สนทนาธรรมที่ไต้หวัน [3]

 
kanchana.c
วันที่  13 ก.ย. 2561
หมายเลข  30082
อ่าน  1,746

4 วัน 5 คืนที่ไทเป

วันที่ 8 - 9 กันยายน 2561 แบ่งกลุ่มการสนทนาธรรมเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกสนทนาเป็นภาษาอังกฤษล้วน มีคุณนีนา คุณซ่าราห์และคุณจอน กับคณะชาวเวียดนาม สนทนาที่ห้องรับแขกในห้องสวีทที่ท่านอาจารย์พัก อีกกลุ่ม ท่านอาจารย์ คุณสุขิน คุณนิลพา คุณวินเซ็นต์ สนทนาเป็นภาษาไทยแปลจีน ที่ห้องสัมมนาในโรงแรมโฮวาร์ด เป็นห้องเล็กๆ จุได้ 40 คน คุณวินเซ็นต์ถึงต้องจำกัดคนเข้าร่วมสนทนาธรรม วันแรกมีคนไต้หวันเต็มห้อง ต้องใช้เก้าอี้เสริมสำหรับคนไทยที่เข้าร่วมฟัง ผู้ฟังเป็นวัยกลางคน ไม่มีผู้สูงอายุมาก มีหนุ่มสาวด้วย และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ตอนแรกการแปลไทยเป็นจีนไม่ค่อยราบรื่น เพราะสำเนียงจีนมีมากมาย ต้องคุ้นชินกันก่อนจึงจะพอเข้าใจ ท่านอาจารย์และคุณสุขินจึงพูดภาษาอังกฤษให้คุณวินเซ็นต์แปลเป็นจีน คงเพราะคุ้นชินกับสำเนียงมากกว่า รายละเอียดการสนทนาธรรมทั้งหมด คุณเอ็ม วรศักดิ์ ราชตา เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ และทีมงานตากล้องอาสาสมัคร คุณยุพิน สุชลธาดา คุณทวีชัย คุณจิราภรณ์ ศรีสมุทร คุณจันทนา ส่องแสงจินดา ช่วยกันอย่างแข็งขัน ผู้สนใจสามารถติดตามชมย้อนหลังได้ (ตามลิงค์ยูทูปที่แนบไว้ท้ายกระทู้นี้)

เมื่อเห็นห้องสัมมนาเต็ม คนไทยที่โชคดีได้ฟังธรรมเป็นภาษาไทยที่สามารถเข้าใจทุกคำได้อย่างลึกซึ้ง (ในพยัญชนะ ไม่ใช่ในอรรถของธรรมซึ่งต้องใช้เวลาฟังแล้วฟังอีกพิจารณาแล้วพิจารณาอีก ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ภาษาใด ก็เหมือนกัน) และเวลาไหนก็ฟังได้ (เพราะทำบุญไว้แต่ปางก่อน) จึงสละสิทธิ์ในการร่วมสนทนา ขอไปเที่ยวชมเมืองไทเปตามอัธยาศัยของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันเลย เราจึงถูกลืมไว้ในโรงแรมกับผู้ติดตามที่ขอพักผ่อนในห้องเพราะเป็นไข้หวัดในเช้าวันหนึ่งจึงหาทางออกไปสำรวจสวนสาธารณะต้าอัน (Daan Forest Park) เซ็นทรัลพาร์คของไทเปคนเดียว (ใครจะมีอัธยาศัยเดินชมสวนสาธารณะเหมือนเรา?) สวนต้าอันอยู่ใกล้โรงแรมนิดเดียว เดิน 5 นาทีก็ถึงแล้ว ตอนนั้นฝนตกพรำๆ (ตั้งแต่มาไต้หวันฝนตกทุกวัน) เห็นคนไทเปแต่งชุดกีฬากางร่มวิ่งเดินออกกำลังกลางสายฝนมากมาย บางกลุ่มใส่เสื้อฝนรำมวยจีน ดูเป็นชีวิตปกติของเขา ไม่ต้องห่วงถึงฝนตก (ตอนแดดออก อาจจะห่วง ยังไม่เห็น) เหมือนอย่างที่ทรงแสดงถึงลักษณะของคนขยันที่ไม่อ้างว่าฝนตก แดดออก ร้อนนัก หนาวนัก ยังเช้าอยู่ สายแล้ว แล้วไม่ทำงาน เดินคนเดียวก็ดีเหมือนกัน คุยกับตัวเองเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากจะคุย ไม่ต้องเอาใจคู่สนทนา แต่เพราะยังติดข้องกับความปลอดภัยของตนเอง ทำให้วิตกกังวลว่า ถ้าเป็นอะไรไป จะมีใครรู้บ้าง ทำให้ความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติลดน้อยลง ก็ยังว่ายวนในห้วงน้ำใหญ่ของความเพลิดเพลินบ้าง ความวิตกกังวลบ้าง ทั้งหมดเพราะไม่รู้ความจริงว่า ไม่ว่าจะเห็นอะไร ได้ยินอะไร คิดอะไร ก็เป็นธรรมที่เกิดขึ้นแล้วเพราะเหตุปัจจัย เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้นแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีก บังคับบัญชาไม่ได้ จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย ยึดมั่นในความว่างเปล่า ในสิ่งที่ไม่มีว่ายังมี ยึดมั่นในโลกที่นักมายากล คือ จิตสร้างขึ้นจากสิ่งที่ไม่มี แล้วมี แล้วไม่มี ว่ายังมีอยู่แถมเป็นของเราด้วย แท้จริงแล้วเราก็ไม่มี สิ่งทั้งหลายที่ยึดถือว่าเป็นของเราจะมีแต่ที่ไหน

ภายในสวนกว้างใหญ่และสะอาดนั้น มีต้นไม้ใหญ๋หลายชนิดปลูกเป็นกลุ่มๆ ต้นไทร ต้นไผ่ ต้นปาล์ม และอีกมากมายที่ไม่รู้จักชื่อ มีดอกมหาหงส์ปลูกเป็นดงใหญ่ มีนกกระยาง 2 - 3 ตัว เดินจิกหญ้ากลางฝน เดินไปอ่านแผนที่กลางสวน มีคนใจดีมาถามว่า มีอะไรให้ช่วยไหม คิดว่าเราหลงทาง หน้าตาเราคงดูอ้างว้างห่อเหี่ยว จริงๆ ก็หลงทางจริงๆ หลงอยู่นานแสนนานมาแล้ว บางทีก็รู้สึกว่าหลงทาง แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าหลง เพราะกำลังสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่เวลาที่เป็นทุกข์เดือดร้อนก็จะหาทางให้พ้นทุกข์นั้น เมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็จะรู้ว่าหลงทางแล้ว แล้วความทุกข์เดือดร้อนนั้นก็ดับไปตามธรรมดาของทุกสิ่ง เมื่อเพลิดเพลินอีกก็ลืมว่าอยากจะหาทางออก จึงติดวนอยู่ในสังสารวัฏมาแล้วยาวนาน และยังอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน

วันก่อนสุดท้ายในไทเป มีคนไต้หวันที่มาร่วมสนทนา 2 วันก่อน มาขอร่วมสนทนาธรรมรอบพิเศษกับท่านอาจารย์ที่ห้องพัก สนทนาจนถึง 6 โมงเย็น ไม่ได้อยู่ร่วมฟังเพราะวันนี้ไปเที่ยว North Coast ทางเหนือของไทเป นั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรปาซิฟิค เป็นชายฝั่งที่เป็นหินทราย หินมีสีต่างๆ สวยงาม ส่วนที่อ่อนถูกลมและน้ำทะเลกัดกร่อนจนเป็นรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการ เป็นเศียรของเจ้าหญิงบ้าง เป็นหัวใจบ้าง เป็นช้างบ้าง สวยงาม น่าดู น่าชม จนคนเขลาเช่นเราข้องอยู่ ตามไปหาดูหาชมไม่หยุดหย่อน เห็นว่าสวยแล้ว เห็นนานเข้าก็ชิน ต้องแสวงหาสิ่งใหม่ที่สวยกว่าเดิม เจ้านาย คือ โลภะจึงจะพอใจ ปล่อยให้เป็นอิสระ ยังไม่ต้องแสวงหาสักครู่หนึ่ง แต่ไม่นานเจ้านายก็เบื่อ เปลี่ยนจากโลภะเป็นโทสะ บังคับให้ต้องไปแสวงหาสิ่งที่น่าเพลิดเพลินกว่าเดิมให้ได้ อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ของท่านโลภะต่อไป ถ้าไม่มีความเพลิดเพลินติดข้อง ชีวิตจะอยู่อย่างไร จะอยู่ด้วยปัญญา ปัญญาก็เจริญเติบโตช้าเหลือเกิน ไม่ทันออกดอกออกผลให้ชื่นใจ จึงต้องอบรมเจริญปัญญาท่ามกลางโลภะ โทสะอย่างนี้ต่อไป จนกว่าปัญญาจะเติบโตพอจะละคลายอกุศลได้ทีละเล็กทีละน้อย

ออกจากเยียวหลิว (ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้) ก็ไปเมืองบนเขาที่ชื่อ ส่วนเก้า (ภาษาไทย จีนว่าอย่างไรจำไม่ได้) เหมือนตลาด 100 ปีที่สามชุก มีร้านอาหารมากมาย ผู้คนเดินขวักไขว่ ต่างก็เป็นทาสโลภะเหมือนกัน พากันใช้กำลังขาเดินขึ้นภูเขาไปชม ไปชิม ให้ตาได้เห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงาม ลิ้นลิ้มรสอาหารจีนที่แปลกๆ และอร่อย จะปวดเมื่อยอย่างไรต้องอดทน เพื่อให้เจ้านายพอใจ จนเดินไม่ไหวจึงหยุดพัก ซื่อสัตย์จริงๆ ไม่ต้องมีคนคุมให้ทำงานเลย ทำด้วยความอดทนมุ่งมั่น สละแม้ชีวิตเพื่อเจ้านายจริงๆ ข้าพเจ้าจะเป็นทาสของท่านโลภะต่อไปอีกแสนนาน

กลับมาถึงโรงแรม หมดแรงนอนสลบไปพักหนึ่ง (อีกกลุ่มไปช้อปต่อ) พอมีแรงรีบลุกทำงานให้เจ้านายต่อ ลุกขึ้นตามเสียงโทรศัพท์เรียกของน้องซุง ไปห้าง SOGO ห้างใหญ่ของไทเปทันที ไม่ได้ล้างหน้า หวีผม ดูกระจกเลย กลัวไม่ทันใจเจ้านาย นั่งรถเมล์จากโรงแรมไปห้างเพื่อรับประทานเสี่ยวหลงเปา ที่ห้างนี้ ตามคำแนะนำของน้องโต บวร ที่หาข้อมูลเมืองไทเปให้เพียบ แต่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะอัธยาศัยของคนไปด้วยไม่ค่อยเหมือนกัน จะไปคนเดียวก็ไม่กล้า เพราะอัธยาศัยเป็นคนหลงทางง่าย ยิ่งเวลาง่วงหรือเหนื่อย จะกำหนดทิศทางไม่ได้เลย จึงต้องติดตามคนอื่นเสมอ คราวนี้ได้น้องเอ็มกับน้องซุงนำทาง จึงได้รับประทานของขึ้นชื่อของไต้หวันที่ห้างโซโก้ตามที่คุณโต แนะนำแล้วค่ะ อร่อยจริงๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

ร้านอาหารอยู่ชั้น B2 ของห้าง มีคนเข้าคิวยาวเหยียด เมื่อเราไปบอกว่า 3 คน เขาถามว่าคนไทยใช่ไหม บอกว่ารออีก 45 นาทีจะรอไหม เราบอกว่า รอ ก็ให้เมนูอาหารเป็นภาษาไทยให้ไปเลือกสั่งก่อน พวกเราเลยเดินเล่นในห้างครบทั้ง 9 ชั้น กลับมาเลยคิวไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร ยื่นเมนูที่เลือกให้ ไปนั่งโต๊ะที่จัดไว้สำหรับ 3 คนเรียบร้อย นั่งรอครู่เดียวก็ได้รับประทานเสี่ยวหลงเปา รับประทานจนหมดจึงนึกขึ้นได้ว่าลืมถ่ายรูป ต้องสั่งมาอีกชุดเพื่อถ่ายภาพ ก็สนุกดีหลายคนโลภะรวมกันยิ่งเพลิดเพลินกันใหญ่ รับประทานเสร็จน้องซุงยังอยากไปเดินตลาดกลางคืนที่ยังไม่ได้ไป แต่ป้าไม่ไหวแล้วจ๊ะ อยากก็อยาก แต่สังขารไม่เป็นใจรับใช้เจ้านายที่ชอบเที่ยว ต้องตามใจเจ้านายที่อยากนอน ต้องขอกลับไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับในวันรุ่งขึ้น อย่างไรๆ ก็ไม่พ้นเป็นทาสโลภะ หนีไปไหนไม่พ้น เมื่อไรจะเห็นหน้าเห็นตาเจ้านายจริงๆ เสียที รู้จักแต่ชื่อมาแสนนาน

.........

ขอเชิญชมบันทึกการถ่ายทอดสดการสนทนาธรรมที่ไทเปทั้งหมด ได้ที่นี่...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
kanchana.c
วันที่ 15 ก.ย. 2561

ขอบคุณคุณวันชัย ภู่งามมากๆ สำหรับภาพประกอบเรื่อง ซึ่งหายากมาก เพราะบางทีไปเดินคนเดียวไม่ได้ถ่ายภาพเลย เพราะไม่ชอบถ่าย น้องวันชัยคงหาจาก google ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปลากริม
วันที่ 15 ก.ย. 2561

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Jans
วันที่ 16 ก.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พรชนิตว์
วันที่ 17 ก.ย. 2561

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chvj
วันที่ 30 ก.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Nataya
วันที่ 4 ต.ค. 2561

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ