ผู้ที่รู้ตามความเป็นจริง ผู้นั้นย่อมไม่กระทำความชั่ว

 
Suvidech
วันที่  30 มี.ค. 2550
หมายเลข  3249
อ่าน  877

อ่านแล้วเป็นประโยชน์ จึงนำมาฝาก ..

พระพุทธองค์ทรงแสดงสภาพธรรมทั้งหมดเป็นเพียง จิต เจตสิก รูป ไม่มีเราจริง แต่

ความเป็นจริงเรายึดถือทั้งหมดว่าเป็นเรา การสืบต่อของจิต เจตสิก ในชาติหน้าเนื่อง

กับการกระทำทั้งหมดในชาตินี้ ในชาตินี้จิต เจตสิก รูป ที่สมมติว่าเป็นเราได้ทำกรรม

ใด ชาติหน้าจิต เจตสิก รูป ที่สมมติว่าเป็นเราย่อมรับผลของกรรมที่ทำไว้ การอบรม

เจริญปัญญาเพื่อให้จิต เจตสิก รูป นี่แหละพ้นจากทุกข์ ถ้าไม่อบรมปัญญา จิต เจตสิก

รูป นี่แหละย่อมประสบทุกข์ อีกอย่าง หนึ่งผู้ที่รู้ตามความเป็นจริงว่าทั้งหมดเป็นเพียง

จิต เจตสิก รูป เท่านั้น ผู้นั้นคือผู้ที่อบรมเจริญปัญญาเพื่อการพ้นทุกข์ ผู้นั้นย่อมไม่

กระทำความชั่ว ทางกาย วาจา ใจ กระทำแต่ความดี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
devout
วันที่ 30 มี.ค. 2550

ค่ะ คงต้องอาศัยการอบรมอันยาวนาน เชื่อว่าทุกคนอยากเป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น แต่

ไม่มีใครเป็นคนดีได้ด้วยความอยาก ถ้าไม่คบสัตบุรุษ ไม่ฟังธรรม ไม่พินิจพิจารณา

และไม่น้อมประพฤติปฏิบัติ เห็นทีจะเป็นคนดียากค่ะ เพราะเหตุปัจจัยน้อยเหลือเกิน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pornchai.s
วันที่ 31 มี.ค. 2550

ที่สำคัญ ก็คือ ดีเท่าไร ก็ไม่พอ ตราบใดที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 31 มี.ค. 2550

การไม่คบคนชั่วเป็นมิตร เป็นมงคลอันอุดมยิ่ง

ความชั่วเมื่อทำแล้ว ย่อมเดือนร้อนภายหลัง

นักปราชญ์ว่า มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาประเสริฐที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
unknown
วันที่ 31 มี.ค. 2550
ควรเข้าใจว่ายังห่างไกลความดีมากครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 31 มี.ค. 2550

เห็นทางแต่ไม่มีแรง ฉันใด เข้าใจหนทางดับกิเลส แต่ขาดการเจริญกุศลทุกประการ

และอบรมบารมี 10 ก็ไม่มีทางถึงฝั่งคือการดับกิเลสได้เลย

จะเป็นคนดีหรือพระโสดาบัน (ตอนนี้)

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ