เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้เป็นทักษิไณย

 
webdh
วันที่  8 มิ.ย. 2550
หมายเลข  3941
อ่าน  1,270

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 130

เมื่อบุคคลเลื่อมใสโดยความเป็นวัตถุ เลิศ รู้ซึ่งธรรมอันเลิศ เลื่อมใสในพระ- พุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้เป็นทักษิไณย ไม่มีใคร ยิ่งกว่า เลื่อมใสในพระธรรมอันเลิศอัน เป็นที่สิ้นราคะเป็นที่สงบเป็นสุข เลื่อมใส ในพระสงฆ์ผู้เลิศ ผู้เป็นนาบุญ ไม่มีนาบุญ อื่นยิ่งกว่า ให้ทานในท่านผู้เลิศ บุญอันเลิศ ย่อมเจริญมาก อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุข และพละอันเลิศก็ย่อมเจริญมาก ผู้มีปัญญา เป็นผู้ให้ของที่เลิศ มั่นคงอยู่ในธรรมอัน เลิศแล้ว ผู้นั้นจะเป็นเทวดา หรือเป็น มนุษย์ ก็ย่อมได้รับฐานะอันเลิศบันเทิงใจ. จบปสาทสูตรที่ ๔


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 135

ในข้อนั้น พึงทราบคุณของพระพุทธเจ้า โดยนัยมีอาทิว่า แม้เพราะ

เหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ เป็นพระ

สัมมาสัมพุทธเจ้า.

มีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า

ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในบุคคลผู้เลิศ.

และมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเอก ไม่มีผู้เสมอ สมกับ

เป็นผู้ที่ไม่มีผู้เสมอ เมื่อเกิดขึ้นย่อมเกิดขึ้นในโลก ดังนี้.

พึงทราบคุณของพระธรรม โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า สฺวากฺขาโต

ภควตา ธมฺโม พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้วว่า พระธรรม

ถอนอาลัย ตัดวัฏฏะ และว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใส

ในอริยมรรคมีองค์ ๘ ชนเหล่านั้น ชื่อว่าเลื่อมใสในธรรมอันเลิศ.

อนึ่ง พึงทราบคุณของพระสงฆ์ โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า สุปฏิ-

ปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

ปฏิบัติดีแล้ว และว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระสงฆ์

ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในพระสงฆ์ผู้เลิศ ดังนี้ .

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒
- หน้าที่ 511

[๙๓๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตรได้ทูลถามท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า

ข้าแต่ท้าววาสวะ เทวดาและมนุษย์

ทั้งหลายย่อมนอบน้อมพระองค์นั่นเทียว

ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อเช่นนั้น พระองค์

ทรงนอบน้อมท่านผู้ควรบูชาคนใด ท่าน

ผู้ควรบูชาคนนั้น คือ ใครเล่า.

[๙๓๕] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า

ดูก่อนมาตลี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระองค์ใด ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เรา

นอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์

นั้น ผู้เป็นศาสดามีพระนามไม่ทราม

ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดสำรอกราคะ

โทสะและอวิชชาแล้ว เป็นพระอรหันต

ขีณาสพ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น

ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดกำจัดราคะ และ

โทสะก้าวล่วงอวิชชา ยังเป็นพระเสขะ

ยินดีในธรรมเครื่องปราศจากการสั่งสม

เป็นผู้ไม่ประมาท ตามศึกษาอยู่ เรา

นอบน้อมท่านเหล่านั้น.

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ