ต้องเรียนก่อนจึงปฏิบัติวิปัสสนา ใช่ไหม
การเรียน คือ การฟังนั่นเอง การฟังเรียกว่าการศึกษา เราจะต้องเข้าใจว่า วิปัสสนานั้นมีปรมัตถ์เป็นอารมณ์ ปรมัตถ์หมายถึงรูปเป็นรูป นามเป็นนาม ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ซึ่งปรากฏทางทวารทั้ง ๖ คือ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
ทางตา ปรมัตถ์อะไรปรากฏ สีปรากฏ สี คือ รูปนั่นเอง ปรากฏทางตา นอกจากสีแล้วไม่มีอะไรปรากฏทางตาได้เลย การเห็นสีเป็นนาม นามเป็นปรมัตถ์ ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ เมื่อนามไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ก็เป็นอารมณ์วิปัสสนาได้ แต่การที่เราจะระลึกรู้ว่านี่เป็นสี นี่เป็นการรู้สี ต้องหมั่นระลึกบ่อยๆ
ในขณะที่เราเห็น เห็นครั้งหนึ่งก็ระลึกครั้งหนึ่ง จะระลึกอย่างไรก็แล้วแต่ หมั่นศึกษาเล่าเรียน ระลึกอยู่บ่อยๆ พิจารณาดูบ่อยๆ
หรือการได้ยินเสียงก็เหมือนกัน เสียงเป็นรูปเท่านั้น ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ได้ยินเสียงก็เป็นนาม ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ เราต้องรู้ถึงปรมัตถ์คือสิ่งที่มีจริง เมื่อเราศึกษาเล่าเรียน ศึกษาคือการฟังบ่อยๆ และปฏิบัติทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจบ่อยๆ อารมณ์ปรมัตถ์เกิดขึ้นกับเราทุกครั้งเลย การที่เรารู้อารมณ์อย่างนี้เป็นวิปัสสนาส่วนหนึ่ง ส่วนย่อย
แต่เห็นครั้งใดก็เห็นคน เห็นสัตว์ เห็นวัตถุ เห็นเงิน เห็นทอง เห็นสิ่งของ ต่างๆ ไม่เห็นเป็นสีสักทีหนึ่ง เพราะว่าจิตเราเคยจดจำไว้ แล่นเลยไป เห็นครั้งหนึ่งก็เห็นคน แท้จริงแล้วเห็นครั้งแรกที่ปรากฏเป็นแต่เพียงสีเท่านั้นเอง เป็นปรมัตถ์ จึงไม่มีคน ไม่มีบัญญัติจริงๆ
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1846

