ภาษาบาลีสัปดาห์ละคำ [คำที่ ๖๙๘] สมฺมทกฺขาต

 
Sudhipong.U
วันที่  16 ม.ค. 2568
หมายเลข  49378
อ่าน  69

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ สมฺมทกฺขาต

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

สมฺมทกฺขาต อ่านตามภาษาบาลีว่า สำ - มะ - ทัก - ขา - ตะ มาจากคำว่า สมฺมา (โดยชอบ) กับคำว่า อกฺขาต ( ตรัสแล้ว, กล่าวแล้ว ) (รัสสะ อา คือ ทำสระ อา ตรงคำว่า สมฺมา ให้สั้น แล้ว ลง ท) จึงรวมกันเป็น สมฺมทกฺขาต แปลว่า ตรัสไว้โดยชอบแล้ว หรือ ตรัสไว้ดีแล้ว ในที่นี้มุ่งหมายถึง พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระธรรมที่พระองค์ตรัสไว้โดยชอบแล้ว

ข้อความในธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ได้อธิบายความหมายของคำว่า สมฺมทกฺขาต ไว้ดังนี้

“บทว่า สมฺมทกฺขาเต คือ ตรัสโดยชอบ ได้แก่ ตรัสถูกต้อง. บทว่า ธมฺเม คือ ในเทศนาธรรม”


พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคำจริง เป็นวาจาสัจจะ เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูลให้ผู้ฟังผู้ศึกษาเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้นพระองค์ต้องบำเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์เมื่อครั้งที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาที่พระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรมมีค่ามาก ทำให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลส จนกว่ากิเลสจะดับหมดสิ้น เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเท่านั้น คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ เป็นคำที่พระองค์ตรัสไว้โดยชอบแล้ว ไม่มีแม้แต่คำเดียวที่ให้โทษ มีแต่ให้ประโยชน์เท่านั้นจริงๆ เพราะทุกคำ มาจากพระคุณอันประเสริฐยิ่งของพระองค์ จึงไม่มีคำใดที่ผิดจากความเป็นจริงเลย

คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งประกาศ ยิ่งเปิดเผย ก็ยิ่งรุ่งเรือง จะเห็นได้ว่า คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกปกปิดด้วยคำของบุคคลอื่นนานแสนนาน ถึงเวลาแล้วที่เมื่อมีใครก็ตามที่เข้าใจถูกต้อง ก็ช่วยกันประกาศความจริง แสดงความจริง เพราะกว่าใครจะมีโอกาสได้ฟังคำจริงที่ถูกต้องซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั้น เป็นโอกาสที่หายากยิ่ง เพราะฉะนั้น ก็ต้องช่วยกันประกาศ แสดง เปิดเผยคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อพระธรรมจะได้รุ่งเรืองและกระจ่าง ไม่ต้องหวั่นเกรงอะไรเลยทั้งสิ้น เพราะว่าเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การที่พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะรุ่งเรืองสืบต่อไป ก็ต่อเมื่อมีผู้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง แล้วประกาศคือ แสดง เปิดเผย เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น เป็นการแสดงสิ่งที่มีจริงตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ใช่คำของตนเอง และไม่ใช่การคิดเอาเอง เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อมีการกล่าวธรรม เปิดเผยธรรม ประกาศความจริงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว จึงเป็นเหตุให้บุคคลผู้สะสมมาดี มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ บุคคลผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นวาจาสัจจะ แสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง แล้วมีความเข้าใจไปตามลำดับ ก็จะเห็นพระคุณของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงสภาพธรรมพร้อมด้วยเหตุและผลอย่างละเอียดแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายย่อมไม่สามารถพ้นไปจากความเห็นผิด และความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏได้ ถ้าบุคคลใดไม่ศึกษาพระธรรม ไม่ฟังพระธรรมด้วยความเคารพ แต่คิดเอาเองว่าเข้าใจธรรมแล้ว ก็ย่อมจะเป็นผู้ที่ประมาทอย่างแท้จริง ประมาทในพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมมีความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนได้ แต่ว่าถ้าศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมอยู่เสมอ บ่อยๆ เนืองๆ ด้วยความเคารพ ละเอียดรอบคอบ พิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผล ก็ย่อมมีความเข้าใจที่ถูกต้อง มั่นคงในความเป็นจริงยิ่งขึ้น จากที่มากไปด้วย

ความไม่รู้ก็ค่อยๆ เข้าใจถูกเห็นถูกขึ้น และถ้าได้ศึกษาต่อไปด้วยความเป็นผู้เห็นค่าของสิ่งที่มีค่าที่สุด สะสมความเข้าใจยิ่งขึ้น กุศล คุณความดีประการต่างๆ ก็จะเพิ่มพูนขึ้นในชีวิตประจำวันคล้อยตามความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะเหตุว่า ปัญญานำไปในกิจทั้งปวงที่เป็นกุศล ปัญญา รู้ว่า แต่ก่อนนี้อาจจะเคยเป็นคนที่ไม่สนใจที่จะทำดีเลย แต่พอได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็เข้าใจว่า ถ้าไม่ทำดี ขณะนั้นก็เป็นอกุศลพอกพูนหนาแน่นขึ้น

สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบให้เป็นมรดกที่ล้ำค่ากับพุทธบริษัท ก็คือคำจริงทุกคำ ซึ่งเป็นคำที่หวังดีของพระองค์ มุ่งประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ฟังผู้ศึกษาเท่านั้น เพราะฉะนั้นทุกคนถ้าเห็นคุณอย่างนี้ บูชาคุณด้วยความเป็นผู้ตรง ศึกษาธรรมให้เข้าใจ ประกาศคำสอนที่ถูกต้องเพื่อให้คนอื่นได้มีโอกาสได้รู้ได้เข้าใจถูก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในชาติต่อๆ ไป เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีใครกล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วใครจะรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

จึงถึงเวลาแล้วที่แต่ละคนจะศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้โดยชอบแล้ว ให้เข้าใจอย่างถูกต้องเพื่อดำรงรักษาคำจริงของพระองค์ไว้ เพราะเหตุว่า ชีวิตสั้นมาก สิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือ ได้เข้าใจธรรมและประพฤติตามธรรมฝ่ายดี รวมถึงเผยแพร่พระธรรมตามที่ได้ศึกษา ตามกำลังปัญญาของตนเอง เพื่อสืบต่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยกันรักษาคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าไว้ได้ เป็นประโยชน์ทั้งกับตนเองและผู้อื่นต่อไป

ขอเชิญติดตามอ่านคำอื่นๆ ได้ที่..

บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ม.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ