พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๙. ทุติยสักกนมัสสนสูตร ท้าวสักกะนมัสการพระพุทธเจ้า

 
บ้านธัมมะ
วันที่  30 ส.ค. 2564
หมายเลข  36465
อ่าน  337

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 510

๙. ทุติยสักกนมัสสนสูตร

ท้าวสักกะนมัสการพระพุทธเจ้า


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 510

๙. ทุติยสักกนมัสสนสูตร

ท้าวสักกะนมัสการพระพุทธเจ้า

[๙๓๓] สาวัตถีนิทาน.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพได้ตรัสกะมาตลีสังคาหกเทพบุตรว่า ดูก่อนสหายมาตลี ท่านจงเตรียมจัดรถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัว เราจะไปยังพื้นที่อุทยานเพื่อชมภูมิภาคอันงดงาม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรทูลรับพระดำรัสท้าวสักกะจอมเทพว่า ขอเดชะ ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว จัดเตรียมรถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวเสร็จแล้ว กราบทูลแก่ท้าวสักกะจอมเทพว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ รถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวสำหรับพระองค์ จัดเตรียมไว้เสร็จแล้ว ขอพระองค์ทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ได้ทราบว่า ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพขณะเสด็จลงจากเวชยันตปราสาท ทรงประณมอัญชลีนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 511

[๙๓๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตรได้ทูลถามท้าวสักกะจอมเทพด้วยคาถาว่า

ข้าแต่ท้าววาสวะ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมนอบน้อมพระองค์นั่นเทียว ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อเช่นนั้น พระองค์ทรงนอบน้อมท่านผู้ควรบูชาคนใด ท่านผู้ควรบูชาคนนั้น คือ ใครเล่า.

[๙๓๕] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า

ดูก่อนมาตลี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เรานอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นศาสดามีพระนามไม่ทราม ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดสำรอกราคะโทสะและอวิชชาแล้ว เป็นพระอรหันตขีณาสพ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น ดูก่อนมาตลี ท่านเหล่าใดกำจัดราคะ และโทสะก้าวล่วงอวิชชา ยังเป็นพระเสขะ ยินดีในธรรมเครื่องปราศจากการสั่งสม เป็นผู้ไม่ประมาท ตามศึกษาอยู่ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น.

[๙๓๖] มาตลีเทพบุตรทูลว่า

ข้าแต่ท้าวสักกะ ได้ยินว่าพระองค์ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด บุคคล

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 512

เหล่านั้นเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลกเทียว ข้าแต่ท้าววาสวะ พระองค์ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด แม้ข้าพระองค์ก็ขอนอบน้อมบุคคลเหล่านั้น.

[๙๓๗] ท้าวมฆวาสุชัมบดีเทวราช ผู้เป็นประมุขของเทวดาทั้งหลาย ครั้นตรัสดังนี้แล้ว ทรงน้อมนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วเสด็จขึ้นรถ.

อรรถกถาทุติยสักกนมัสสนสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในทุติยสักกนมัสสนสูตรที่ ๙ ต่อไปนี้ :-

บทว่า ภควนฺตํ นมสฺสติ ความว่า ท้าวสักกะ พาดผ้าสองชั้นเฉวียงบ่านั่งคุกเข่าแบบพรหม ประณมมือเหนือพระเศียร. บทว่า โส ยกฺโข ได้แก่ สัตว์นั้น. บทว่า อโนมนามํ ได้แก่ มีพระนามไม่ทรามด้วยพระนามอันเป็นนิมิตแห่งคุณ เพราะไม่มีความทรามด้วยคุณทั้งปวง. บทว่า อวิชฺชาสมติกฺกมา ได้แก่ ก้าวล่วงอวิชชาอันมีวัฏฏะเป็นมูล อันปกปิดอริยสัจ เป็นต้น. บทว่า เสกฺขา ได้แก่ พระเสกขะ ๗ จำพวก. บทว่า อปจฺจยารามา คือยินดีในการกำจัดวัฏฏะ. บทว่า สิกฺขเร แปลว่า ย่อมศึกษา.

จบอรรถกถาทุติยสักกนมัสสนสูตรที่ ๙