ผู้มีขันติเป็นพลัง

 
เมตตา
วันที่  13 ธ.ค. 2557
หมายเลข  25894
อ่าน  997

ข้อความบางตอนจาการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ใครที่มักโกรธในชาตินี้ให้ทราบว่า ชาติก่อนๆ ก็ต้องมักโกรธ

แล้วถ้าชาตินี้ยังมักโกรธ อย่างชาตินี้ต่อไปอีก ก็นึกถึงภาพชาติหน้าได้ ว่าจะเป็นอย่างไร อยากจะเป็นอย่างนั้นต่อไป หรืออยากจะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่อย่างนี้ ถ้าอยากเป็นอย่างอื่น ก็ต้องเรื่มสะสมทางฝ่ายกุศลไว้เสียแต่เดี๋ยวนี้

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 186

ขัอความบางตอนจาก

ดังที่สรภังคฤาษีกล่าวไว้ว่า บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้ จะไม่เศร้าโศกในกาลไหนๆ ฤาษีทั้งหลายสรรเสริญการละความลบหลู่ ท่านทั้งหลายจงอดทนคำหยาบคาย ที่คนทั้งปวงกล่าวแล้ว สัปบุรุษทั้งหลายกล่าวขันตินี้ว่าสูงสุด ดังนี้.

ภิกษุเช่นนั้นแม้เทวดาทั้งหลายก็สรรเสริญ ดังที่ท้าวสักกะจอมเทพ ตรัสไว้ว่า ผู้ใดแล เป็นคนมีกำลัง อดกลั้นต่อคนผู้ทรุพลไว้ ความอดกลั้นของบุคคลนั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า เป็นขันติอย่างยิ่ง เพราะคนทุรพลต้องอดทนอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่มีความอดทนแม้พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ตรัสสรรเสริญ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ใดไม่โกรธไม่ประทุษร้าย ย่อมอดกลั้นต่อการฆ่าและการจองจำ เราเรียกผู้นั้นซึ่งมีขันติเป็นพลัง ผู้มีพลังเป็นเสนา ว่าเป็นพราหมณ์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pichet
วันที่ 6 ก.ค. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 13 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ