การเอาต้นไม้ของพระภิกษุอีกรูปมาปลูกจะถึงขั้นปาราชิกไหม

 
Win_049
วันที่  20 มิ.ย. 2565
หมายเลข  43254
อ่าน  380

ตอนบวชได้เอาต้นไม้บริเวณโดยรอบกุฎิพระด้วยกันมาปลูก โดยไม่มีเจตนา ว่าจะลักขโมยต้นไม้นั้นเพราะเป็นบริเวณป่าข้างกุฎิ เลยคิดว่าต้นไม้นั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พอย้ายมาปลูกที่ใกล้กุฎิตนเองเลยได้ถามว่าต้นไม้นี้ของใคร พระท่านเลยบอกว่า ท่านเอามาปลูกเองท่านได้ขอมาจากญาติโยมอีกที ซึ่งกระผมไม่ได้คิดจะลักขโมยมาเป็นของตนเลย

แต่กระผมได้เอาต้นไม้ท่านมาแล้วเช่นนี้ตอนเป็นพระ กระผมถึงขั้นปราชิกไหม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 20 มิ.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การที่จะเป็นปาราชิก ในข้อลักทรัพย์นั้น ต้องมีเจตนาลักขโมย ตามองค์ประกอบของการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ (ดังข้อความในพระไตรปิฎก)

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๙๐

อทินนาทาน มีองค์ ๕

๑. ของที่เจ้าของหวงแหน

๒. รู้อยู่ว่า เป็นของที่เจ้าของหวงแหน

๓. มีจิตคิดลัก

๔. มีพยายามลัก

๕. และลักมาได้ด้วยความพยายามนั้น


เมื่อไม่มีเจตนาที่จะลักขโมย ก็ไม่ใช่การต้องอาบัติปาราชิกแต่อย่างใด และข้อที่น่าพิจารณา คือ ขณะนี้ ไม่ได้เป็นภิกษุแล้ว ก็ไม่ต้องไปคิดเรื่องอาบัติอีกเลย เพราะขณะนี้ตนเองไม่ได้เป็นภิกษุแล้ว ก็ขอให้เป็นคฤหัสถ์ที่ดี ด้วยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา และไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ สะสมเป็นที่พึ่งต่อไป ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Win_049
วันที่ 21 มิ.ย. 2565

กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 21 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธีรพันธ์
วันที่ 21 มิ.ย. 2565

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ ความว่า ภิกษุใด ขุดแผ่นดินเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นขุด เป็นปาจิตตีย์



ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๑

ความว่า ภิกษุทำภูตคาม คือต้นไม้ ต้นหญ้า เถาวัลย์ ให้ตกไป คือให้กำเริบ เป็นอาบัติปาจิตตีย์… ภิกษุรู้อยู่ทำให้กำเริบ คือถอนขึ้นจากที่ ยกขึ้นจากน้ำ และตัดต่อยฟันแทงเผาเอง หรือให้ผู้อื่นทำให้กำเริบ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ข้อความบางส่วนจาก

สัตตปัพพบุพพสิกขา บุพพสิกขาวรรณนา

พระอมราภิรักขิต (อมโร เกิด) วัดบรมนิวาส

รจนา

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

ทรงชำระ

………………………………

ภิกษุไม่มีเจตนาถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ ก็ไม่เป็นการลักขโมย

แต่อย่างไรก็ตามจากข้อความคำถามเกี่ยวเนื่องกับการนำต้นไม้มาปลูก ซึ่งก็คงอาจเกี่ยวเนื่องกับการขุดดินตั้งแต่เริ่มเพื่อที่ถอนหรือยกขึ้นจากที่เพื่อนำไปปลูกและการขุดดินเพื่อที่จะปลูก ก็อาจล่วงอาบัติปาจิตตีย์ได้ทั้ง ๒ ข้อครับ

การบวชเป็นสิ่งที่กระทำได้ยาก การลาสิกขาบทออกมาเป็นเพศคฤหัสถ์ ก็ไม่มีอาบัติติดตัวแล้วครับ การเป็นคฤหัสถ์ที่ดีก็ไม่ง่าย แต่ก็สามารถฟังธรรม อบรมเจริญปัญญา เจริญกุศลทุกประการได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Witt
วันที่ 22 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Pornkamol
วันที่ 23 มิ.ย. 2565

สาธุ อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ