เสียดายว่าวันนี้สติไม่เกิด
เวลาที่กำลังพิจารณานามและรูปชนิดหนึ่งชนิดใดนาน รู้ว่าเป็นการจดจ้อง ที่ถูกแล้ว ในขณะที่กำลังพิจารณานามและรูปในขณะนั้น ควรที่จะได้พิจารณาถึงลักษณะของนามและรูป เพราะว่าขณะนั้นปัญญาจะเพิ่มความรู้ลักษณะของนามและรูปขึ้นว่ารู้นามนั้นชัดเจน หมายความว่าไม่สงสัย ไม่เห็นผิดหรือยัง รู้รูปนั้นถูกต้องในขณะที่กำลังปรากฏนั้นแล้วหรือยัง เท่านั้นเอง ยังไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะนานมากจะนานน้อย แต่หมายความว่า การเจริญสติปัฏฐานนั้นเพื่อปัญญา เพื่อความรู้ เพราะว่าบางคนแทนที่จะเจริญสติ ก็ไปเสียดายว่าวันนี้สติไม่เกิด หรือว่าไม่ได้เจริญสติ การคิดอย่างนั้นก็เป็นนามชนิดหนึ่ง ความรู้สึกเสียดายก็เป็นนามอีกชนิดหนึ่ง แต่ว่ายังไม่ได้พิจารณานามและรูปที่กำลังปรากฏ โดยการรู้สึกว่าเป็นตัวตนที่กำลังเสียดาย กำลังเสียดายนั้น ต้องเป็นตัวตนแน่ เพราะอะไร?
เพราะไม่รู้ลักษณะของนามหรือรูป ที่กำลังปรากฏทางหนึ่งทางใดในขณะนั้น ฉะนั้น ถ้ากำลังมีสติคือการรู้สึกตัว รู้ที่ลักษณะของนามหรือรูปชนิดหนึ่งชนิดใด ปัญญารู้ลักษณะของนามและรูปนั้น หมดความสงสัยในลักษณะของนามและรูปนั้นหรือยัง เพราะว่า ความจริงนามนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ รูปนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ แต่ทั้งนามและรูปนั้นเกิด ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ผู้ใดไม่รู้ ผู้นั้นก็คิดว่ามีตัวตนที่ทำให้นามและรูปนั้นเกิดขึ้นทุกๆ ขณะที่กำลังได้ยิน ใส่ใจว่าสภาพนั้นเป็นสภาพรู้ และการได้ยินจะเกิดบ่อยจะเกิดติดต่อกันนานๆ มากสักเท่าไร ก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจ บังคับบัญชา แม้สติที่ใส่ใจในสภาพที่ได้ยิน ก็มีปัจจัยให้สติใส่ใจในสภาพที่ได้ยิน เพราะว่าการได้ยินมีตั้งหลายครั้ง แต่บางครั้งสติไม่ได้รู้ที่ลักษณะที่ได้ยิน เพราะฉะนั้น ในขณะใด ที่สติรู้ที่ลักษณะที่ได้ยิน ปัญญาก็พิจารณารู้ว่าสภาพนี้เป็นสภาพรู้ เนืองๆ บ่อยๆ จะมากจะน้อยนั้นก็เรื่องของสติ
ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 15


