พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๑. สังครวสูตร ว่าด้วยการอาบน้ำล้างบาป

 
บ้านธัมมะ
วันที่  30 ส.ค. 2564
หมายเลข  36404
อ่าน  359

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 297

๑๑. สังครวสูตร

ว่าด้วยการอาบน้ำล้างบาป


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 297

๑๑. สังครวสูตร

ว่าด้วยการอาบน้ำล้างบาป

    [๗๑๙] สาวัตถีนิทาน.

    สมัยนั้น สังครวพราหมณ์อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถี มีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกายทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์.

    ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์นุ่งแล้วถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีในเวลาเช้า ครั้นเที่ยวบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีแล้วกลับมาเวลาหลังอาหาร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

    [๗๒๐] ท่านพระอานนท์นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระเจ้าข้า สังครวพราหมณ์อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถีเขามีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์ ข้าพระองค์ขอโอกาสขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงเสด็จไปหาสังครวพราหมณ์ยังที่อยู่อาศัย ด้วยความอนุเคราะห์เถิด พระเจ้าข้า.

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับด้วยดุษณีภาพ.

    ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปหาสังครวพราหมณ์ยังที่อยู่อาศัย แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดไว้.

    [๗๒๑] ลำดับนั้น สังครวพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วสนทนาปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัยกันตามธรรมเนียมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 298

    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามสังครวพราหมณ์ ซึ่งนั่งอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่งว่า ดูก่อนพราหมณ์ เขาว่า ท่านมีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ท่านประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์ จริงหรือ.

    สังครวพราหมณ์กราบทูลว่า จริงเช่นนั้น ท่านพระโคดมผู้เจริญ.

    พ. ดูก่อนพราหมณ์ ท่านเห็นอำนาจประโยชน์อะไรจึงได้มีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์.

    ส. ท่านพระโคดม บาปกรรมใดที่ข้าพระองค์ทำในเวลากลางวัน ข้าพระองค์ลอยบาปกรรมนั้นเสียด้วยการอาบน้ำในเวลาเย็น บาปกรรมใดที่ข้าพระองค์ทำในเวลากลางคืน ข้าพระองค์ลอยบาปกรรมนั้นเสียด้วยการอาบน้ำในเวลาเช้า ท่านพระโคดม ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์นี้แหละ จึงได้ชื่อว่า มีลัทธิถือความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยน้ำ ประพฤติการลงอาบน้ำชำระร่างกาย ทั้งเวลาเย็นเวลาเช้าเป็นนิตย์.

    [๗๒๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

    ดูก่อนพราหมณ์ ห้วงน้ำคือธรรมมีศีลเป็นท่า ไม่ขุ่น สัตบุรุษสรรเสริญต่อสัตบุรุษ ซึ่งเป็นท่าที่บุคคลผู้ถึงเวทอาบแล้ว บุคคลผู้มีตัวไม่เปียกเท่านั้นจึงจะข้ามถึงฝั่งได้.

    [๗๒๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเช่นนี้แล้ว สังครวพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 299

ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักมองเห็นรูปได้ ข้าแต่ท่านพระโคดมข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้ากับพระธรรมและภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์ทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

อรรถกถาสังครวสูตร

    ในสังครวสูตรที่ ๑๑ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-

    บทว่า ปจฺเจติ ได้แก่ ย่อมปรารถนา คือ ย่อมต้องการ. คฤหัสถ์อ้อนวอนอยู่ จึงกล่าวว่า สาธุ ภนฺเต. ได้ยินว่า คฤหัสถ์นั่นเป็นสหายของพระเถระ. เพราะฉะนั้น พระเถระทูลขอร้องด้วยคิดว่า ผู้เป็นคนกำพร้าแม้ได้เราเป็นสหาย อย่าได้ถือมิจฉาทิฏฐิแออัดอยู่ในอบายเลย. อีกนัยหนึ่ง พระเถระเข้าใจอยู่ว่า คฤหัสถ์ผู้นี้ มีบริวารมาก เมื่อเขาเลื่อมใสแล้ว ตระกูล ๕๐๐ ตระกูลจักประพฤติตามคำสั่งสอน จงได้ทูลขอร้อง. บทว่า อตฺถวสํ ได้แก่ อานิสงส์ของประโยชน์ คือ เหตุของประโยชน์. บทว่า ปาปํ ได้แก่ อกุศลกรรมมีปาณาติบาตเป็นต้น. บทว่า ปวาเหมิ ได้แก่ เราลงน้ำแค่คอแล้วให้ลอยไปคือ ให้หนีไป. คาถาว่า ธมฺโม มีใจความดังกล่าวแล้วนั่นแล.

    จบอรรถกถาสังครวสูตรที่ ๑๑