ไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่ภิกษุ

 
khampan.a
วันที่  9 ก.ย. 2564
หมายเลข  37088
อ่าน  477

หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๕๓๑]

ไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ไม่ประพฤติตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่ภิกษุ


แม้แต่คฤหัสถ์ฟังธรรมทำไม เห็นไหม? เพื่อเข้าใจ แล้วถ้าเป็นภิกษุล่ะเห็นไหม คฤหัสถ์ยังฟังธรรมเพื่อเข้าใจแล้วถ้าเป็นภิกษุไม่เข้าใจธรรม บวชทำไม? จะเป็นภิกษุได้หรือในเมื่อไม่เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ เพราะฉะนั้นคฤหัสถ์ก็ฟังธรรมด้วยความตรงด้วยความจริงใจว่าเพื่อเข้าใจเพื่อรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนและความเข้าใจนี้ก็จะละความไม่รู้ซึ่งเป็นต้นเหตุมูลเหตุของความไม่ดีทั้งหมด ถ้าตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริง มีหรือที่จะขัดเกลากิเลสได้ เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของการฟังธรรม เพื่อเข้าใจธรรม ฟังทำไม? ก็เพราะรู้ว่ามีกิเลสมีความไม่รู้ เพราะฉะนั้นฟังเพื่อรู้ถูกต้องและความรู้นั้นต่างหากที่จะละกิเลส ฉันใด ผู้ที่จะเป็นภิกษุถ้าไม่รู้อย่างนี้เป็นภิกษุได้ไหม? เพราะเหตุว่าจะบวชทำไม? ถ้าไม่ใช่เพื่อที่จะขัดเกลากิเลส เพื่อรู้เพื่อเข้าใจ ทั้งๆ ที่คฤหัสถ์ก็ไม่ได้บวชเลย แต่ก็ยังฟังธรรมเพื่อที่จะเข้าใจเพื่อความรู้ที่ถูกต้องนั้นจะได้ละความไม่รู้และขัดเกลากิเลส เพราะฉะนั้นภิกษุต้องเห็นโทษเห็นภัยของการที่จะดำรงชีวิตอย่างคฤหัสถ์ที่จะขัดเกลากิเลส เพราะตนเองสะสมมาที่จะสามารถละเพศคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิตซึ่งขัดเกลากิเลสยิ่งกว่าคฤหัสถ์ไม่อย่างนั้นบวชไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อที่จะศึกษาธรรม เข้าใจธรรมเพื่อขัดเกลากิเลส เพราะว่าภิกษุคือผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ คฤหัสถ์ยังฟัง (ธรรม) คฤหัสถ์ยังเห็นโทษของความไม่รู้ คฤหัสถ์ยังรู้ว่าฟังธรรมเพื่อจะได้เข้าใจและความเข้าใจนั้นก็จะขัดเกลากิเลส แล้วเป็นภิกษุ แต่ว่าประพฤติผิดแล้วก็ต้องการเพียงแต่จะบวชอย่างเดียว โดยที่ว่าบวชแล้วทำอะไร?

ในครั้งพุทธกาลคฤหัสถ์มีกิจธุระของคฤหัสถ์ บรรพชิตก็มีธุระของบรรพชิต คือคันถธุระและวิปัสสนาธุระ คันถธุระก็คือการศึกษาฟังธรรมอบรมเจริญปัญญาเพื่อถึงวิปัสสนาที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมดับกิเลสถึงความเป็นพระอรหันต์ จิตคิดที่จะขัดเกลากิเลสจนกระทั่งสามารถที่จะถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะว่าสะสมมาที่จะรักษาความเป็นภิกษุได้โดยการที่ต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

คนที่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นพระคุณอย่างยิ่งที่ทรงบัญญัติพระวินัย ไม่ใช่ไปทรมานใครแต่ต้องรู้ว่าพระมหากรุณาที่ให้ผู้ที่บวชได้มีชีวิตที่เป็นสุขต่างจากเพศคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้นจะมีกายวาจาอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้ ถ้ามีกายวาจาอย่างคฤหัสถ์ก็เป็นคฤหัสถ์แล้วก็ศึกษาธรรมขัดเกลากิเลสในเพศของคฤหัสถ์ แต่ผู้ที่จะสามารถที่จะละทิ้งเพศของคฤหัสถ์ต้องสำนึกตั้งแต่ตื่นว่าเราไม่ใช่คฤหัสถ์จึงสมควรที่จะเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัยไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างกัน ใช่ไหม? จะต่างอะไรถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยและถ้าไม่เห็นคุณของพระวินัยจริงๆ จะไม่รู้เลยว่าทรงบัญญัติด้วยพระมหากรุณาให้ขัดเกลากิเลสตามความประสงค์ที่จะถึงความเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์รับเงินทองหรือเปล่า? พระอรหันต์ทำเครื่องรางของขลังหรือเปล่า? แล้วเดี๋ยวนี้ใครทำ? ถ้ารับเงินรับทองก็ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัย มีธุระอะไรที่จะต้องใช้เงินในเมื่อธุระของพระภิกษุคือศึกษาธรรม อุทิศทั้งชีวิตตายจากเพศคฤหัสถ์ เกิดใหม่โดยศีล ๒๒๗ ข้อ จึงสามารถจะเป็นภิกษุได้


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
petsin.90
วันที่ 9 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เข้าใจ
วันที่ 10 ก.ย. 2564

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ