ทำผิดต่อพ่อแม่ ทุกข์ใจมาตลอดเป็น 10 ปี

 
Thanapon
วันที่  27 เม.ย. 2561
หมายเลข  29695
อ่าน  935

สวัสดีครับมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาทุกท่าน

ผมมีเรื่องทุกข์ใจที่ติดค้างอยู่ภายในใจตลอดมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ครอบครัวของผมอบอุ่นมาก มีพ่อ, แม่ น้องและก็ตัวของผมเอง ครอบครัวของเราอบอุ่นมาก เฮฮา สนุกสนาน จนกระทั่งผมได้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ครอบครัวของผมส่งเสียทุกอย่าง จนกระทั่งผมจบปริญญาตรี

ช่วงนั้นผมยังหางานทำไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากบอกทางบ้านให้เขาเป็นห่วง กลัวว่าที่บ้านจะหาว่าเรียนจบแล้ว แต่ทำไมยังไม่มีงานทำเสียที ทำไมต้องเป็นภาระเขาอีก

ผมจึงบอกกับทางบ้านว่า ผมได้งานทำแล้ว แต่ในช่วงนั้นผมไม่มีเงินเลย เนื่องจากยังไม่ได้ทำงานจริง (พยายามหางานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้)

ผมจำได้ว่าที่บ้านพ่อกับแม่ได้เก็บพวกสร้อยทอง , กำไลทอง, แหวนทองไว้ ซึ่งมูลค่ารวมกันก็เกือบ 20 บาทได้ ผมจึงตัดสินใจขโมยสร้อยทองเหล่านั้นไปขาย ครั้งละ 1 บาทมั่ง 3 บาทมั่ง 5 บาทมั่ง และหวังว่าซักวันหนึ่งผมมีงานทำ มีเงินใช้ ผมจะซื้อมาใช้ให้เขา โดยในระหว่างนี้ผมได้ซื้อสร้อยทองปลอมที่เหมือนกันมาสับเปลี่ยนไว้เพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ แต่ความลับไม่มีในโลกครับ ครอบครัวของผมจับได้ พ่อร้องไห้หนักมาก หนักมากๆ ครับ (ผมไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้มาก่อนในชีวิต) จากครอบครัวที่อบอุ่น กลายเป็นครอบครัวที่เครียด ไม่พูดจากัน พ่อผมกินเหล้าทุกวัน เพราะทุกข์ใจเรื่องผม แม่ไม่เหมือนเดิม จากที่เราสนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง กลับไม่พูดจากัน ไม่สื่อสารกัน

ทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ มีงานทำแล้ว แต่ก็เดือนชนเดือน ความฝันของผมก็คืออยากซื้อทองเหล่านั้นไปใช้ท่านทั้งหมด อยากมีเงินก้อนโตไปให้ท่าน ผมไม่อยากกลับบ้านเลย เพราะรู้สึกผิด ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าอยากกลับไปบ้านพร้อมกับเงินก้อนโต มีทองให้ท่าน อยากขอขมาท่าน ผมควรทำอย่างไรครับ เรื่องนี้มันติดค้างในใจผมมาตลอด ทำอะไรก็รู้สึกไม่ราบรื่น ขอคำชี้แนะด้วยครับ ทุกข์ใจที่สุดในชีวิตครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 เม.ย. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอขมาขอโทษท่านในสิ่งที่ทำผิดจริงๆ ไม่มีใครไม่เคยไม่ทำผิด แต่ ควรรู้โทษโดยการเป็นโทษแล้วไปขอขมา คุณพ่อ คุณแม่ ด้วยใจจริงครับ และ ที่ไม่ลืม คือ ศึกษาพระธรรม ครับ

เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ขณะนี้ เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่จะได้สะสมเหตุใหม่ที่ดี ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา และน้อมประพฤติเฉพาะในสิ่งที่ถูกที่ควรเท่านั้น เมื่อเห็นว่าสิ่งใดที่ไม่ดี (หรือที่เคยกระทำไม่ดีลงไปแล้ว) ก็ไม่ทำผิดอย่างนั้นอีก หนทางที่จะเป็นไปเพื่อดับทุกข์ ดับความเดือดร้อนใจ วุ่นวายใจ และกิเลสทั้งหลายทั้งปวง คือ การอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่ด้วยวิธีอื่น ซึ่งจะต้องมีความอดทน จริงใจ ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ต่อไป

บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ด้วยอำนาจกิเลสมีโลภะ เป็นต้น ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ด้วยอำนาจกิเลส สิ่งใดล่วงไปแล้วก็เป็นอันล่วงไปแล้ว สิ่งใดก็คือสภาพธรรมที่มีจริงคือ จิต เจตสิกทีเ่กิดขึ้นและดับไปแล้ว จะไม่หวนกลับมาอีกเลย พึงเป็นผู้เห็นธรรมในปัจจุบัน ขณะนี้มีสภาพธรรมที่มีจริงกำลังปรากฏอยู่ มีเห็นมีได้ยิน มีคิดนึก ขณะที่คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ก็ไม่ได้รู้ความจริงที่ีมีในขณะนี้ ขณะที่คิดถึงเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็ลืมเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้

ดังนั้นพึงเป็นผู้เห็นธรรมในปัจจุบัน คือสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งขณะที่คิดถึงเรื่องราวในอดีตและอนาคต อะไรมีจริง อะไรมีในปัจจุบัน ก็คือสภาพธรรมที่เป็นจิตที่คิดนึก ดังนั้นรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏแม้จิตที่กำลังคิดนึก การอยู่กับปัจจุบันด้วยปัญญา ย่อมทำให้เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 28 เม.ย. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ หน้า ๒๙๔

“บุคคลใดเลี้ยงมารดาและบิดาโดยธรรม เพราะการบำรุงมารดาและบิดานั่นแลบัณฑิตย่อมสรรเสริญบุคคลนั้นในโลกนี้ทีเดียว บุคคลนั้นละจากโลกนี้ไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์”

(พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค มาตุโปสกสูตร)

[เล่มที่ 60] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖หน้า ๑๖๐

“ผู้ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ย่อมเดือดร้อนในภายหลังว่า เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูมารดาและบิดาผู้แก่เฒ่าชราได้ ก็มิได้เลี้ยงดูท่าน”

(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ชนสันธชาดก)

-----------------------
ควรกลับไปดูแลท่านบ้าง ไม่ใช่ว่าจะไม่กลับเลย สิ่งที่ผิด ก็ผิดไปแล้ว จะทำอย่างไรได้ ก็เริ่มใหม่ ตั้งต้นใหม่ ไม่ควรทำให้ตนเองเดือดร้อนใจในภายหลังด้วยการละเลยกิจที่ควรทำ วันนี้ ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่ ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 3 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาคร

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 4 พ.ค. 2561

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kukeart
วันที่ 6 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Tommy9
วันที่ 8 พ.ค. 2561

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
kullawat
วันที่ 9 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
papon
วันที่ 10 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 15 พ.ค. 2561

ถ้าสำนึกผิดแก้ไขใหม่ เป็นคนดีและศึกษาพระธรรม คุณพ่อคุณแม่จะดีใจที่ลูกเป็นคนดี ควรจะกลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณแม่บ้าง และทดแทนพระคุณเท่าที่จะทำได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ค่อยๆศึกษา
วันที่ 2 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ