ผลของกรรม เป็นเหตุปัจจัยไหม

 
บ้านธัมมะ
วันที่  11 ก.พ. 2564
หมายเลข  33705
อ่าน  549

ผลของกรรม เป็นเหตุปัจจัยไหม  จาก คุณโสภณวิท

 


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง เข้าใจทีละคำให้ถูกต้องแม้แต่คำว่า ผลของกรรม ครับ เมื่อกล่าวถึงผลของกรรม ก็จะต้องเข้าใจคำว่า กรรม ที่เป็นตัวเหตุ คือ กุศลกรรม และ อกุศลกรรมที่จะทำให้เกิดผล ผลของกุศลกรรม และอกุศลกรรม มีสองอย่างคือ รูปและนาม กุศลกรรม และอกุศลกรรมเป็นเหตุให้เกิดนาม คือ จิต เจตสิก ที่เรียกว่า วิบาก เมื่อใช้คำว่า วิบาก จะมุ่งหมายถึง นามธรรมเท่านั้น ที่เป็นจิต เจตสิก ส่วนผลของกรรม ที่เกิดจากเหตุ คือ กุศล อกุศล ไม่ใช่มีแค่จิต เจตสิก แต่มีรูปด้วย เช่น กัมมัชชรูป คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งเกิดในขณะที่ปฏิสนธิจิต ที่เป็นวิบากจิต เกิดขึ้น พร้อมกับ รูป คือ กัมมัชรูป รูปที่เกิดจากกรรม เพราะฉะนั้น กุศลกรรม และ อกุศลกรรมที่เป็นเหตุ เป็นเหตุให้เกิด ทั้งนาม คือ จิต เจตสิก ที่เรียกว่าวิบากจิต วิบากเจตสิก รวมทั้ง กุศลกรรม อกุศลกรรม เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดรูป ที่เกิดจากกรรม กัมมชรูป คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นต้นด้วย แต่รูป ไม่ใช่วิบาก แต่รูปเป็นผลของกรรม ครับ ดังนั้น เราจะต้องแยกคำว่า วิบาก กับ ผลของกรรม ว่าไม่เหมือนกัน วิบาก มุ่งหมายถึง จิต เจตสิกเท่านั้นไม่รวมรูป ส่วนผลของกรรม รวมทั้ง รูปและนาม จึงกล่าวได้ว่า กุศลกรรม อกุศลกรรมที่เป็นเหตุ ผลของกรรม คือ วิบาก (จิต เจตสิก) และ รูป ครับ

เมื่อกล่าวถึงเหตุปัจจัย แล้ว มุ่งหมายถึงสิ่งที่อุปการะเกื้อกูลหรือเป็นเหตุให้ผลเกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งกว้างขวางมากถึง ๒๔ ปัจจัย เหตุ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นด้วย ที่เรียกว่า เหตุปัจจัย ได้แก่ เจตสิก ๖ ประเภท คือ โลภะ โทสะ โมหะ และ อโลภะ อโทสะ อโมหะ อันเป็นเหตุให้ผลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ได้แก่ จิต และเจตสิกอื่นๆ ที่เกิดร่วมกัน ตลอดจนถึงรูปที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยนั้น ด้วย

แต่ถ้ากล่าวอย่างกว้างๆ ว่า สภาพธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย เหตุปัจจัยในที่นี้ก็เป็นการกล่าวโดยรวมให้เข้าใจว่า สภาพธรรมไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆ แต่ต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้สภาพธรรมนั้นๆ เกิดขึ้นเป็นไป เช่น ขณะที่เห็นเกิดขึ้น ก็ต้องอาศัยทั้งที่เกิดของจิตเห็น ต้องมีเจตสิกธรรมเกิดร่วมด้วย ต้องมีสีเป็นอารมณ์ ต้องมีกรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีตให้ผลทำให้จิตเห็นเกิดขึ้นด้วย

ดังนั้น ผลของกรรม ที่เป็นนามและรูป ก็เป็นเหตุปัจจัยโดยปัจจัยต่างๆในปัจจัย 24 ประการที่มีความละเอียดลึกซึ้ง โดยปัจจัยที่เกิดพร้อมกันบ้าง เป็นวิปากปัจจัย บ้าง เป็นต้น สำคัญ คือ การเข้าใจถูกในการศึกษาธรรมในเรื่องปัจจัยและอื่นๆที่จะเข้าใจถูกว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่มีเราได้รับผลของกรรม มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เราสักขณะ และบังคับบัญชาอะไรไม่ได้เลย ทั้งหมดเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น การเข้าใจเบื้องต้นเช่นนี้ก็จะเป็นเหตุให้เข้าใจความเป็นธรรมไม่ใช่เราเพื่อไถ่ถอนกิเลสที่ต้องละอันดับแรก คือ ความยึดถือว่าเป็นเราเป็นสัตว์บุคคล ครับ

เชิญคลิกฟังคำบรรยาย ท่าน อ.สุจินต์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่ถาม ลิงก์นี้ครับ

ได้ยินคำว่า ปัจจัย เข้าใจว่าอย่างไร

จิตเห็นเกิดขึ้นเพราะกรรมเป็นปัจจัย

ความเข้าใจในกรรมและผลของกรรม

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 11 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผลของกรรม เป็นธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ได้แก่ วิบากจิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกับวิบากจิตนั้นๆ  และ กัมมชรูป คือ รูปที่เกิดจากกรรม ทั้งหมด นั้น คิดเองไม่ได้ ก็ต้องได้ฟังจากผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ความจริงคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประการที่สำคัญ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ จะเข้าใจทั้งหมดทีเดียว เป็นไปไม่ได้

ผลของกรรมเกิดแล้ว ดับแล้ว เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย เป็นผลของกรรมในชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นส่วนของรูป เช่น ตา  หู จมูก ลิ้น กาย เป็นต้น ทั้งหมด ล้วนเป็นธรรมที่มีจริง เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย และ สำหรับ สภาพธรรมที่เป็นผลของกรรม ทั้งนามธรรม และ รูปธรรม  ยังเป็นปัจจัยให้เกิดธรรมอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งก็จะต้องฟังต้องศึกษาไปทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ แต่เมื่อกล่าวอีกนัยหนึ่ง ผลของกรรม ไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผลในภายหน้า เพราะสภาพธรรมที่จะเป็นเหตุให้ผลในภายหน้า คือ เกิดผลของกรรมในภายหน้า ก็ต้องเฉพาะเหตุ คือ กรรม ที่เป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม เท่านั้น

ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ผลของกรรม มีจริง เป็นธรรม ไม่ใช่เรา สภาพธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดผลในภายหน้า ก็เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ครับ 

ขอเชิญศึกษาจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

เราเองทำกรรมและรับผลของกรรม

กรรมและผลของกรรม

...ยินดีในความดีของทุกๆท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 11 ก.พ. 2564

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ