เปิดใจอดีตแม่ชีหมอจอย พญ.ธิดา คงจรรักษ์

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  28 ก.พ. 2564
หมายเลข  33799
อ่าน  1,133

พญ.ธิดา  ในลักษณะที่เห็นมา คนที่ไปปฏิบัติตามสำนักปฏิบัติ ไม่มีความรู้มาก่อนเลย แล้วก็ถูกสอนในทางที่ไม่ได้มีความเข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้น มีแต่ให้ทำตามๆ กัน เพื่อที่จะบรรลุญาณที่ ๑ ญาณที่ ๒ ว่ากันไป แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจในชีวิตประจำวัน ถึงธรรมะที่กำลังมีในขณะนี้ ซึ่งคนเหล่านั้น ก็จะไม่คิดว่าจะมาฟังพระธรรม เพราะเขาคิดว่า เขากำลังทำสิ่งที่ถูกอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น การที่ทางมูลนิธิฯ พยายามเผยแพร่ในสิ่งที่ถูกต้องไป แต่ถ้าเขาไม่ถึงเวลา แม้เราจะเอาไปให้เขา เขาก็ไม่ฟัง เขาไม่เปิดใจ แล้วก็ทิ้งไปเลย

การที่เราจะไปพยายามเปลี่ยนทิฏฐิของคน มันยาก แสนยาก และในที่สุด เราก็ปวารณาตนเฉพาะผู้ที่สนใจ และเป็นผู้มีปุพเพกตปุญญตา ที่เคยสั่งสมบุญมา เท่านั้น เพราะว่า ในจำนวนคนมากมายมหาศาลที่เห็นผิดมาก่อน แล้วก็ทำตามๆ กันแบบนี้ แล้วก็เห็นว่า ศาสนาพุทธจริงๆ คือคำสอน ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครสนใจเลย มันยากมาก ที่จะทำให้คนเหล่านั้น เกิดสัมมาทิฏฐิ

ท่านอาจารย์  ถ้าเข้าใจผิด เป็นความผิดของคนที่ไม่ไตร่ตรอง ฟังใหม่ พิจารณาใหม่ และเป็นผู้ที่ตรงต่อเหตุผล จึงควรที่จะได้รับประโยชน์ จากการพิจารณาคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ให้เชื่อ แต่ให้เข้าใจ

เพราะฉะนั้น ไปปฏิบัติที่สำนักวิปัสสนา ทำเพื่ออะไร? ไม่ใช่เพื่อเข้าใจอะไรเลย ทำเพื่อต้องการที่จะถึงการเป็นพระโสดาบัน โดยไม่รู้ว่า พระโสดาบันละกิเลสอะไรบ้าง ด้วยปัญญาระดับไหน เพราะแม้ขณะเดี๋ยวนี้ แม้จะได้ยินได้ฟังว่า ธรรมะมีจริงแต่ไม่รู้ ก็ยังไม่รู้ว่า เดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ มีจริงหรือเปล่า?

เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งซึ่งผู้ที่จะขัดเกลากิเลสข้ามไป ไม่รู้ไม่ได้ เพราะเป็นจริงถึงที่สุด ตรงกับคำที่ทรงแสดงไว้

ขอเชิญคลิกชมบันทึกการสนทนาฉบับเต็ม ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง : 


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ