เป็นเราโดยโลภะ เป็นเราโดยทิฏฐิ เป็นเราโดยมานะ

 
ปทุม
วันที่  3 มี.ค. 2564
หมายเลข  33816
อ่าน  635

เป็นเราโดยโลภะ เป็นเราโดยทิฏฐิ เป็นเราโดยมานะ และเหตุใดจึงไม่มีเป็นเราโดยโทสะ หรือคะ ทั้งๆ ที่ชีวิตประจำวัน ก็เป็นเราที่โกรธ แล้วก็ยังเป็นเราที่เห็น ที่ได้ยิน ที่คิด ที่สุข ที่เศร้า แต่ทำไม  มีเพียง 3 คือ เป็นเราโดยโลภะ ทิฏฐิ และ มานะ 


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปทุม
วันที่ 3 มี.ค. 2564

เหตุใดทำไม ถึงไม่รวมหมดว่า เป็นเราโดยทิฏฐิ  แต่ทำไมพระพุทธเจ้าทรงแยก ว่า เป็นเราโดย มานะ โลภะ ทิฏฐิ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 มี.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นเรา ไม่พ้นจากความเป็นเรา ๓ ประการ กล่าวคือ ความเป็นเรา ด้วยตัณหาความติดข้องยินดีพอใจ ความเป็นเราด้วยความสำคัญตน และความเป็นเรา ด้วยความเห็นผิด ซึ่งจะเห็นได้ว่า สภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพธรรมใดๆ ก็ตาม ก็เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือในความเป็นเรา ๓ อย่างนี้ สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ยังมีความเป็นเราอยู่   เช่น เห็นว่าเป็นเรา เห็นว่าเที่ยง เห็นว่ายั่งยืน เห็นว่าเป็นตัวตน นั่น ก็เป็นเราด้วยความเห็นผิด ไม่พ้นจากความเป็นเราเลย ถ้าเป็นไปกับความติดข้องยินดีพอใจ (โดยที่ไม่มีความเห็นผิด) ก็เป็นความเป็นเรา ด้วยตัณหา ถ้าเป็นไปกับความสำคัญตน เปรียบเทียบ ก็เป็นเรา ด้วยมานะ ความสำคัญตน    แต่ความเป็นเราย่อมไม่เกิดทุกขณะจิต เพราะขณะที่กุศลเกิดขึ้น หรือ วิบาก เกิดขึ้น  หรือ กิริยา เกิดขึ้น  ไม่มีการยึดถือว่าเป็นเรา ครับ

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เพิ่มเติมที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ


เป็นเราโดยตัณหา มานะและ ทิฏฐิ

และขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ความเป็นเรา

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ปทุม
วันที่ 11 ก.ย. 2564

กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์ บางครั้งหนูก็อ่านข้อความคำถามเก่าๆ ซ้ำๆ และก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจ กราบขอบพระคุณค่ะ และกราบขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ