กรรมที่ได้กับสัตว์เลี้ยง

 
meepmogu
วันที่  16 เม.ย. 2564
หมายเลข  34066
อ่าน  640

เรามีหมาปอม 2 ตัวค่ะ อายุประมาณ 12-13 ปี ช่วงปีที่แล้ว เริ่มสังเกตว่าน้องหมาไอทั้งคู่ เริ่มหอบหนักๆ พอดีมีร้านตัดขนหมาที่เจ้าของเป็นหมอสัตว์ เลยให้เค้าอาบนํ้า ตัดขน และตรวจสุขภาพ ประกฎว่าเป็นโรคหัวใจทั้งคู่ แต่หมอคนนี้รักษาไม่ได้ เพราะร้านเน้นอาบนํ้าตัดขนค่ะ

แต่หลังจากนั้นเราไม่ได้พาเค้าไปหาหมอเลย เพราะกลัวโควิด ละก็ตอนนี้เป็นนักศึกษาต่างประเทศอยู่ปี 1 อยู่ที่บ้านเรียนออนไลน์ตลอดค่ะ ไม่ได้ออกไปไหนเลย มีอยู่หลายครั้งที่เราอยู่บ้านเป็นเดือนๆ ออกไปก็เพื่อไปหาหมอฟันตามที่นัดใว้ ละก็กลับมาเลยค่ะ

เมื่อคืนหมาตัวนึงเสียชีวิตลงค่ะ เราเลยรู้สึกผิดที่ไม่ได้พาเค้าไปหาหมอ รู้สึกผิดที่ขังเค้าใว้อยู่หลังบ้าน บางวันก็พาไปเดินเล่นในหมู่บ้าน บางวันก็ลืม ก่อนโควิดเราก็ไปเรียนม. ปลายอยู่ต่างประเทศตั้ง 4 ปี ตอนนี้ที่อยู่ไทยเพราะโควิด เลยรู้สึกว่าไม่ได้ดูแลเค้าดีตั้งแค่แรก

ตอนเด็กๆ เราวอนพ่อแม่ให้ซื้อหมามาตัวนึง แล้วท่านก็ซื้อมา 2 ตัวให้เราเลี้ยงค่ะ แต่ตอนนั้นเราโลภ อยากได้หมามาเลี้ยง แต่ไม่ได้ดูแลมันดีมากนัก ตอนนั้นเป็นนักเรียน พ่อแม่ไปทํางาน ไม่มีใครอยู่บ้าน เลยต้องขังใว้หลังบ้าน เราก็สงสารเค้าว่าร้อน แต่พ่อแม่ไม่ให้เราเลี้ยงในบ้าน

อยากทราบว่าที่ผ่านมาเราบาปมากมั้ย ถ้าบาปมากเราทําบุญให้เค้ายังไง แผ่เมตตายังไง กรรมที่จะมีผลกับเราเป็นยังไง เราเคยได้ยินคนบอกว่าถ้าขังสัตว์เลี้ยงไว้ ตอนเราแก่อาจจะต้องนอนติดเตียงอย่างเดียว รบกวนให้คําแนะนําหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 เม.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บาปไม่บาปสำคัญที่เจตนา ว่าเจตนาดีหรือไม่ดี ซึ่งผู้นั้นย่อมรู้เอง คนอื่นไม่สามารถที่จะรู้ได้ ซึ่งควรพิจารณาความจริงว่า สัตว์แต่ละชีวิตก็มีกรรมเป็นของๆ ตน สัตว์ตายหรือใครจะตายก็เพราะกรรมของตนเอง ไม่มีใครจะสามารถทำให้ใครตายได้ เมื่อสัตว์เกิด สุนัขเกิด ก็มาด้วยกรรมของสัตว์นั้นเอง และ เมื่อตายก็ตายด้วยกรรมของสัตว์ ต่างคนต่างมา ต่างคนก็ต่างไป ที่สำคัญที่สุด เมื่อสัตว์ตายแล้วก็ต้องเกิดทันที

เพราะฉะนั้น สุนัขที่ตายไปแล้ว ก็เกิดแล้ว เขาก็อาจเกิดในสถานที่ดีๆ ควรจะเศร้าโศก ถึงสัตว์ สุนัข ที่ไปในสถานที่ หรือ เกิดในที่ดีแล้วหรือไม่

หากจะเศร้าโศกถึงสัตว์ที่จากไป ก็ควรคิดถึงตนเองที่จะต้องจากไป ดังเช่นสัตว์นั้น ควรที่จะไม่ประมาทในชีวิต ที่จะศึกษาธรรม อบรมปัญญา ในช่วงเวลาที่มีชีวิตที่เหลือน้อย ความตายก็ใกล้มาทุกขณะ ความตายของผู้อื่น ย่อมเป็นเครื่องเตือนให้น้อมเข้ามาในตนว่า ควรใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท สิ่งที่ติดตัวไปได้ คือ ความดีและความไม่ดี แต่สิ่งที่เป็นที่พึ่ง คือ กุศล บุญที่กระทำ และสัตว์หรือญาติที่เสียชีวิตไป สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขา คือ ไม่ใช่ความเศร้าโศกของเรา แต่ คือ การทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้รับ คือ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

ขับรถชนสุนัข ไม่หยุดรถให้คนตาบอดข้ามถนนในที่จราจรหนาแน่น

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
meepmogu
วันที่ 16 เม.ย. 2564

ขอบคุณมากๆค่ะ 

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 16 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 16 เม.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้พระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อมีการเกิด ย่อมไม่พ้นไปจากความตายไปได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดิรัจฉาน หรือเป็นมนุษย์ ในที่สุดแล้ว ก็จะต้องสิ้นสุดความเป็นสัตว์บุคคลนั้น ในชาตินั้น เมื่อว่าโดยสภาธรรมแล้ว ก็ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ธรรมเท่านั้น ที่เกิดขึ้นเป็นไป ที่กล่าวว่าสัตว์ตาย หรือ คนตาย ก็คือ จุติเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ และ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ก็ยังต้องเกิด ตายแล้วเกิดทันทีโดยที่ไม่มีจิตอื่ื่นคั่นเลย ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดเป็นอะไรในภพใด ตามสมควรแก่กรรมที่ได้กระทำแล้ว ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย หรือ เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมก็ทำให้เกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นเทวดา

เมื่อไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าสัตว์อื่น ก็ไม่ได้เป็นอกุศลกรรม แต่อกุศล ก็มากเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน แม้ความติดข้องในสัตว์เลี้ยงนั้น ก็เป็นอกุศล เมื่อมีความติดข้อง ก็ย่อมเป็นเหตุนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจได้ เมื่อสิ่งที่เป็นที่รักเป็นที่ติดข้อง พลัดพรากจากไป เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ความจริง เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของธรรมไม่ได้เลย

เมื่อเห็นสัตว์ หรือ คนอื่นตาย ประโยชน์คืออะไร? ในที่สุดแล้ว เราก็จะต้องตายเหมือนกับผู้ที่ตายไปแล้วนั่นแหละ ดังนั้น กิจที่ควรทำก่อนที่วันนั้นจะมาถึง คือไม่ประมาทในการศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา และไม่ประมาทในการเจริญกุศลสะสมเป็นเสบียงเดินทางต่อไปในสังสารวัฏฏ์ เมื่อได้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ก็ยังเป็นเหตุนำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีแก่ผู้อื่น ซึ่งเห็นคุณของความดีด้วย ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เฉลิมพร
วันที่ 16 เม.ย. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
meepmogu
วันที่ 16 เม.ย. 2564

รบกวนถามต่อนะคะ

การที่ไม่พาน้องไปหาหมอคือการขาดเมตตาหรือเปล่าคะ มีกรรมไม่ดีไหมคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เข้าใจ
วันที่ 17 เม.ย. 2564

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 17 เม.ย. 2564

เรียน ความคิดเห็นที่ ๖ ครับ  

เมตตา หมายถึงความเป็นมิตรเป็นเพื่อน หวังดีต่อผู้อื่น  ขณะนั้น จึงสำคัญที่สภาพจิตใจของตนเองว่าเป็นอย่างไร   และสถานการณ์โควิดระบาด ไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ดูแลเขา ใช่ไหม  ก็ดูแลเท่าที่จะเป็นไปได้    แต่ถ้าขณะก็ตามที่ไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ   ก็ต้องเป็นอกุศล   เปลี่ยน ไม่ได้   ในความเป็นจริงของธรรม  แต่ที่แน่ๆ  เมื่อไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เขาตาย   ก็ไม่ใช่อกุศลกรรมบถ     ซึ่งต้องไม่ลืม ในความที่สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน     ขณะนี้  น้องเขาก็ไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว  การเศร้าโศกเสียใจ   คิดแล้วคิดอีกในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  ไม่มีประโยชน์อะไรเลย   ก็ขอให้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ทำสิ่งที่ดี  แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา  นี้แหละ คือสิ่งที่ควรทำ แทนที่จะไปเศร้าโศกเสียใจ  ครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
meepmogu
วันที่ 17 เม.ย. 2564

ขอบคุณและขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ