ปัญญาภาษาไทย-----

 
บ้านธัมมะ
วันที่  5 ก.ย. 2565
หมายเลข  43632
อ่าน  619

ผู้ฟัง เมื่อกี้อาจารย์พูดถึงเรื่องการฟัง เหมือนกับว่าการฟังธรรมนี้สำคัญสูงสุด บางคนอาจจะไม่มีโอกาสที่จะไปฟังธรรม ถ้าจะอ่านหนังสือท่านพุทธทาส หรือหนังสือของหลวงพ่อองค์ใดองค์หนึ่ง แล้วสามารถจะละกิเลสได้ ดิฉันคิดว่าก็เป็นวิธีการที่จะปฏิบัติธรรมเหมือนกัน ที่ดิฉันฟังจากอาจารย์พูดนี้ ดิฉันรู้สึกว่าที่ท่านอาจารย์อธิบายมาทั้งหมดนี้ ก็คือการที่ว่า ถ้าเมื่อไรเราไม่มีตัวตน เราไม่ยึดถือว่าเป็นตัวตน ขณะที่พูดนี้ก็คิดว่าเป็นจิตของเรามาประกอบกัน เนื้อหนังมังสาเอ็นกระดูกมาประกอบกันเป็นตัว ก็มีจิต ไม่ยึดถือว่าเป็นตัวเรา แล้วเมื่อไรก็ตามที่เราละตัวของเราได้ อันนั้นเราก็เข้าถึงธรรม อันนี้ไม่ทราบว่าจะถูกไหม

ดิฉันคิดว่าทุกคนมีปัญญาทั้งนั้น เด็กเกิดมาปัญญาเขาก็เกิดมาแล้ว เพราะว่าเมื่อเขาเกิดหิว เขาก็ร้องออกมา นั่นคือปัญญา ในระดับเด็กระดับหนึ่ง เมื่อโตขึ้นมาเรียนหนังสือระดับ ป.๔ ก็มีปัญญาระดับ ป.๔ จบปริญญาตรีก็มีปัญญาระดับที่จะวิเคราะห์ปัญหาในระดับปริญญาตรี หรือจะเป็นชาวบ้านเขาก็มีปัญญาเหมือนกัน เป็นต้นว่าเขาอาจจะเป็นแม่ค้า เขาก็มีปัญญาในระดับของเขาอย่างนั้น

ดิฉันคิดว่าปัญญาคืออย่างไร มีความหมายอย่างไร ลึกซึ้งขนาดไหน ไม่จำเป็นจะต้องไปนั่งฟังพระแล้วปัญญาเกิด ปัญญาคืออะไรก็ตามที่มนุษย์รู้ รับรู้สิ่งเหล่านั้นแล้วเกิดวิเคราะห์พิจารณาแล้วเกิดความรู้สึกรู้ขึ้น ดิฉันคิดว่าเป็นบุญข้อ ๑ ในบุญกิริยา ๑๐ ประการ คือพิจารณาเห็นความเป็นจริงตามสภาวธรรม หรือว่าเห็นธรรมชาติของสิ่งนั้น ดิฉันอยากจะอธิบายเหมือนกับว่า สมมติว่าเงินเดือนออกมา ดิฉันใช้หมด ใช้ไม่เป็น สิ้นเดือนก็เดือดร้อน คืออันนั้นเราก็รู้ว่าธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่สามารถจัดการกับเงินของเราได้ ความทุกข์มันก็ต้องเกิด นี่ก็เป็นปัญญาระดับหนึ่ง แต่ว่าปัญญาคงไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องมานั่งเรียนธรรม แล้วรู้ว่าเมื่อเสียงมากระทบหูแล้วนี้คือปัญญา ถ้าเราไม่พิจารณาอย่างนี้ไม่มีปัญญา ดิฉันคิดว่าไม่ถูก ปัญญาก็ต้องว่าปัญญา

สุ. นี่เป็นเรื่องของภาษา คือการใช้คำ ตามที่ดิฉันได้เรียนให้ทราบแล้วว่าภาษาไทยเราใช้คำภาษาบาลีมาก ชื่อของเราส่วนมากก็มาจากภาษาบาลี แม้แต่คำว่า สติปัญญา ก็เป็นภาษาบาลีทั้งนั้น มานะก็เป็นภาษาบาลี พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมเป็นภาษาบาลี เพื่อส่องถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ เช่นมานะ เป็นสภาพธรรมที่สำคัญตน เหมือนลักษณะของธงซึ่งสภาพที่สูงเด่นนั้น ผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ยังมีความสำคัญตน คือเราจะดี จะชั่ว จะต่ำ จะสูง ก็คือเรา นี่คือมานะเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง แต่ในภาษาไทยคำว่ามานะ ดูคล้ายกับจะเป็นกุศล เราเอาภาษาบาลีมาใช้เป็นภาษาไทยในความหมายของภาษาไทยไปเลย

ฉะนั้น เราจึงต้องรู้ว่าเรากำลังพูดถึงคำว่าปัญญาในภาษาไทย หรือกำลังพูดถึงสภาพของปัญญาในพระพุทธศาสนา การพิจารณาทั่วๆ ไปนี้ ไม่ใช่ลักษณะของปัญญา แต่เป็นสภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงใช้ภาษาบาลีว่า มนสิการ เป็นสภาพธรรมที่สนใจใส่ใจพิจารณา ฉะนั้น เราต้องเข้าใจกันก่อนว่า ขณะนี้เรากำลังพูดในความหมายภาษาไทย หรือว่าเรากำลังพยายามเข้าใจพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเป็นภาษาบาลี ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 9


รับฟัง ... ปัญญาในพระพุทธศาสนา


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ