วิชยาสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  31 มี.ค. 2566
หมายเลข  45736
อ่าน  93

สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ภิกขุณีสังยุต วิชยาสูตร ที่ ๔

ข้อความก็คล้ายคลึงกัน คือ

ครั้งนั้นเวลาเช้า วิชยาภิกษุณีนุ่งห่มแล้ว ถือบาตรและจีวร แล้วไปบิณฑบาต ปัจฉาภัตแล้ว กลับจากบิณฑบาตแล้ว นั่งพักกลางวันที่โคนไม้ต้นหนึ่ง

ลำดับนั้นมารผู้มีบาป ใคร่ที่จะให้วิชยาภิกษุณีบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ความขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงเข้าไปหา

วิชยาภิกษุณี ถึงที่นั่งพัก ครั้นแล้วได้กล่าวกับวิชยาภิกษุณีด้วยคาถาว่า

เธอยังเป็นสาว มีรูปงาม และฉันก็ยังเป็นหนุ่มแน่น มาเถิด เรามาอภิรมย์กัน ด้วยดนตรีมีองค์ ๕

ลำดับนั้น วิชยาภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่ใครหนอกล่าวคาถา จะเป็นมนุษย์หรืออมนุษย์ ทันใดนั้น วิชยาภิกษุณีได้มีความดำริว่า นี่คือมารผู้มีบาป ใคร่จะให้เราบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ความขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงได้กล่าวคาถา ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 70

ครั้นวิชยาภิกษุณีทราบว่า นี่คือมารผู้มีบาปแล้ว จึงได้กล่าวกะมารผู้มีบาปด้วยคาถาว่า

ดูกร มาร รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันน่ารื่นรมย์ใจ เราขอมอบให้ท่านผู้เดียว เพราะเราไม่ต้องการ เราอึดอัดระอาด้วยกายเน่าอันจะแตกทำลายเปื่อยพังไปนี้ กามตัณหาเราถอนได้แล้ว ความมืดในรูปภพที่สัตว์ทั้งหลายเข้าถึง ในอรูปภพที่สัตว์ทั้งหลายเป็นภาคี และในสมาบัติอันสงบทั้งปวง เรากำจัดได้แล้ว

ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า วิชยาภิกษุณีรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง

ความจริงแล้วไม่ต้องให้ใครเอารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะมาให้ คนที่มีกิเลสยังต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะนั้นเอง เพราะฉะนั้น ต้องละกิเลสด้วยการเจริญปัญญารู้ลักษณะของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะตามความเป็นจริง จึงจะละได้ ไม่ใช่เพียงคิดละเท่านั้น ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 71

เปิดฟัง ... วิชยาสูตร


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ