ตาเห็นรูปแล้วรู้สึกโกรธ เป็นจิตใด ใน 89 ดวงครับ

 
Hrung@BangKhae
วันที่  13 ต.ค. 2561
หมายเลข  30167
อ่าน  816

คือ พี่น้องเอาเศษอิฐปูน มาทิ้งในที่ดินของผม ผมไปพบเข้ารู้สึกโกรธ เป็นจิตดวงใดใน 89 ดวงครับ จะว่าเป็นอเหตุกจิต ก็ไม่น่าใช่ เพราะผมไม่ได้รู้สึกเฉยๆ


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 13 ต.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่โกรธ ขณะนั้นไม่พ้นจากจิตที่เป็นโทสะ

โทสมูลจิต ๒ ดวง นั้นเกิดร่วมกับปฏิฆะ คือ โทสเจตสิก จึงเป็นปฏิฆสัมปยุตต์ทั้ง ๒ ดวง เพราะเมื่อโทมนัสเวทนาเกิดขึ้นนั้นต้องมีโทสเจตสิกซึ่งเป็นสภาพธรรมที่หยาบกระด้างประทุษร้ายเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง ไม่เหมือนกับโสมนัสเวทนาและอุเบกขาเวทนาซึ่งเกิดร่วมกับโลภมูลจิต หรือกุศลจิต หรือวิบากจิต หรือกิริยาจิตก็ได้

ฉะนั้น เมื่อโทสมูลจิต ๒ ดวง เกิดร่วมกับโทมนัสเวทนา จึงต้องเป็นปฏิฆสัมปยุตต์ทั้ง ๒ ดวง และโทสมูจิตต่างกันเป็น ๒ ดวง ก็เพราะเป็นอสังขาริก คือเกิดขึ้นเองโดยไม่อาศัยการชักจูง ๑ และเป็นสสังขาริก คือ เกิดขึ้นโดยอาศัยการชักจูง ๑

ดังนั้น โทสมูลจิต ๒ ดวง คือ

โทมนสฺสสหคต ํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ สสงฺขาริกํ

ดังนั้น ถ้าโกรธมีกำลังก็เป็น โทมนสฺสสหคต ํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 14 ต.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์อยู่ที่เข้าใจ ความโกรธ มีจริง เป็นสภาพธรรมประการหนึ่ง เป็นเจตสิก (โทสเจตสิก) ไม่ใช่จิต แต่อาศัยเกิดเป็นไปพร้อมกับจิต ทำให้จิตในขณะนั้น เป็นจิตที่มีโทสะเป็นมูล เพราะมีโทสะเกิดร่วมด้วย นั่นเอง ขณะที่โกรธ ขณะที่ไม่พอใจ ขณะที่ขุ่นเคืองใจ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ และไม่ว่าจะเป็นใคร ขณะนั้นเป็นการสะสมโทสะไว้ในจิตแล้ว เมื่อสะสมมากขึ้นๆ จนโทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ มีกำลังมากขึ้น วันหนึ่งวันใดข้างหน้าอาจจะถึงกับประทุษร้าย เบียดเบียน ฆ่าผู้อื่นก็เป็นได้ จะประมาทอกุศลธรรมไม่ได้เลยทีเดียว

ความโกรธ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ตราบใดที่ยังไม่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสถึงความเป็นพระอนาคามีบุคคล ความโกรธ ก็ยังมี เมื่อมีเหตุที่จะทำให้ความโกรธเกิดขึ้น ความโกรธก็เกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดา ถ้าเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมฟังพระธรรม จนกระทั่งมีความเข้าใจสภาพธรรม ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม มีความเข้าใจว่าเป็นธรรมจริงๆ แล้ว อกุศลธรรมทั้งหลายก็จะค่อยๆ ลดน้อยลง ทุกอย่างเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้นจริงๆ จึงไม่ควรโกรธใครเลยทั้งสิ้น ไม่ควรเห็นว่าโกรธ เป็นเรื่องดี เพราะฉะนั้น จึงแสดงให้เห็นว่า การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ทำให้ทุกคนมีที่พึ่ง นั่นก็คือ ปัญญา (ความเข้าใจถูก) ของแต่ละบุคคล นั่นเอง ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 15 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 20 พ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ