มีชีวิตคุ้มค่า เพราะ ปัญญาปรุงแต่ง

 
เมตตา
วันที่  20 พ.ค. 2558
หมายเลข  26560
อ่าน  983

ผู้มีชีวิตคุ้มค่า เพราะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกในความจริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา และได้เกื้อกูลให้ผู้อื่นมีความเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่พ้นจาก เห็น ได้ยิน เสียง คิดนึก โกรธ ความสำคัญตน ตระหนี่ ติดข้อง ... ทั้งหมดที่กำลังปรากฏเป็นสิ่งที่มีจริงๆ เป็นสิ่งที่มีจริง ถ้าไม่รู้ความจริงขณะนี้ แล้วจะไปรู้ความจริงขณะไหน? และหากไม่รู้ความจริงขณะนี้ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ก็ไม่มีทางดับความเห็นผิดที่ยึดสภาพธรรมว่าเป็นเราได้เลย แล้วกิเลสอื่นๆ จะดับได้อย่างไร?
ศึกษาธรรมเป็นไปเพื่อละ ไม่เป็นไปด้วยมานะ ความสำคัณตนว่าฉันเก่ง หรือด้วยโลภเพราะอยาก ไม่คิดธรรมเองโดยเป็นนักตรึกนักตรอง นั่นไม่ใช่ปัญญาที่เข้าใจธรรม แต่เพราะความเข้าใจ คือ ปัญญายังน้อยมากส่วนใหญ่คิดเรื่องธรรมมาก เพราะยังไม่มีสติปัญญาเกิดขึ้นรู้ลักษณะสภาพคิดขณะนั้น เพราะยังมีเหตุปัจจัยให้เป็นเช่นนั้น คิดเช่นนั้น แต่ฟังธรรมพิจารณาธรรมบ่อยๆ ก็มีเหตุปัจจัยให้เห็นการคิดธรรมนั้นไม่เป็นประโยชน์ เพราะคิดด้วยอุทธัจจะ ไม่ใช่ด้วยปัญญา การคิดธรรมก็จะน้อยลงตามเหตุปัจจัยที่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น การคิดเรื่องธรรมเป็นเรื่องอยากรู้ธรรม ด้วยความเป็นตัวตน ชีวิตที่ประเสริฐประกอบด้วยปัญญา เพราะนำไปสู่การดับกิเลส
ชีวิตที่เป็นสุขที่สุดคือรู้ว่า ไม่ใช่เรา ทั้งหมดเป็นเพียงธรรมแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ขณะนี้ไม่มีใคร ไม่มีเรา แต่มีเพราะคิด มีชีวิตที่คุ้มค่าเพราะมีปัญญาปรุงแต่ง ค่อยๆ ปรุงแต่งความเข้าใจถูกแห็นถูกไปจนกว่าทุกอย่างเป็นธรรม ไม่มีเราเลย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ท่านอาจารย์สุจินต์ ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยหนักชาวเวียดนาม ท่านหนึ่ง ประโยคหนึ่งที่มีค่ายิ่งที่ท่านให้ความเข้าใจแก่ผู้ป่วยชาวเวียดนาม คือ ขณะนี้ไม่มีใคร ไม่มีเรา มีเพราะคิด ผู้ป่วยมีความปีติโสมนัสยิ่ง และหลังจากท่านอาจารย์กลับไปได้สี่ชั่วโมงกว่าผู้ป่วยได้จากไปอย่างสงบ... กุศล คุณความดีทั้งหลาย ถ้าปราศจากปัญญาก็จะไพบูลย์ไม่ได้ เพราะยังเป็นของเรา เป็นตัวตน ถ้าชีวิตที่ไร้ปัญญาก็เป็นกำลังกุศลที่ไม่เป็นบารมี เป็นกุศลที่จะทำให้พ้นจากกิเลสทำให้ถึงฝั่งไม่ได้ กุศลที่จะถึงฝั่งได้ต้องมีปัญญาที่เข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่เรา ชีวิตที่ประเสริฐคือชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ถ้าไม่มีปัญญา ศรัทธาก็ไม่มีทางถึงขั้นศรัทธาพละได้เลย

ความเข้าใจธรรมให้กันได้ด้วยการกล่าวคำจริง กล่าวสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ลวง ไม่หลอก ชีวิตมีค่าคุ้มค่า เพราะมีโอกาสได้เกื้อกูลผู้อื่นได้ให้ความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริง สะสมปัญญาขณะนี้ประเสริฐโดยเฉพาะปัญญาที่รู้สภาพธรรมว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใกล้จะตายแล้วอยากให้สติเกิดรู้สภาพธรรมตามจริงก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ทุกคนก่อนตาย อยากให้สติเกิด อยากนึกถึงกุศลซึ่งเป็นไปตามอำนาจของโลภ ตายไปจะได้ไปสู่สุคติภูมิ จะเป็นไปได้ไหม? ทำไมไม่ฟังให้เข้าใจขณะนี้เลย เพราะขณะปัญญาเกิด ปัญญาเป็นมรรคองค์แรก ขณะเข้าใจจิตผ่องใส เพราะฉะนั้นชีวิตที่เป็นอยู่ไม่มีปัญญาย่อมทุกข์ยากลำบาก แต่ผู้เข้าใจธรรม แม้ขณะโกรธก็เข้าใจได้ว่า ไม่มีใคร ทุกอย่างเป็นธรรม ชีวิตมีค่าเพราะปัญญาเข้าใจสิ่งที่กำลังมีตามความเป็นจริง ไม่ใช่เรา

ชีวิตที่อยู่ได้สะสมปัญญา ก็ประเสริฐแล้ว

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornchai
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
thilda
วันที่ 20 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 21 พ.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 21 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 22 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Jarunee.A
วันที่ 7 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ