ว่าด้วยเรื่องการบวชในปัจจุบัน

 
DjPut
วันที่  29 ส.ค. 2559
หมายเลข  28141
อ่าน  1,688

กระทู้นี้ ผมคาใจ 2 ประการ ขอแยกเป็นหัวข้อนะครับ

1.การบวชปัจจุบัน ต้องมีการใส่ซองถวาย (มากไปน้อย) พระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด พระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์ พระอันดับ เป็นต้น ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ใช่หรือไม่ครับ แต่เหตุใดยังมีการปฏิบัติเช่นนี้อย่างแพร่หลาย

2.เทปอาจารย์สุจินต์เรื่อง อารามที่แท้จริง กล่าวถึงวัดแห่งหนึ่งว่าไม่ใช่วัด (ซึ่งอาจารย์ระบุชื่อวัดในเทปนะครับ) ซึ่งส่วนตัวผมก็ไม่ได้ศรัทธาในวัดแห่งนี้และรู้ว่าไม่ควรศรัทธาด้วยประการทั้งปวง ทั้งนี้สอบถามว่า ผู้บวชในวัดนั้น จะชื่อว่า สำเร็จเป็นภิกษุขณะบรรพชาหรือไม่ครับ (คนละเรื่องกับขณะบวชเสร็จแล้วประพฤติพระวินัยหรือไม่นะครับ คนละเรื่องกัน)

ขอบคุณและอนุโมทนาที่ไขความกระจ่างครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1.เพราะคฤหัสถ์ไม่ไ้ดศึกษาพระวินัย จึงทำไปด้วยความไม่รู้ ต่อๆ กันมา ครับ

2.สำคัญที่ว่าพระที่บวช ใช่พระหรือไม่ หรือต้องอาบัติปาราชิกไปแล้ว ถ้าไม่ครบ ตามจำนวน การบวชนั้นก็ไม่ชื่อว่าสำเร็จ แม้จะปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุก็ตาม ครับ

เชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ ดังนี้

ท่านอาจารย์สุจินต์.....แต่แม้กระนั้น ก็มีผู้ที่คิดว่า พระวินัยไม่ใช่สำหรับคฤหัสถ์ แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร? ในระหว่างพุทธบริษัท เหมือนครอบครัว บ้านเดียวกัน แล้วความประพฤติของคนในบ้าน ทำลายพระศาสนา และเราก็อยู่ในบ้านนั้น ประเทศนั้น ครอบครัวนั้น แล้วเราจะปล่อยให้ทำลายพระศาสนา โดยการที่ทำทุกอย่าง ไม่ตรงตามพระวินัย สมควรไหม? ทั้งนี้ เพราะเหตุว่า เป็นความผิดของใคร? คฤหัสถ์ ละเลยที่จะไม่ศึกษาพระวินัย ถ้าคฤหัสถ์ไม่ละเลย ช่วยกันประคับ ประคอง ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นหน้าที่ของพระภิกษุ ที่ท่านจะต้องเป็นหัวหน้าของพุทธบริษัท ท่านจะต้องเป็นผู้ที่ศึกษาธรรมะ แล้วก็รักษาพระวินัย ขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต เพราะเหตุว่า จุดประสงค์ของท่าน สามารถที่จะสละอาคาร บ้านเรือน เพื่อจะดำเนินชีวิตที่เป็นประโยชน์ยิ่ง แต่...ทำหรือเปล่า?

เพราะฉะนั้น เราไม่มีการที่จะว่า คนนั้นทำ คนนี้ไม่ทำ ใครทำ ใครไม่ทำ เพราะเหตุว่า พระธรรมวินัย ตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมด ให้เป็นเครื่องเตือนซึ่งกันและกัน ถ้าพุทธบริษัทเห็นว่าพระภิกษุท่านประพฤติไม่ถูก (ก็) เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา มีตั้งแต่ในครั้งพุทธกาล แล้วเราไม่ทำตามอย่างนั้นหรือ?

คุณณภัทร เพราะฉะนั้น ก็คือว่า พระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ มีมากมาย

ท่านอาจารย์ มีประโยชน์ด้วย สำหรับคฤหัสถ์ด้วย ลองอ่านดูสิคะ คฤหัสถ์จะประพฤติตามพระวินัย ไม่มีใครขัดขวางเลย ว่าทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ฉันเป็นเพศคฤหัสถ์ ฉันจะทำไม่ได้ แต่สิ่งใดที่ดีงาม คฤหัสถ์เองก็ขัดเกลา เพราะเข้าใจวินัยมากขึ้น ละเอียดขึ้น

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-เงินทอง ไม่ควรแก่เพศบรรพชิต คฤหัสถ์ที่ถวายเงินแก่พระภิกษุ ก็เท่ากับผลักพระภิกษุให้ท่านลงอบายภูมิ เป็นเรื่องของความไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่ผิด ทั้งผู้ที่เป็นคฤหัสถ์และบรรพชิต สิ่งที่ผิด ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ผิด สะสมความไม่รู้มามาก จึงทำแต่สิ่งที่ผิดๆ เพราะฉะนั้น หนทางเดียวที่จะเป็นที่พึ่งได้ คือ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เข้าใจ

-แม้จะบวชได้ แต่ถ้า ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่ได้น้อมประพฤติตามพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีการล่วงสิกขาบทที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ เช่น รับเงินทอง เป็นต้น ก็ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเหตุว่า ผู้ที่เป็นพระภิกษุในธรรมวินัย จะต้องศึกษาพระธรรมและน้อมประพฤติตามพระวินัย อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 30 ส.ค. 2559

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wirat.k
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kukeart
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 31 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
มานิสาโข่งเขียว
วันที่ 31 ส.ค. 2559

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 1 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ