ขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีศึกษาพระไตรปิฎก

 
thilda
วันที่  2 ต.ค. 2560
หมายเลข  29221
อ่าน  1,109

เรียนถามอาจารย์

เกี่ยวกับวิธีศึกษาพระไตรปิฏกที่ถูกต้องค่ะ

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 ต.ค. 2560

ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระไตรปิฎกคือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงตามความเป็นจริง ที่เป็นสัจจะด้วยพระปัญญาของพระพุทธองค์ พระธรรมจึงเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง รู้ได้ยาก บัณฑิตเท่านั้นที่รู้ได้ครับ ในเมื่อพระธรรมที่แสดงเป็นหมวดต่างๆ เป็นพระไตรปิฎก ยากลึกซึ้ง แล้วจะเริ่มศึกษาอย่างไร คำตอบคือ ศึกษาจากท่านผู้รู้และผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรมอย่างดี เป็นกัลยาณมิตรผู้มีปัญญา เพราะบางครั้งการอ่านเอง เมื่อไม่เข้าใจก็คิดเองหรือคิดว่าเข้าใจแล้ว ดังนั้น ต้องอาศัยการสอบถาม การสนทนากับผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม อาศัยการฟังพระธรรมจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีความเข้าใจธรรม มีท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นต้น ซึ่งท่านก็แสดงธรรมตามพระไตรปิฎกและท่านก็ขยายความให้เข้าใจยิ่งขึ้นครับ รวมทั้งการสอบถามและสนทนากับท่านอาจารย์สุจินต์และวิทยากรที่มูลนิธิฯ ก็เป็นประโยชน์ให้เราเข้าใจขึ้นทั้งในพระธรรมตามพระไตรปิฎกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงครับ

ธรรมไม่ใช่เรื่องรีบร้อน แต่เป็นเรื่องค่อยๆ เข้าใจ เข้าใจพื้นฐานก่อนครับ หากอ่านพระไตรปิฎกยากในส่วนใด ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทั่วถึงในทุกส่วนหรือพยายามที่จะเข้าใจ ต้องไม่ลืมครับว่าพระธรรมที่ทรงแสดงเป็นปัญญาของพระพุทธเจ้า เราก็เข้าใจได้ตามกำลังปัญญาของตนเองที่สะสมมาน้อย ที่สำคัญจะต้องรู้จุดประสงค์ในการอ่านครับว่า อ่านพระไตรปิฎกเพื่ออะไร และจุดประสงค์ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมที่รวบรวมเป็นพระไตรปิฎกนั้น จุดประสงค์ในการศึกษาคืออะไร

สำคัญคือไม่ใช่จะอ่านพยายามที่จะเข้าใจในพระธรรม แต่ควรรู้ว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงในพระไตรปิฎก เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส เข้าใจสูตรไหนได้พอเข้าใจได้ ขณะที่เข้าใจก็ละความไม่รู้ ขัดเกลากิเลสในขณะนั้น พระธรรมส่วนไหน อ่านแล้วไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจครับ เปลี่ยนไม่ได้ เข้าใจได้ตามกำลังปัญญา และที่สำคัญที่สุดประโยชน์ของการศึกษาพระไตรปิฎก คือ เพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เพราะพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงก็คือ สัจจะความจริงในขณะนี้เอง ขณะนี้มีธรรม ศึกษาพระธรรม ศึกษาพระไตรปิฎกก็เพื่อเข้าใจความจริงในขณะนี้ ดังนั้นเมื่อก่อนที่จะอ่านพระไตรปิฎก ก่อนจะศึกษาพระธรรม เราเริ่มด้วยความเห็นถูก เริ่มด้วยจุดประสงค์ที่ถูกคือศึกษาพระธรรมเพื่อขัดเกลากิเลสและเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ การศึกษาพระไตรปิฎกก็จะไม่เป็นไปในเรื่องการจำเรื่องราวในพระไตรปิฎก แต่เมื่ออ่านแล้วก็เพิ่มพูนศรัทธา เพิ่มพูนคุณธรรมอันเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสและเพิ่มพูนปัญญาอันเข้าใจความจริงในขณะนี้ครับ ขอให้เริ่มด้วยปัญญามีความเห็นถูกตรงนี้ก่อนครับไม่ว่าจะอ่านหนังสือคัมภีร์ พระพุทธศาสนาหรือพระไตรปิฎกก็ตามครับ เริ่มจากความเห็นถูกตรงนี้

ส่วนเมื่อเรามีความเห็นถูกอย่างนี้แล้ว ก็เริ่มจากฟังพระธรรมที่ผู้รู้ ผู้มีปัญญาแสดงตามพระไตรปิฎกอธิบายให้เราเข้าใจ พร้อมๆ กับอ่านพระไตรปิฎกด้วยจุดประสงค์ที่ถูก อ่านในหมวดที่พอที่จะเข้าใจได้และเมื่อไม่เข้าใจ สงสัยก็สอบถามกับผู้ที่สามารถอธิบายให้เข้าใจ ประโยชน์ของการเข้าใจพระธรรมจึงต้องอาศัยกัลยาณมิตร การสอบถามและการสนทนาครับ

ดังนั้น จึงไม่ต้องเป็นผู้ที่จะมุ่งให้เข้าใจพระธรรม โดยศึกษาหลายคัมภีร์ การฟังพระธรรมนั่นเองครับเมื่อปัญญาเจริญขึ้น ถูกต้องแล้ว เข้าใจจริงๆ เมื่อไปอ่านพระไตรปิฎกก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น แต่ทีละเล็กละน้อยครับ แต่ก็เป็นประโยชน์ แต่ที่สำคัญต้องอาศัยกัลยาณมิตรและการสนทนา การสอบถามจากผู้รู้ มีท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นต้นครับเพื่อความเข้าใจที่ถูกขึ้น ซึ่งหนังสือที่มูลนิธิฯ และไฟล์เสียงธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ก็ได้อธิบายพระธรรมในพระไตรปิฎกได้เป็นอย่างดี ให้เราเข้าใจได้ ขณะที่เข้าใจขึ้นเพราะอาศัยการฟังก็เหมือนกับการอ่านพระไตรปิฎกนั่นเองครับ ค่อยๆ ศึกษาเบื้องต้นไปก่อนครับ ซึ่งในหมวดพระไตรปิฎกก็มีเรื่องที่พอจะศึกษาได้เช่น ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ก็อ่านดีครับ และก็พร้อมกับการศึกษาพื้นฐานพระอภิธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายไว้ก็จะทำให้เข้าใจขึ้นเมื่ออ่านพระไตรปิฎกครับ สำคัญที่กัลยาณมิตรการสนทนา การสอบถามและการค่อยๆ ศึกษาพระธรรมไป ด้วยความสบายไม่เร่งรีบครับ


เมื่อศึกษาข้อความใดในพระไตรปิฎก ทั้งพระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม ก็จะต้องรู้ว่าเราสามารถมีความเข้าใจในสิ่งที่อ่านนั้นระดับไหนเข้าใจได้เพียงเล็กน้อยเท่านี้หรือเข้าใจได้อย่างพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษาแบบทฤษฎีวิชาการ หรือ ศึกษาด้วยคิดว่าความเข้าใจจากการศึกษานั้น จะเกื้อกูลให้ได้เข้าใจธรรมได้ถูกต้องชัดเจน เราก็อ่านกันมามากแล้วทั้งพระไตรปิฎกและอรรถกถา แต่เราก็ต้องมาสนทนาธรรม แล้วยังเน้นกันอยู่ต่อไปว่า ธรรม คือ เดี๋ยวนี้ ธรรมที่เราได้ฟังมาทั้งหมด คือ สิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นสิ่งที่ทดสอบความเข้าใจของเราว่า ที่เราเข้าใจมาแล้วทั้งหมดนั้น สามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมจริงๆ ที่กำลังปรากฏในขณะนี้หรือยัง ส่วนใหญ่มีการเรียน ๒ แบบ คือ แบบท่อง และแบบสอบ อันนี้ตัดไปได้เลย มีบางคนคิดว่าต้องท่อง แต่ท่องนั้นเพื่อจำ ไม่ใช่เพื่อเข้าใจและการท่องก็ต้องใช้เวลามากด้วยที่จะจำ แล้วก็ลืม เมื่อไม่เข้าใจก็ไม่มีประโยชน์ แต่ขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏ เราเรียนอะไร เราเรียนให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงๆ ขณะนี้ เพราะฉะนั้น เราลืมจุดนี้ไม่ได้

จากหนังสือ บทบาท อ.สุจินต์ ในการเผยแผ่พุทธธรรม

โดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 ต.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ฟัง ผู้ศึกษาได้พิจารณาไตร่ตรอง เป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง ขอเพียงเป็นผู้เห็นประโยชน์ มีศรัทธามีความจริงใจ มีความอดทน ที่จะฟังที่จะศึกษาจริงๆ ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น สะสมไปทีละเล็กทีละน้อย (เก็บเล็กผสมน้อย) ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ศึกษาไป ไม่ว่าจะเป็นพระสูตรไหน หรือ ส่วนใดของพระธรรมคำสอนก็ตาม ก็เพื่อประโยชน์ทั้งนั้น

และที่สำคัญ การศึกษาธรรม เป็นเรื่องเบาสบายเข้าใจแค่ไหนก็แค่นั้น กล่าวคือ เข้าใจธรรมตามกำลังปัญญาของตนเอง ไม่ว่าจะอ่าน จะฟัง จะศึกษาจากส่วนใดของพระธรรมคำสอน เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องย่อมเป็นประโยชน์ เมื่อไม่ขาดการศึกษา จะด้วยจากการฟัง การอ่าน การพิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง การสนทนา การถาม ล้วนเป็นเหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้นทั้งนั้นการสะสมปัญญา ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปจริงๆ พระธรรมมีค่ามาก มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ ในโลกทั้งปวง ซึ่งถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง ไม่มีโอกาสได้ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจเลย บุคคลผู้ที่ฟัง ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ถึงจะเข้าใจและได้รับประโยชน์จากพระธรรมอย่างแท้จริง และที่สำคัญการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เป็นโอกาสที่หายากในชีวิต เมื่อมีโอกาสแล้ว ได้พบพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ก็ไม่ควรจะปล่อยโอกาสนั้นให้ผ่านไป ควรตั้งใจฟังตั้งใจศึกษาต่อไป ดังข้อความธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้กล่าวไว้ น่าคิดทีเดียวว่า ธรรมเป็นเรื่องยาก ถ้าไม่เริ่มฟัง แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจ แต่ถ้าเริ่มฟังจริงๆ ตั้งใจฟังจริงๆ ไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจ ต้องเข้าใจอย่างแน่นอน ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ทุกคำในพระไตรปิฎกก็คือ ขณะนี้

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 3 ต.ค. 2560

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ประสาน
วันที่ 6 ต.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 7 ต.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
p.methanawingmai
วันที่ 9 ต.ค. 2560

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
mahabaramee
วันที่ 20 ต.ค. 2560

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ใบโพธิ สิกขา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Patchanon
วันที่ 21 ต.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
DEKDOI14
วันที่ 2 พ.ย. 2560

ขอขอบพระคุณอย่างสูง และขออนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ