การพิจารณารูปนั่ง จะจัดเป็นสติปัฏฐานได้ไหม

 
chatchai.k
วันที่  16 ต.ค. 2564
หมายเลข  38278
อ่าน  128

การพิจารณารูปนั่งนั้น ผมก็ได้ฟังอาจารย์มาหลายครั้งแล้ว ยังมีความสงสัยอยู่ ขอให้อาจารย์อธิบายให้ฟังอีกสักหน่อย คำว่า รูปนั่ง อาจารย์ก็พูดว่าไม่มีในรูป ๒๘ แต่ก็มีรูป ๒๗ อยู่ในท่านั่งนั้น และมีมหาภูตรูปเป็นประธาน การพิจารณารูปนั่งก็คือ การพิจารณากายในกาย แต่มีความเห็นผิดกัน เหมือนกับคำชาวบ้านเราพูดกันว่า ควายขาด ความจริงควายไม่ได้ขาด เป็นแต่เชือกที่ผูกควายนั้นขาดหรือหลุด แต่ผู้ฟังรู้เรื่อง รู้ความหมายในคำพูดนั้น การพิจารณารูปนั่งก็คือ การพิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรมนั้นแหละ สติปัฏฐานทั้ง ๔ ก็เกิดติดต่อกันเหมือนลูกโซ่ เกี่ยวพันกันไปไม่ขาดสาย ความเย็น รู้อ่อน แข็ง เจ็บ ปวด เมื่อย คัน ก็เกิดที่นั่นเอง เวทนาในเวทนาก็เกิดขึ้นติดต่อกัน แล้วแต่สติจะระลึกทันในสภาวะใดตามความเป็นจริง แต่การพิจารณาสติปัฏฐานทั้ง ๔ ที่เป็นภายในนี้ ยังไม่ได้เกี่ยวกับอารมณ์ภายนอก จะจัดเป็นสติปัฏฐานได้ไหม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

ท่านอาจารย์ ที่กล่าวว่า การพิจารณารูปนั่ง ผู้ฟังเข้าใจ รู้ว่าหมายถึงการพิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม นี่เป็นความเข้าใจของท่านผู้เขียนจดหมายนี้เอง สำหรับท่านผู้อื่น ท่านเข้าใจว่า มีรูปนั่ง เป็นท่าทางจริงๆ ต่างหากจากรูปที่ปรากฏให้รู้ได้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ซึ่งสำหรับทางกายนี้ที่กระทบ เย็นปรากฏ ร้อนปรากฏ อ่อนปรากฏ แข็งปรากฏ

ท่านที่เข้าใจว่า มีรูปนั่งต่างหาก ท่านกล่าวว่า รูปนั่งที่เป็นท่าทางนั้น ไม่ใช่เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวที่ปรากฏที่กาย เพราะฉะนั้น นี่เป็นความเข้าใจผิดของผู้ที่เข้าใจว่ามีรูปนั่งเป็นท่าทาง เมื่อเป็นอย่างนี้จะเป็นการสมควรไหมที่จะไม่ใช้คำว่า รูปนั่งเสียเลย เพื่อที่จะไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าใจว่า ท่านจะต้องไปพิจารณารูปนั่งเป็นท่าทาง และประจักษ์ว่าเกิดขึ้นดับไป ไม่ใช่รูป เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวที่ปรากฏที่กาย ในขณะที่นั่ง

เพราะฉะนั้น แล้วแต่ท่านผู้ฟัง ที่จะสอบถามท่านอื่นที่มีความเชื่อในเรื่องรูปนั่ง รูปนอน รูปยืน รูปเดิน เป็นท่าทางนั่ง ท่าทางนอน ท่าทางยืน ท่าทางเดินว่า ท่านเหล่านั้นประจักษ์ความเกิดดับของท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน ท่าเดิน หรือว่าท่านเหล่านั้นพิจารณาเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวที่ปรากฏที่กาย ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่นั่ง หรือนอน หรือยืน หรือเดิน

ธรรมะเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องตรง เป็นเรื่องที่ประกอบด้วยเหตุผล ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สอบทาน ไตร่ตรองพิจารณา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง

และที่ท่านถามว่า แต่การพิจารณาสติปัฏฐานทั้ง ๔ ที่เป็นภายในนี้ ยังไม่ได้เกี่ยวกับอารมณ์ภายนอก จะจัดเป็นสติปัฏฐานได้ไหมครับ

นี่ก็แสดงถึงการที่ยังไม่เข้าใจในสติปัฏฐานทั้ง ๔ โดยตลอด เพราะถ้าเข้าใจในสติปัฏฐานทั้ง ๔ โดยตลอด จะทั่วไปหมดเสมอกัน ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรือธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานก็ตาม

ที่มา ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 507

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ