นางวิสาขา มิคารมาตา ทูลขอพร ๘ ประการ

 
chatchai.k
วันที่  7 มิ.ย. 2564
หมายเลข  34369
อ่าน  897

[เล่มที่ 7] พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 281

จีวรขันธกะ

เรื่องนางวิสาขา มิคารมาตา

[๑๕๓] ครั้งนั้น พระผูมีพระภาคเจาประทับอยูในพระนครพาราณสี ตามพระพุทธาภิรมย แลวเสด็จพระพุทธดําเนินไปทางพระนครสาวัตถี เสด็จ พระพุทธดําเนินผานระยะทางโดยลําดับ ถึงพระนครสาวัตถี ทราบวาพระผูมีพระภาคเจาประทับอยูในพระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกะคหบดี เขตพระนครสาวัตถีนั้น ครั้งนั้น นางวิสาขา มิคารมาตา เขาเฝาพระผูมีพระภาคเจา ถวายบังคมแลวนั่ง ณ ที่ควรสวนขางหนึ่ง พระผูมีพระภาคเจาทรงชี้แจงให นางผูนั่งเรียบรอยแลว เห็นแจง สมาทาน อาจหาญ ราเริงดวยธรรมีกถา นางผูอันพระผูมีพระภาคเจาทรงชี้แจงใหเห็นแจง สมาทาน อาจหาญ ราเริง ดวยธรรมีกถาแลว จึงไดกราบทูลอาราธนาพระผูมีพระภาคเจาวา ขอพระผูมีพระภาคเจา พรอมดวยพระสงฆจงทรงพระกรุณาโปรดรับภัตตาหารของหมอม-


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 282

ฉันเพื่อเจริญบุญกุศลและปติปราโมทยในวันพรุงนี้ดวยเถิด พระพุทธเจาขา พระผูมีพระภาคเจาทรงรับอาราธนาดวยดุษณีภาพ ครั้นนางทราบการรับ อาราธนาของพระผูมีพระภาคเจาแลว ลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผูมีพระภาค เจาทําประทักษิณกลับไป ครั้นผานราตรีนั้นไป ฝนตั้งเคาขึ้นในทวีปทั้ง ๔ ตก ลงมาหาใหญ

ครั้งนั้น พระผูมีพระภาคเจารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายวา ดูกอนภิกษุ ทั้งหลาย ฝนตกในเขตวันฉันใด ตกในทวีปทั้ง ๔ ก็ฉันนั้น พวกเธอจงสรง สนานกายกันเถิด เพราะเปนครั้งสุดทายที่ฝนหาใหญตั้งเคาขึ้นในทวีปทั้ง ๔. ภิกษุเหลานั้นรับสนองพระพุทธบัญชาวา เปนดังพระพุทธดํารัส พระพุทธเจาขา แลวพากันเปลื้องผาสรงสนานกายอยู. ครั้งนั้น นางวิสาขา มิคารมาตา สั่งใหตกแตงของเคี้ยวของบริโภค อันประณีต แลวสั่งทาสีวา ไปเถิดแม เจาจงไปอารามแลวแจงภัตกาลวา ถึง เวลาแลว ภัตตาหารเสร็จแลว เจาขา

ทาสีนั้นรับคําวา เปนเชนนั้น เจาขาแลวไปวัดไดเห็นภิกษุเปลื้องผา สรงสนานกาย ครั้นแลวเขาใจผิดคิดวา ในอารามไมมีภิกษุ มีแตพวกอาชีวก สรงสนานอยู จึงกลับไปบานไดแจงความแกนางวิสาขา มิคารมาตาวา นาย ภิกษุไมมีในอาราม มีแตพวกอาชีวกสรงสนานอยู เจาคะ

นางวิสาขา มิคารมาตา เปนสตรีฉลาด เฉียบแหลม มีปญญารูไดทัน ทีวา พระคุณเจาทั้งหลายคงเปลื้องผาพากันสรงสนานกายเปนแน นางคนนี้ เขลา จึงสําคัญวา ไมมีภิกษุในอาราม มีแตพวกอาชีวกสรงสนานกายอยู จึง สั่งสาวใชวาไปเถิดแมทาสี เจาจงไปอาราม แลวแจงภัตกาลวา ถึงเวลาแลว ภัตตาหารเสร็จแลวเจาขา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 283

ครั้นเวลาตอมา ภิกษุเหลานั้น ทําตัวใหเย็น มีกายงาม ตางถือจีวร เขาไปสูที่อยูตามเดิม ทาสีนั้นจึงไปวัดไมเห็นภิกษุทั้งหลาย จึงเขาใจผิดคิดวา ไมมีภิกษุในอาราม อารามวางเปลา จึงกลับไปบานแลวแจงความนั้นแกนาง วิสาขา มิคารมาตาวา ไมมีภิกษุในอาราม อารามวางเปลา เจาคะ. นางวิสาขา มิคารมาตา เปนสตรีฉลาด เฉียบแหลม มีปญญารูได ทันทีวาพระคุณเจาทั้งหลาย คงทําตัวใหเย็น มีกายงาม ตางถือจีวรเขาไปสูที่ อยูตามเดิมเปนแน นางคนนี้เขลาจึงสําคัญวา ไมมีภิกษุในอาราม อารามวาง เปลา แลวสั่งสาวใชอีกวา ไปเถิดแมทาสี เจาจงไปอาราม แลวแจงภัตกาล วา ถึงเวลาแลว ภัตตาหารเสร็จแลว เจาขา.

ครั้งนั้น พระผูมีพระภาคเจารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายวา ดูกอนภิกษุ ทั้งหลาย พวกเธอจงเตรียมบาตรจีวร ถึงเวลาภัตตาหารแลว. ภิกษุเหลานั้นทูลรับสนองพระพุทธบัญชาวา เปนอยางนั้น พระ พุทธเจาขา.

ครั้นเวลาเชา พระผูมีพระภาคเจาทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรจีวร เสด็จหายไปในพระเชตวัน มาปรากฏที่ซุมประตูบานนางวิสาขา มิคารมาตา ดุจบุรุษมีกําลังเหยียดแขนที่คู หรือคูแขนที่เหยียดฉะนั้น พระองคประทับนั่ง เหนือพุทธอาสนที่เขาปูลาดถวาย พรอมดวยพระสงฆ.

ขณะนั้น นางวิสาขา มิคารมาตา กลาววา ชาวเราผูเจริญ นาอัศจรรย จริงหนอ ชาวเราผูเจริญประหลาดจริงหนอ พระตถาคต ชื่อวามีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากเพราะเมื่อหวงน้ําไหลนองไปเพียงเขาบาง เพียงสะเอวบา เทา หรือจีวรของภิกษุแมรูปหนึ่ง ก็ไมไดเบียกน้ํา ดังนี้แลว ราเริง เบิกบานใจ อังคาสภิกษุสงฆแมพระพุทธเจาเปนประมุข ดวยขาทนียโภชนียาหารอันประณีต

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 284

ดวยมือของตนยังพระผูมีพระภาคเจาผูเสวยเสร็จแลว จนทรงนําพระหัตถออก จากบาตรใหหามภัตรแลวนั่งอยู ณ ที่ควรสวนขางหนึ่ง ไดกราบทูลแดพระผูมี พระภาคเจาวา หมอมฉันทูลขอประทานพร ๘ ประการตอพระผูมีพระภาคเจา พระพุทธเจาขา.

ภ. ตถาคตเลิกไหพรเสียแลว วิสาขา.

วิ. หมอมฉันทูลขอประทานพรที่สมควรและไมมีโทษ พระพุทธเจาขา.

ภ. จงบอกมาเถิด วิสาขา.

วิ. พระพุทธเจาขา สําหรับพระสงฆ หมอมฉันปรารถนาจะถวายผา วัสสิกสาฎก จะถวายภัตเพื่อพระอาคันตุกะ จะถวายภัตเพื่อพระที่เตรียมจะไป จะถวายภัตเพื่อพระอาพาธ จะถวายภัตเพื่อพระที่พยาบาลพระอาพาธ จะ ถวายเภสัชสําหรับพระอาพาธ จะถวายยาคูประจํา และสําหรับภิกษุณีสงฆ หมอมฉัน ปรารถนาจะถวายอุทกสากฎ จนตลอดชีพ.

ภ. วิสาขา ก็เธอเห็นอํานาจประโยชนอะไร จึงขอพร ๘ ประการ ตอตถาคต.

วิ. พระพุทธเจาขา วันนี้หมอมฉันสั่งทาสีวา ไปเถิด แมทาสี เจา จงไปอาราม แลวบอกภัตกาลวา ภัตตาหารเสร็จแลว เจาขา และนางก็ไปวัด ไดเห็นภิกษุทั้งหลายเปลื้องผาสรงสนานกายอยู เขาใจผิดคิดวา ไมมีภิกษุใน อาราม มีแตพวกอาชีวกสรงสนานกายอยู จึงกลับมาบาน แลวรายงานแก หมอมฉันวา นายไมมีภิกษุในอาราม มีแตพวกอาชีวกสรงสนานกายอยู.

๑. พระพุทธเจาขา ความเปลือยกายไมงาม นาเกลียด นาชัง หมอมฉันเห็นอํานาจประโยชนนี้ จึงปรารถนาจะถวายผาวัสสิกสาฎกแกพระสงฆ จนตลอดชีพ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 285

๒. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา พระอาคันตุกะไมชํานาญ หนทาง ไมรูจักที่โคจร ยอมเที่ยวบิณฑบาตลําบาก ทานฉันอาคันตุกภัตของ หมอมฉันพอชํานาญหนทาง รูจักที่โคจร จักเที่ยวบิณฑบาตไดไมลําบาก หมอมฉันเห็นอํานาจประโยชนนี้ จึงปรารถนาจะถวายอาคันตุกภัตแกพระสงฆ จนตลอดชีพ.

๓. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา พระผูเตรียมตัวจะไปมัว แสวงหาภัตตาหารเพื่อตนอยู จักพลาดจากหมูเกวียน หรือจักถึงสถานที่ที่คน ตองการจะไปอยูเมือพลบค่ํา จักเดินทางลําบาก ทานฉันคมิกภัตของหมอมฉัน แลว จักไมพลาดจากหมูเกวียน หรือจักถึงสถานที่ที่ตนตองการจะไปอยูไม พลบค่ํา จักเดินทางไมลําบาก หมอมฉันเห็นอํานาจประโยชนนี้ จึงปรารถนา จะถวายคมิกภัตแกพระสงฆ จนตลอดชีพ.

๔. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา เมื่อพระอาพาธไมได โภชนาหารที่เปนสัปปายะ อาพาธกําเริบ หรือทานจักถึงมรณภาพ เมื่อทาน ฉันคิลานภัตของหมอมฉัน อาพาธจักทุเลา ทานจักไมถึงมรณภาพ หมอมฉัน เห็นอํานาจประโยชนนี้ จึงปรารถนาจะถวายคิลานภัตแกสงฆ จนตลอดชีพ.

๕. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา พระผูพยาบาลพระอาพาธ มัวแสวงหาภัตตาหารเพื่อตน จักนําภัตตาหารไปถวายพระอาพาธจนสาย ตนเอง จักอดอาหาร ทานไดฉันคิลานุปฏฐากภัตของหมอมฉันแลว จักนําภัตตาหาร ไปถวายพระอาพาธตามเวลา ตนเองก็จักไมอดอาหาร หมอมฉันเห็นอํานาจ ประโยชนนี้จึงปรารถนาจะถวายคิลานุปฏฐากภัตแกพระสงฆ จนตลอดชีพ.

๖. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา เมื่อพระอาพาธไมไดเภสัช ที่เปนสัปปายะ อาพาธจักกําเริบ หรือจักถึงมรณภาพ เมื่อทานฉันคิลานเภสัช

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 286

ของหมอมฉันแลว อาพาธจักทุเลา ทานจักไมมรณภาพ หมอมฉันเห็นอํานาจ ประโยชนนี้ จึงปรารถนาจะถวายคิลานเภสัชแกพระสงฆ จนตลอดชีพ.

๗. อนึ่ง ขออื่นยังมีอีก พระพุทธเจาขา พระองคทรงเห็นอานิสงส ๑๐ ประการ ไดทรงอนุญาตยาคูไวแลว ที่เมืองอันธกวินทะ หมอมฉันเห็น อานิสงสตามที่พระองคตรัสนั้น จึงปรารถนาจะถวายยาคูประจําแกสงฆ จน ตลอดชีพ.

๘. พระพุทธเจาขา ภิกษุณีทั้งหลายเปลือยกายอาบน้ํารวมทากับหญิง แพศยา ณ แมน้ําอจิรวดีนี้ หญิงแพศยาเหลานั้นพากันเยยหยันภิกษุณีวา แมเจา พวกทานกําลังสาวประพฤติพรหมจรรยจะไดประโยชนอะไร ควรบริโภค กามมิใชหรือ พระพฤติพรหมจรรยตอเมื่อแกเฒา อยางนี้ จักเปนอันพวก ทานยึดสวนทั้งสองไวได ภิกษุณีเหลานั้นถูกพวกหญิงแพศยาเยยหยันอยู ได เปนผูเกอ ความเปลือยกายของมตุคามไมงาม นาเกลียค นาชัง หมอมฉัน เห็นอํานาจประโยชนนี้จึงปรารถนาจะถวายผาอุทกสาฎก แกภิกษุณีสงฆ จน ตลอดชีพ.

ภ. วิสาขา ก็เธอเห็นอานิสงฆอะไร จึงขอพร ๘ ประการตอตถาคต

วิ. พระพุทธเจาขา ภิกษุทั้งหลายในพระธรรมวินัยนี้ จําพรรษาใน ทิศทั้งหลายแลว จักมาพระนครสาวัตถี เพื่อเฝาพระองค แลวจักทูลถามวา ภิกษุมีชื่อนี้ถึงมรณภาพแลว ทานมีดติอยางไร มีภพหนาอยางไร พระพุทธเจา ขา พระองคจักทรงพยากรณภิกษุนั้นในโสดาปตติผล สกทาคามิผลอนาคามิผล หรืออรหัตผล หมอมฉันจักเขาไปหาภิกษุพวกนั้น แลวเรียนถามวา พระคุณ เจารูปนั้นเคยมาพระนครสาวัตถีไหมเจาขา ถาทานเหลานั้นจักตอบแกหมอ-

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 287

ฉันวา ภิกษุนั้นเคยมาพระนครสาวัตถี หมอมฉันจักถึงความตกลงใจในการมา ของพระคุณเจารูปนั้นวา พระคุณเจารูปนั้นคงใชสอยผาวัสสิกสาฎก คงฉัน อาคันตุกภัต คมิกภัต คิลานภัต คิลานุปฏฐากภัต คิลานเภสัช หรือยาคู ประจําเปนแน เมื่อหมอมฉันระลึกถึงกุศลนั้นอยู ความปลื้มใจจักบังเกิด เมื่อ หมอมฉันปลื้มใจแลว ความอิ่มใจจักบังเกิด เมื่อมีใจอิ่มเอิบแลว กายจักสงบ เมื่อมีกายสงบแลว จักเสวยสุข เมื่อมีความสุข จิตจักตั้งมั่น จักเปนอันหมอม ฉันไดอบรมอินทรีย อบรมพละ อบรมโพชฌงคนั้น หมอมฉันเห็นอานิสงสนี้ จึงขอประทานพร ประการตอพระองค พระพุทธเจาขา.

ภ. ดีละ ดีละ วิสาขา ดีแท วิสาขา เธอเห็นอานิสงสนี้ จึงขอ พร ๘ ประการตอตถาคต เราอนุญาตพร ๘ ประการแกเธอ. ครั้งนั้น พระผูมีพระภาคเจาทรงอนุโมทนานางวิสาชา มิคารมาตา ดวยพระคาถาเหลานี้ วาดังนี้:-

คาถาอนุโมทนา

[๑๕๔] สตรีใด ไหขาวและน้ํา มีใจ เบิกบานแลว สมบูรณดวยศีล เปนสาวิกา ของพระสุคต ครอบงําความตระหนี่แลว บริจาคทานอันเปนเหตุแหงสวรรค เปน เครื่องบรรเทาความโศก นํามาซึ่งความสะ สตรีนั้น อาศัยมรรคปฏิบัติ ปราศจากธุลี ไมมีกิเลศเครื่องยั่วใจ ยอมไดกําลังและอาย เปนทิพย สตรีผูประสงคบุญนั้น เปนคนมี สุข สมบูรณดวยอนามัย ยอมปลื้มใจใน สวรรคสิ้นกาลนาน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

พระวินัยปฎก มหาวรรคเลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 288

พระพุทธนุญาตผาวัสสิกสาฏกเปนตน

[๑๕๕] ครั้นพระผูมีพระภาคเจาทรงอนุโมทนา นางวิสาขา มิคารมาตา ดวยพระคาถาเหลานี้แลว เสด็จลุกจากที่ประทับกลับไป ครั้นแลว ทรงทําธรรมีกถา ในเพราะเหตุเปนเคามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แลว รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายวาดูกอนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผาวัสสิกสาฏก อาคันตุกภัต คมิกภัต คิลานภัต คิลานุปฏฐากภัต คิลานเภสัช ยาคูประจํา อนุญาตผาอุทกสาฎก สําหรับภิกษุณีสงฆ

วิสาขาภาณวาร จบ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ