ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๖๓

 
khampan.a
วันที่  5 มิ.ย. 2565
หมายเลข  43199
อ่าน  1,152

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๖๓


~ ถ้าไม่รู้ธรรม (สิ่งที่มีจริง) เลย ชีวิตทุกคนก็เป็นไปตามโลภะ โทสะ โมหะ แต่พอรู้ว่าเป็นธรรม และประโยชน์ ก็คือว่า จากที่ไม่เคยรู้เลย เป็นความรู้ที่ค่อยๆ รู้ขึ้น ว่า จริงๆ แล้ว สิ่งที่มีชั่วคราว เห็นชั่วคราว ได้ยินชั่วคราว แล้วก็ไม่สามารถที่จะบันดาลให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดได้เลย และสิ่งที่เกิดแล้วก็จะไม่ให้หมดไปก็ไม่ได้ นี่คือ ความเห็นถูกความเข้าใจถูก เป็นประโยชน์ไหม ที่ได้รู้ความจริงอย่างนี้?

~ การศึกษาธรรม เมื่อเข้าใจว่าเป็นธรรมแล้ว ชีวิตก็จะเจริญในทางฝ่ายกุศล จะไม่เบียดเบียนใคร และเราเองก็จะไม่เดือดร้อนด้วย เพราะเหตุว่าธรรมที่เป็นกุศลมีปัจจัยที่จะเกิดขึ้น

~
ประเสริฐที่สุดในชีวิตนี้ ก็คือ สามารถเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ มิฉะนั้น ก็หลับไม่ตื่นตลอดทุกภพทุกชาติ เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงชั่วขณะ ทุกขณะของชีวิตชั่วคราว คำว่า “ชั่วคราว” สั้นแสนสั้น เกินกว่าที่เราจะคิดประมาณได้

~ ถ้าเราคิดว่าเราโกรธคนนั้นคนนี้ ขณะนั้นคนนั้นคนนี้ไม่มีจริงๆ แต่จิตที่กำลังมีความโกรธเพิ่มความโกรธขึ้นทุกขณะจริงๆ ที่จะสะสมสืบต่อไป แล้วอะไรก็ละไม่ได้ นอกจากปัญญา ปัญญาของคนอื่นก็ละไม่ได้ นอกจากจิตใดสะสมอะไรมา ก็เป็นปัจจัยให้พิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เป็นการน้อมไปสู่การละอกุศล เพราะปัญญาที่เข้าใจถูกเห็นถูก ไม่มีตัวเราที่จะไปน้อมเลย แต่ต้องเป็นการเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น

~ ความรู้ก็ทำให้เห็น ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นความจริง เกิดแล้วไม่ตายไม่มี ขึ้นอยู่กับว่า เข้าใจว่า พอตายแล้วก็เกิดอีก และจะเป็นเหมือนในชาตินี้ หรือดีกว่าชาตินี้หรือเปล่าในเรื่องของความเข้าใจธรรม ในเรื่องของกุศล ทุกคนหวังว่า ชาติหน้าคงจะดีกว่าชาตินี้ แต่ว่าชาติหน้าที่จะดีกว่าชาตินี้ได้ ก็ต้องต่อเมื่อดีตั้งแต่ชาตินี้ ชาติหน้าถึงจะดีกว่าชาตินี้ได้ แต่ถ้าหวังแต่เพียงว่า ชาติหน้าจะดีกว่าชาตินี้ แต่ชาตินี้ก็ยังคงไม่ดี เพราะฉะนั้น ชาติหน้าก็จะดีกว่าชาตินี้ไม่ได้เลย ชาติหน้าจะดีกว่าชาตินี้ ก็เมื่อชาตินี้ดี กำลังดีขึ้นๆ ชาติหน้าถึงจะดีกว่าชาตินี้ได้

~
มงคลคือเหตุที่จะนำไปสู่ความเจริญทางด้านจิตใจทางคุณธรรม เพราะฉะนั้น ทุกข้อของมงคลก็เพื่อการละอกุศล ละสิ่งที่ไม่ดีแล้วก็อบรมเจริญสิ่งที่ดีให้เพิ่มขึ้น เพราะว่า สิ่งที่ดีจะไม่นำความทุกข์มาให้เลย ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่สามารถที่จะนำความสุขใดๆ มาให้ได้เลย

~ ฟังธรรมกับไม่ฟังธรรม ไม่ว่าการกระทำใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนั้นถ้าปัญญาเกิดก็วัดได้เลยว่า ขณะนั้นมีอะไรที่สะสมมามาก มีโลภะสะสมมามาก มีโทสะสะสมมามาก มีเมตตาสะสมมามาก มีกรุณาสะสมมามาก หรือว่ามีปัญญาสะสมมามาก ส่วนใหญ่เป็นไปกับอกุศล ใกล้ชิดมอมเมาติดแน่น จนไม่รู้ว่า ตัวเองดำสกปรกด้วยอกุศล มีใครขาวสะอาดบ้าง?

~ ทุกคนไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ ทำประโยชน์หรือคุณความดีพอหรือยัง? มีปัจจัยที่สะสมมาที่จะต้องเกี่ยวข้องติดต่อทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดกับใคร แต่ด้วยกุศลจิตหรืออกุศลจิต ด้วยความมั่นคงในกุศลหรืออกุศล หรือว่าเอนเอียงไปในอกุศล นั่นก็เป็นเครื่องวัดจริงๆ และคนอื่นไม่ต้องมาวัดด้วย ตัวเองนั่นแหละรู้ว่า ขณะนั้นเป็นไปตามการสะสมมากของฝ่ายกุศลหรือฝ่ายอกุศล เพราะฉะนั้น ประโยชน์สูงสุดก็คือว่า เมื่อเกิดมาด้วยผลของกุศลกรรม แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์ มีโอกาสได้ฟังธรรม เป็นคนดีพอหรือยัง หรือว่าควรทำความดีให้มากกว่านี้อีก โดยเฉพาะการเข้าใจธรรม

~ การแก้ปัญหาทุกอย่าง อกุศลแก้ไม่ได้แน่นอน ดูเสมือนว่าจะแก้ได้ แต่แก้ไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าปัญหามาจากไหน ปัญหามาจากจิตซึ่งเป็นอกุศลทั้งนั้น ปัญหาไม่ได้มาจากกุศลจิตเลย ปัญหาทุกปัญหามาจากอกุศลจิต เพราะฉะนั้น จะให้อกุศลจิตหรืออกุศลธรรมแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้มีปัญญาสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยกุศลจิต ด้วยความหนักแน่นมั่นคงในคุณความดีหรือในธรรมฝ่ายกุศล เพราะฉะนั้น ก็สามารถแก้ทุกสถานการณ์ได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะในขณะนั้น แต่แม้ในขณะต่อๆ ไป กุศลก็ไม่ได้ให้โทษเลย

~ ขณะใดที่โกรธ เป็นมิตรกับคนที่เรากำลังโกรธหรือเปล่า? ไม่ใช่เลย เครื่องพิสูจน์มีมาก ว่า เป็นมิตรจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่คิดจะให้คนอื่นเป็นมิตรกับเรา แต่ที่ถูกต้อง ก็คือ ผู้ที่ฟังธรรมนั้นแหละประพฤติปฏิบัติธรรมแค่ไหน ตามความเข้าใจ เพราะฉะนั้น น้อม คือ ขณะที่ฟัง เปลี่ยนจากเดิมที่เคยโกรธง่าย เคยว่าร้ายง่ายๆ มาเป็นมีความเป็นเพื่อนมากขึ้น เป็นมิตรมากขึ้น เพราะฉะนั้น ก็มีเมตตาจริงๆ มากขึ้น ไม่ใช่ไปนั่งท่อง ไม่มีใครเลย ออกมาก็โกรธโน่นโกรธนี่ อยู่ในมุมมืด เมตตามาก แต่พอออกมาเจออะไรนิดหน่อยก็ไม่เหมือนที่พูดเลย สัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข เป็นไปไม่ได้เลย

~ เวลาที่เราใช้คำว่า “เมตตา” ต้องมีสัตว์บุคคล เราจะไม่ไปเมตตาพายุ หรือไม่ไปเมตตาคลื่นในทะเล แต่ว่าคนที่เรากำลังคบอยู่ เห็นอยู่ จะรู้จักหรือไม่รู้จัก จะคุ้นเคยหรือไม่ก็ตาม เมตตาคือขณะที่พร้อมจะเกื้อกูลด้วยความเป็นมิตรและไม่คิดร้าย

~ ต้องไม่ลืม คำว่า ธรรม หมายความถึง สิ่งที่มีจริง เพียงคำเดียว “ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง” สิ่งที่มีจริง มีจริงๆ ไม่ใช่ใครเลยทั้งสิ้น ต้องไม่ลืมว่า ธรรมเป็นธรรม ไม่ใช่ใคร ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด

~
อย่าไปตัดรอนกุศลของใคร เพราะเหตุว่า กุศลเกิดยาก ถ้าเราตัดรอน หมายความว่า เราขัดขวางที่เขาจะได้รับผลของกุศลข้างหน้า ถ้าจะห้ามอกุศล ก็ช่วยกันห้ามเถอะ แต่กุศล อย่าช่วยกันห้าม

~ อะไรที่ทำได้ทำทันที ใครจะรู้ว่าประโยชน์จะเกิดขึ้นทันทีที่ทำ แต่ถ้าเรารอไป ประโยชน์ไม่เกิด เพราะไม่ได้ทำ แต่ถ้าทำทันที ประโยชน์เกิดทันที

~ ธรรม ลึกซึ้ง อะไรที่เป็นธรรมแล้ว ที่จะไม่ลึกซึ้ง ไม่มี

~ การสะสมความไม่รู้ในสังสารวัฏฏ์ ประมาณไม่ได้เลยว่าเท่าไหร่ แม้วันนี้เอง ตั้งแต่ตื่นมา กุศลหรืออกุศล? ความไม่รู้ทั้งนั้น ใช่ไหม?

~ หลงผิด ง่ายมาก ไม่ยากเลย เพราะเต็มไปด้วยความไม่รู้ ซึ่งพร้อมที่จะให้เข้าใจผิด จึงประมาทไม่ได้เลยในการฟังพระธรรมด้วยความเคารพ ต้องไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจละเอียดและลึกซึ้งทุกขั้น



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๖๒



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
petsin.90
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sea
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณอ.คำปั่น กราบอนุโมทนาในกุศลทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Jans
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เข้าใจ
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง และกราบยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบยินดีในความดีของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 5 มิ.ย. 2565

กราบยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Nataya
วันที่ 6 มิ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 6 มิ.ย. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
jaturong
วันที่ 6 มิ.ย. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
tim7755tim
วันที่ 6 มิ.ย. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบอนุโมทนากุศลค่ะท่านอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Lai
วันที่ 7 มิ.ย. 2565

อนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ