จิตไม่มีวันตาย จริงหรือ ได้ฟังมาอย่างนั้น

 
neo
วันที่  21 มิ.ย. 2550
หมายเลข  4069
อ่าน  2,962

ได้เคยสนทนาธรรมกับเพื่อนมา แต่เพื่อนผมคนนี้ค่อนข้างจะยังมีทิฐิอยู่บ้าง สังเกตได้จากการที่เขาจะคอยเสาะแสวงหาพระอริยบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าพระอรหันต์ในปัจจุบันโดยเขาจะสนทนากับผมว่า การที่จะรู้ว่าพระองค์ไหนเป็นพระอรหันต์นั้นให้ดูตอนที่เผาสังขารของท่าน หลังจากที่มรณะภาพไปแล้ว ถ้ากระดูกกลายเป็นพระธาตุก็ให้เชื่อแน่ว่าพระรูปนั้นเป็นพระอรหันต์ ซึ่งผมก็เคย (จะเรียกได้ว่าเถียงกันก็ได็) คุยกับเขาอธิบายให้ฟังจากที่ได้ฟังธรรมจากท่าน อ.สุจินต์ ว่า ในยุค 2000 ปี ล่วงแล้ว จะมีได้เพียงพระอนาคามีเท่านั้น เขาไม่เชื่อ เขายังบอกอีกว่าการฟังแต่เพียงอย่างเดียวเป็นแค่สัญญา ซึ่งเพื่อนผมคนนี้จริตของเขาค่อนข้างมีโลภคือ เขาอยากจะได้ฤทธิทางใจ อยากจะสามารถรู้วาระจิตของคนอื่น และสนทนาครั้งหลังสุดนี้ เขาบอกได้ฟังมาจากพระรูปหนึ่ง (วัดป่าแถวภาคอิสานผ้าป่าช่วยชาติ) ซึ่งพระรูปนั้นได้เทศนาให้ฟังว่าจิตของคนเรานั้นจะไม่มีวันตาย ตอนแรกผมก็จะเถียงเขาอีกแต่ ผมยังไม่แจ้งในธรรมข้อนี้ก็เลยเงียบไป จึงใคร่ขอถามว่า ถ้าพระอรหันต์ปรินิพพานแล้ว กายดับ สังขารไม่ก่อเกิดแล้ว จิตจะดับโดยสูญสิ้น หรือไม่ ที่เพื่อนผมเขาเรียกว่าจิตไม่มีวันตาย จิตจะคงอยูในแดนนิพพาน (เขาเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น) ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 22 มิ.ย. 2550

ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์แสดงว่า สังขารธรรม หรือสังขตธรรม ได้แก่จิต เจตสิก รูป เกิดเพราะปัจจัยปรุงแต่ง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตเกิดดับทุกขณะ เมื่อจิตดับไปแล้วเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้น อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปรินิพพาน จุติจิตของพระอรหันต์เป็นจิตขณะสุดท้ายของสังสารวัฏ คือ ไม่เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้นอีกเลย ฉะนั้นเมื่อพระอรหันต์ปรินิพพานท่านจึงกล่าวว่าดับโดยรอบ หรืออนุปาทิเสสนิพพาน คือ ดับไม่เหลือ ดังข้อความบางตอนจากอรรถกถาจูฬนิเทสว่า

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

เพราะไม่มีเบญจขันธ์เหลืออยู่ [อนุปาทิเสสะ]

ขอเชิญอ่านพระอรหันต์ปรินิพพานต่อที่นี่ครับ พระอรหันต์ปรินิพพาน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 22 มิ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็ดับไป เป็นสภาพธัมมะที่มีปัจจัยปรุงแต่ง ถ้าพูดว่าจิต จิตมีเพราะเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องดับไป ขณะที่ดับไปก็ชื่อว่าตาย แล้วถ้ามีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้นอีก ดังนั้น ถ้ายังไม่ใช่พระอรหันต์ก็ต้อง เกิด ตาย เกิด ตาย อะไรเกิดตาย ก็จิตนั่นเองครับ ที่เกิด ตาย แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วปรินิพพาน ก็ไม่จิตอีก เมื่อไม่มีสภาพธัมมะอะไรอีก จะมีอะไรเกิด จะมีอะไรตาย เพราะไม่มีธรรมที่ทำให้เกิด ตาย
แล้วครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 22 มิ.ย. 2550

จิตเกิดดับทุกขณะ จิตเห็นขณะนี้ดับไป ภวังคจิตคั่น จิตได้ยินจึงจะเกิดได้ และจิตเห็นขณะก่อนก็ไม่ใช่จิตเห็นขณะนี้ จิตเห็นที่ดับไปแล้ว จะไม่กลับมาให้เห็นอีก

ที่เราดูเหมือนเห็นอย่างเดิม ความจริงไม่ใช่ จิตเกิดดับทุกขณะ เปลี่ยนแปลงตลอดจิตก็มีอายุ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป (ตายอยู่ทุกขณะ) ยกเว้นจุติจิตของพระอรหันต์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
neo
วันที่ 22 มิ.ย. 2550

แล้วทำไมพระรูปนั้นจึงเทศนาอบรมธรรมเช่นนั้นครับ (ไม่รู้จะเป็นอกุศลกรรมของผมหรือเปล่าที่อาจกล่าวล่วงเกินพระรูปนั้น) แต่อย่างไรก็ยังคงนอบน้อมแด่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้วท้ายสุดขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตรในภพชาตินี้ ขอความเจริญจงมีในธรรม

พระผู้มีพระภาคฯ ทรงตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
study
วันที่ 23 มิ.ย. 2550

เพราะท่านไม่รู้ ไม่ได้ศึกษาพระธรรมในพระไตรปิฎกโดยละเอียด จึงเข้าใจผิดจากหลักธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
vipanapa
วันที่ 23 มิ.ย. 2550

ชฏิลโกง ... ข้อความบางตอนจาก ชฏิลสูตร

นักบวชผู้ไม่สำรวมทั้งหลาย ย่อมเที่ยวไปยังโลกนี้ด้วยเครื่องบริขารของนักบวชผู้สำรวมดีแล้ว ประดุจกุณฑลดิน และมาสกโลหะ หุ้มด้วยทองคำปลอมไว้ คนทั้งหลายไม่บริสุทธิ์ในภายใน งามแต่ภายนอก แวดล้อมด้วยบริวาร ท่องเที่ยวอยู่ในโลก

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
medulla
วันที่ 24 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ เหตุการณ์การสนทนาแบบคุณ Neo ตอนนี้ดิฉันก็ประสบอยู่นะคะ เพื่อนดิฉันก็เป็นแบบเพื่อนคุณ Neo ท่านนี้เช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พรหมญาณ
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ดับสูญสิ้นอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย ถ้าเป็นพระอรหันต์ ถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ก็ยังมีอยู่

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 20 ม.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ