อยากทราบว่าเจ้าของเว็ปมาจากสายหลวงปู่มั่นรึเปล่าครับ
ขอแสดงความเห็นเล็กน้อยครับ ได้ยินคำว่าสายนั้น สายนี้ สายโน้นมาโดยตลอด
ก็ยังตั้งคำถามมาตลอดเช่นกัน ว่ามีสายเหมือน รถเมล์ รถไฟ หรือการบินอย่างนั้นด้วยหรือ ผมก็เข้าไปดูหลายเว็ปไซด์เหมือนกัน เพื่อดูว่า แต่ละสายเป็นอย่างไร เพื่อหาคำตอบต่อคำถามเรื่อง สายที่ว่ากันจนติดปาก ก็ไม่เห็นสายดังกล่าวเลย เพราะถ้าสิ่งใดเป็นคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว ก็เป็นเช่นนั้น จะมีสายได้อย่างไรกัน ไม่ว่าท่านจะกล่าวที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ย่อมเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ เราน่าจะรณรงค์ให้เลิกใช้คำว่าสายเสียดีกว่า เพราะพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นสัจธรรม ย่อมมีหนึ่งเดียว จะแยกออกเหมือน สายรถเมล์ รถไฟ หรือการบิน ได้อย่างไรกัน
ถ้าหากเรามายึดติดกับคำว่าสาย แล้วจะไม่เป็นการยืดเวลา ในสังสารวัฏฏ์ให้เนิ่นนาน ออกไปอีกหรือ ไม่เป็นอัตตาหรอกหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดูเหมือนจะสายไปแล้วจริงๆ
พระพุทธศาสนา สอนเรื่อง สัจจะ ความจริง พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ความจริงที่มีในขณะนี้ ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ดังนั้นถ้าจะใช้คำว่า สายไหน แน่นอนครับ ต้องมีสายที่ถูกและสายที่ผิด พระพุทธเจ้าอยู่สายไหน สายที่ถูก อัญญเดียรถีย์ ปริพาชก สายไหน สายที่เห็นผิด ดังนั้น การใช้คำว่าสายไหน ก็คือ เป็นคำที่ใช้แทนสภาพธรรมะอย่างหนึ่ง นั่นคือ ความเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) และความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ดังนั้นไม่ว่าเราจะใช้คำว่าอะไรก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมะเลย ดังนั้น ใครก็ตามที่ทำให้เราเข้าใจความจริงว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ ด้วยแนวทางที่ถูกต้อง คือ ระลึกสภาพธรรมะที่มี ในขณะนี้ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา โดยเริ่มจากการฟัง บุคคลหรือใครก็ตามที่สอนแนวทางที่ถูกนี้ อยู่สายไหนครับ (เห็นถูก หรือ เห็นผิด) จงมีพระธรรมเป็นเครื่องตรวจสอบ ความเห็นถูก และเห็นผิด
อนุโมทนาครับ เชิญคลิกอ่านที่นี่.....
ขอบพระคุณมากค่ะ ขออนุโมทนา
มีวันหนึ่งดิฉันคุยกับพี่ที่บอกว่า ตนเองอยู่สายพระป่า เขาถามดิฉันว่า ศึกษาสายไหน ดิฉันก็บอกว่า ศึกษาจากพระไตรปิฎกเป็นหลักไม่มีสายอะไร แต่เขาก็กลับบอกว่า อ้อ สายอภิธรรมนี่เอง เป็นอันว่า เขาไม่เคยสดับเลย
ขอบพระคุณที่เมตตาตอบคำถาม ต้องขอโทษท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยที่ถามคำถามที่แสดงให้เห็นถึง ความโง่ของผู้ถาม เพียงแต่กระผมอยากรู้ตามเจตนาที่บริสุทธิ์ จึงต้องใช้คำถามแบบบ้านๆ ตรง เพียงเพราะ กระผมเคยบวช (เณร) ศึกษาธรรมมะอยู่กับครูบาอาจารย์ทางด้านโน้น (เป็นคนอิสาน) เมื่อมาพบแนวทางแนวธรรมที่นี่ จึงแค่อยากรู้ว่าผู้ตอบหรือผู้รู้ทั้งหลาย มีครูบาอาจารย์ที่ผมเคยรู้จัก หรือไม่เท่านั้นเอง เช่น เมื่อเราทำงานบริษัท เรามักจะมีคำถามเพื่อนร่วมงานใหม่ว่าจบจากไหนมาครับ เพียงเพื่อเผื่อว่าจะมีใครเคยรู้จักบ้าง เช่นเจ้าหน้าที่บุคคล เป็นต้น คงไม่มีเจตนาที่จะมาแบ่งคุณจบที่ไหน ผมจบที่ไหน เพราะโดยความจริงทุกคนก็ จบจากตำราที่มีครูอาจารย์คอยแนะแนวหรือแนะนำมาเหมือนกัน และที่สำคัญการที่กระผมให้คำถามว่าสายนั้นนี้ก็เพราะเข้าใจ (แบบผู้ไม่รู้) ว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่คำถามสมมติหรืออนัตตาเท่านั้น ไม่ได้ไปยึดติดคำว่าสายอย่างที่ท่านผู้รู้บางท่านแนะมานะครับ สุดท้ายก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ ที่ช่วยกันแนะแนวกระผม
ขอนุโมทนาด้วยครับ
เรียน คุณ kompa
คุยกันแบบสบายๆ นะครับ ผมเองก็เพิ่งเข้ามาก่อนหน้าคุณ ประมาณ 3-4 เดือน มีวันหนึ่งขับรถตอนเช้ามืด ไม่มีรายการเพลงให้ฟัง auto tune เจอคลื่นบ้านธัมมะ
ทำให้เกิดความสนใจ และติดตามมาที่เว็ปไซด์นี้ ก็เริ่ม download หนังสือมาอ่าน อะไรไม่เข้าใจ ผมลุยถามเลยครับ เพราะมีผู้นำหลักธรรม แสดงเพื่อสอบทาน สนับสนุน ความเข้าใจได้หลายท่านมาก
ผมเองก็ใช้วิธีแบบลูกทุ่ง เหมือนที่คุณบอกว่า คุณใช้วิธีแบบบ้านๆ ตรงๆ เรา ไม่ต่างกันหรอกครับ ผมมีความยินดีและเชื่อว่าเป็นเช่นเดียวกับทุกท่านทีบ้านหลังนี้ ยินดีต้อนรับคุณ kompa สบายใจเถอะครับ มานั่งฟังธรรมพร้อมๆ กัน
อนุโมทนาและยินดีต้อนรับเพื่อความเข้าใจธรรมะ ถ้ามีสิ่งใดไม่ถูกใจก็อยากจะบอกว่า เพื่อความเข้าใจของผู้ฟังให้มีความเห็นถูกครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอบพระคุณท่านผู้รู้อีกครั้งครับ โดยเฉพาะคุณ chackapong สมกับเป็นลูกของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสมาชิกของบ้านธัมมะจริงๆ จะว่าไปแล้วผมเองก็สนใจเรื่องของศีล สมาธิ และปัญญา มาโดยตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว และเมื่อมี
โอกาส ก็จะเข้าเว็ปธรรมะ หรือหาหนังสือมาอ่านเป็นประจำ ไปๆ มาๆ ก็มาเจอเว็ปนี้หละครับ รู้สึกยินดี และขออนุโมทนากับสมาชิกทุกท่านด้วยครับ คงต้องให้ท่านผู้รู้ทุกท่านแนะแนวทางธรรมอีกโขเลยหละครับ หากกระผมถามหรือตอบคำถามใดที่ไม่เข้าหลักธรรมขอให้ท่านผู้รู้ทุกท่านช่วยเมตาด้วยครับ อีกอย่างกระผมอายุแค่ 25 เองครับ (ยังเด็กมาก) มีครอบครัวแล้วครับ ยังไงก็แนะแนวลูกหลานด้วยนะครับ
ขออนุโมทนาครับ
อาคม ดอกบัว
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม ...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)