ทุกข์ใจเหลือเกินสุนัขจากไป รู้สึกเป็นเพราะเราเขาถึงตาย

 
brownie
วันที่  19 มิ.ย. 2558
หมายเลข  26656
อ่าน  1,898

ดิฉันเลี้ยงสุนัขพันธ์ปอม เพศเมีย เขาอายุ2ปี3เดือน รู้สึกผิดมากๆ พาเขาไปทำหมันเพราะเขาเป็นซีทในรังไข่ ซึ่งตอนเขามีชีวิตอยู่เขาก็ปกติไม่ได้มีอาการทรุดโทรม แต่เราเชื่อคุณหมอและไว้ใจจึงนำเขาไปเข้ารับการรักษา นำเขาไปทิ้งไว้ที่คลินิควันที่23-24 พฤษภาคม2558 ผ่าตัดวันที่25 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เขามีชีวิต เขาแพ้ยาสลบ ไม้ฟื้น หนูเสียใจมากๆ คิดว่าเป็นความผิดหนูต้องทำให้เขาตาย ถ้าไม่พาเขาไปเขาคงอยู่กับหนูได้อีก

ที่สำคัญรู้สึกผิดที่ทิ้งเขาให้เหงาเศร้าถึง2วัน ไม่ได้เจอกันก่อนตาย น้องหมาเขาจะทุกข์ไหม เขาจะกลับบ้านถูกไหม เขาจะหนาวไหมคะเพราะไม่ได้ใส่เสื้อ ตั้งแต่วันที่เขาตายหนูก็ทำบุญให้ทุกๆ วัน สวดมนต์ยาวให้ทุกคืน นำอาหารให้เขาที่หน้าหลุมศพทุกวัน เขาจะโกรธไหม เขาจะกลับบ้านได้ไหม วิญญานเขาจะอยู่ที่คลินิคอยู่ไหมคะ😓😢


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
brownie
วันที่ 19 มิ.ย. 2558

หนูเคยนำเสื้อของเขาไปวัดให้พระทำบังสุกุลให้ เขาจะได้รับหรือเปล่าคะ

ทำอย่างไรคนเราถึงจะวนเวียนได้มาพบกันอีก หนูไปวัดทุกเช้าทำบุญขอพรให้สุนัขที่ตายไปและหนูได้มาพบเจอกันอีก. มันจะมีวันนั้นไหมคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
brownie
วันที่ 20 มิ.ย. 2558

หนูจะบาปไหมคะที่ทำให้เขาต้องตาย เหมือนเป็นเพราะหนูเขาถึงตาย ถ้าเขาพูดได้เขาคงเลือกที่จะไม่ไปทำ แต่เขาพูดไม่ได้เหมือนชีวิตของเขาอยู่ที่หนู หนูพาเขาไปทำหมันผ่าซีทเขาก็ต้องไป. ซึ่งเขาเองอาจจะอยากบอกว่าไม่ไปเพราะเขาก็ยังไม่ได้เจ็บปวดอะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 20 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ซึ่งสำหรับเรื่องที่กล่าวมา ไม่ได้เป็นบาป เพราะไม่ได้มีเจตนาทำร้าย ไม่ได้มีเจตนาเบียดเบียนแต่อย่างใด ส่วนสัตว์จะตาย หรือไม่ตายนั้นก็ตามกรรมของสัตว์ตราบใดที่ยังมีกิเลส ก็ยังจะต้องมีทุกข์เป็นธรรมดา ไม่ว่าใคร หรือ บุคคลใด ผู้ที่ไม่ทุกข์อีกเลย คือ ผู้ที่ดับกิเลสจนหมดสิ้น เพราะฉะนั้น หนทางที่ถูก ที่จะแก้ทุกข์ คือ เข้าใจทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดา อยู่กับความทุกข์ด้วยความเข้าใจ เข้าใจว่าจะต้องทุกข์ วิธีแก้ทุกข์ จะต้องมีปัญญาความเข้าใจถูก ซึ่งปัญญาจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม จากพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง

ซึ่งควรพิจารณาความจริงว่า สัตว์แต่ละชีวิตก็มีกรรมเป็นของๆ ตน สัตว์ตายหรือใครจะตายก็เพราะ กรรมของตนเอง ไม่มีใครจะสามารถทำให้ใครตายได้ เมื่อสัตว์เกิด สุนัขเกิด ก็มาด้วยกรรมของสัตว์นั้นเอง และ เมื่อตายก็ตายด้วยกรรมของสัตว์ต่างคนต่างมา ต่างคนก็ต่างไป ที่สำคัญที่สุด เมื่อสัตว์ตายแล้วก็ต้องเกิดทันทีเพราะฉะนั้น สุนัขที่ตายไปแล้ว ก็เกิดแล้ว เขาก็อาจเกิดในสถานที่ดีๆ ควรจะเศร้าโศก ถึงสัตว์ สุนัข ที่ไปในสถานที่ หรือ เกิดในที่ดีแล้วหรือไม่

หากจะเศร้าโศกถึงสัตว์ที่จากไป ก็ควรคิดถึงตนเองที่จะต้องจากไป ดังเช่นสัตว์นั้น ควรที่จะไม่ประมาทในชีวิต ที่จะศึกษาธรรม อบรมปัญญา ในช่วงเวลาที่มีชีวิตที่เหลือน้อย ความตายก็ใกล้มาทุกขณะ ความตายของผู้อื่น ย่อมเป็นเครื่องเตือนให้น้อมเข้ามาในตนว่า ควรใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท สิ่งที่ติดตัวไปได้ คือ ความดี และความไม่ดี แต่สิ่งที่เป็นที่พึ่ง คือ กุศล บุญที่กระทำ และสัตว์ หรือ ญาติที่เสียชีวิตไป สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขา คือ ไม่ใช่ความเศร้าโศกของเรา แต่ คือ การทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้รับ คือ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 20 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 20 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์ ตายแล้ว เกิดทันที ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ สัตว์โลก มีกรรมเป็นของของตน การเศร้าโศกเสียใจ ไม่มีผลต่อการจากไปของผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว มีแต่จะทำให้ตนเอง ผ่ายผอม ซูบซีด เพราะผู้นั้น ก็ไปตามกรรมของตนจริงๆ สภาพธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ ชีวิตประจำวันจึงไม่พ้นไปจากธรรม ขณะที่เศร้าโศกเสียใจมีจริงๆ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น บุคคลผู้ที่ยังมีความเศร้าโศกอยู่นั้น ก็เพราะยังมีกิเลส ยังมีความติดข้อง ยินดีพอใจ ยังมีอวิชชาอยู่ จึงต้องมีความเศร้าโศกเป็นธรรมดา เมื่อมีความติดข้อง ผลที่ตามมาคือ ความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อสิ่งที่ติดข้องนั้นพลัดพรากจากไป แต่เมื่อได้อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ย่อมจะทำให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน และเป็นความจริงที่ว่าขึ้นชื่อว่าสัตว์โลก แล้ว ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีชาติ ชราย่อมติดตาม พยาธิก็ครอบงำและท้ายที่สุดก็ถูกมรณะคือความตายห้ำหั่น ไม่มีใครรอดพ้นได้เลย
จากกรณีการตายของสัตว์อื่น ของคนอื่น ก็สามารถพิจารณาได้ว่า ในที่สุดเราก็จะตายเหมือนกัน ไม่ใช่ตายแต่คนอื่น ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทกำลังของอกุศล และไม่ประมาทในการเจริญกุศล ซึ่งรวมถึงการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย เพราะเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตในภพนี้ชาตินี้มาถึง ต้องบ่ายหน้าไปสู่ความตาย ไม่มีใครสามารถที่จะขอร้อง หรือผัดเพี้ยนได้เลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 22 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 24 มิ.ย. 2558

เรามีเจตนาดีจะรักษาเขา ไม่บาปหรอก ไม่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์ประเภทไหนก็ตาม หนีกรรมไม่พ้น พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้พิจารณาบ่อยๆ เนืองๆ ว่า เรามีความแก่ ความเจ็บ ความตาย มีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีกรรมเป็นของตน ทำดีทำชั่วก็เป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ม.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jarunee.A
วันที่ 30 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ