ปฏิบัติวิปัสสนาแบบต่างๆ

 
chatchai.k
วันที่  3 พ.ย. 2564
หมายเลข  39729
อ่าน  166

ลักษณะของอกุศลนั้นหยาบกระด้างมากน้อยเท่าไร คนอื่นไม่ทราบ มีกำลังแรงเท่าไร ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานทราบตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น จึงเป็นผู้ที่ตรงต่อสภาพธรรม ตราบใดที่ยังมีโลภะอยู่ ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานไม่ใช่ไปบิดเบือนโลภะที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้นแล้ว เพราะว่ามีปัจจัยจึงได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างนั้นๆ ซึ่งผู้ที่เจริญสติปัฏฐานจะละด้วยการรู้ ถ้าไม่รู้ก็ไม่ละ ถ้าขณะนั้นสติไม่เกิด ไม่พิจารณา ไม่ตรงต่อสภาพธรรมนั้นจริงๆ ก็ละการที่จะยึดถือสภาพธรรมนั้นว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนไม่ได้

ท่านผู้ฟังท่านหนึ่งปฏิบัติวิปัสสนาแบบต่างๆ มากมายเหลือเกิน เพราะว่าท่านต้องการจะทดลองทุกวิธี ในขณะที่กำลังทดลองแต่ละวิธีนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นไปเพราะความต้องการ ไม่ทราบว่าเป็นไปเพราะตัณหา ไม่ทราบว่าผสมกับความเห็นผิด เพราะเหตุว่าตัณหากับมิจฉาทิฏฐิเกิดร่วมกัน ความต้องการอย่างมากมายที่จะได้ผลอย่างรวดเร็ว ทำให้ทดลองข้อปฏิบัติผิด แต่ขณะที่กำลังทดลองนั้น ไม่ทราบว่าเป็นไปด้วยความต้องการ และเป็นข้อปฏิบัติที่ไม่ตรงต่อสภาพธรรมตามความเป็นจริง ท่านผู้นั้นหลอกแม้แต่ตัวเอง เหมือนกับมีคนสองคนอยู่ในตัว หลอกล่อกันอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่าแอบดูตรงนี้เป็นอย่างไร ตรงนั้นเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของบทละคร เป็นความคิดนึก แต่เพราะความเห็นผิดว่าเป็นตัวตนยังมีมากเหลือเกิน เพราะฉะนั้น ก็กลายเป็นเพิ่มเป็นสองบุคคล บางครั้งตัวท่านเป็นอย่างนี้ และกิเลสก็มาอย่างนั้น บางทีกิเลสก็เป็นตัวท่านบ้าง และสภาพธรรมที่เป็นกุศลก็เป็นอีกบุคคลหนึ่งบ้าง

แต่ถ้าระลึกจริงๆ สภาพจิตใจของท่านเองจะน่ารังเกียจ จะน่าละอาย จะเป็นอกุศลมากน้อยเท่าไร คนอื่นรู้ไม่ได้ แต่ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานเป็นผู้ตรง ระลึกรู้ชัดในสภาพธรรมนั้นว่า เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย จึงจะละการยึดถือว่าเป็นตัวตนได้

ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 248


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ