ในบริบทนี้ ได้หรือไม่ครับ
เช่น พอเกิดเป็น ต้นไม้ แผ่นดิน ดวงอาทิตย์ หมดอายุไข ก็กลับมาเกิดเป็นขันธ์5ครบถ้วนอีกครั้ง แบบนี้ เป็นไปได้ไหมครับ
ขอบพระคุณครับผม


