จะทำก็กลัว ไม่ทำตัวก็เดือดร้อน แล้วจะทำอย่างไรดีคะ

 
นิ้ง
วันที่  9 พ.ย. 2557
หมายเลข  25750
อ่าน  1,174

ที่บ้านมีปัญหา ถูกหนูรังควานค่ะ.. แต่ไม่อยากฆ่า หรือทำร้ายมัน เลยพยายามไล่ให้มันไปด้วยวิธีอื่น เช่น เอาอาหารใไปวางให้มันบริเวณอื่นของบ้าน เพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับข้าวของเรา.. เวลาจับหนูได้ก็เอามันไปปล่อยในที่ไกลๆ ด้วยหวังว่า มันจะไม่กลับมาที่บ้านเราได้อีก แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังถูกหนูกัดแทะทำลายข้าวของ มันไม่เอาของไปกิน แต่มันทำลายข้าวของ สร้างความเดือดร้อนให้เราแทน จนล่าสุดนี้ มันกัดตู้ไม้แล้วเข้าไปในตู้เก็บของได้แล้วค่ะ คำถามก็คือจะทำอย่างไรดี ถ้าฆ่ามันก็บาป ถ้าไม่ทำอะไรเลยปล่อยไว้อย่างนี้ มีหวังบ้านถูกรุมแทะจนหมดแน่ๆ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 9 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความพิสดารว่า ในวันหนึ่ง พระศาสดาเสด็จทรงบาตรเข้าไปในกรุงสาวัตถี ทรงเห็นพวกเด็กเป็นอันมาก เอาไม้ตีงูเรือน๑ตัวหนึ่ง ในระหว่างทาง ตรัสถามว่า "แน่ะ เจ้าเด็กทั้งหลาย พวกเจ้าทำอะไรกัน" เมื่อเด็กเหล่านั้นกราบทูลว่า "พวกข้าพระองค์เอาไม้ตีงู พระเจ้าข้า" ตรัสถามอีกว่า "เพราะเหตุไร" เมื่อพวกเขากราบทูลว่า "เพราะกลัวมันกัด พระเจ้าข้า" จึงตรัสว่า "พวกเจ้าตีงูนี้ด้วยคิดว่า 'จักทำความสุขแก่ตน ' จักไม่เป็นผู้ได้รับความสุขในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ แท้จริง บุคคลเมื่อปรารถนาสุขแก่ตน (แต่) ประหารสัตว์อื่น ย่อมไม่ควร" ดังนี้แล้ว

เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า

"สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลาย เป็นผู้ใคร่สุข บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน แต่เบียดเบียนสัตว์อื่นด้วยท่อนไม้ บุคคลนั้นละไปแล้วย่อมไม่ได้สุข สัตว์ผู้เกิดแล้วทั้งหลาย เป็นผู้ใคร่สุข บุคคลใดแสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) ด้วยท่อนไม้ บุคคลนั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข.


สัตว์ย่อมรักชีวิต และสัตว์ย่อมทำสิ่งที่ไม่ควรเพราะความไม่รู้ มี หนู เป็นต้น เพราะฉะนั้น การหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำบาป จึงเป็นสิ่งที่สมควร การทำบาป เบียดเบียนสัตว์อื่นย่อมไม่ควรโดยประการทั้งปวง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เพราะย่อมจะนำทุกข์โทษมาให้กับตนเองในภายหลัง เรารักชีวิตฉันใด สัตว์อื่นก็รักชีวิตฉันนั้น ควรจะค่อยๆ หาวิธีที่จะหลีกเลี่ยง อดทนเท่าที่จะทำได้ ย่อมเป็นสิ่งที่สมควร ครับ

หากพิจารณาสัจจะแล้ว ความเดือดร้อนในชาตินี้ไม่เท่าเลยกับการทำร้ายสัตว์ และต้องได้รับทุกข์โทษมีการตกนรก เป็นต้น ซึ่งเดือดร้อนมากมายหาประมาณมิได้ ครับ ควรเห็นค่าของการศึกษาอบรมปัญญา เพื่อดับกิเลส เพราะกิเลสนำมาซึ่งทุกข์โทษทั้งหลาย การจะไม่เดือดร้อน คือ การไม่มีกิเลส เพราะกิเลสทำให้เดือดร้อน เพราะรัก ติดข้องในของที่รัก มีบ้าน ทรัพย์สิน เป็นต้น ควรอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรมสำคัญที่สุดครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 9 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เจตนาฆ่า กับ เจตนาป้อง มีความต่างกัน ขณะที่มีเจตนาฆ่า เป็นอกุศลเจตนา ที่เบียดเบียนประทุษร้ายสัตว์อื่นให้เดือดร้อนหรือสิ้นชีวิต ซึ่งไม่ดีอย่างแน่นอนเพราะเหตุว่าสัตว์อื่นเขาก็รักชีวิตของเขา เหมือนกับตัวเราที่รักชีวิตของตนเอง โดยปกติแล้วชีวิตประจำวัน อกุศลเกิดขึ้นมากอยู่แล้ว กล่าวคือ ขณะที่จิตไม่ได้เป็นไปในทาน ในศีล ในการอบรมความสงบของจิตและการอบรมเจริญปัญญา เป็นอกุศลทั้งหมด มีกุศล แทรกสลับกับอกุศลเท่านั้นจริงๆ ชีวิตประจำวันไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เพราะชีวิตที่ดำเนินไปในปัจจุบัน

ต้องอาศัยปัจจัยที่จะทำให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างมีความสุขไม่เดือดร้อน (ปัจจัยที่ว่า นั้น คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค) เมื่อมีบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยก็ต้องทำการดูแลรักษา ส่วนที่ชำรุดก็แก้ไขซ่อมแซม ถ้ามีสัตว์ที่จะทำความเสียหายแก่บ้าน ก็ต้องทำการป้องกันด้วยวิธีการที่ไม่เป็นการฆ่าสัตว์ แต่เป็นการป้องกัน ก็สามารถทำได้ ที่สำคัญ คือ ต้องไม่ใช่วิธีที่จะเป็นไปเพื่อการฆ่าสัตว์

สัตว์โลกผู้ที่ได้เกิดมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดำเนินไปในแต่ละวันๆ นั้น คงไม่มีใครอยากจะถูกคนอื่นฆ่า (หรือแม้กระทั่งการถูกเบียดเบียนไม่ถึงกับสิ้นชีวิตก็ไม่ปรารถนา) แต่ว่าเวลาที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดจะฆ่าบุคคลอื่น ซึ่งต้องเป็นด้วยอำนาจของอกุศลจิตที่มีกำลัง ทำให้ลืมคิดถึงบุคคลหรือสัตว์ที่จะถูกฆ่าว่าบุคคลหรือสัตว์นั้นย่อมไม่มีความปรารถนาที่จะถูกฆ่าเลย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทใดๆ ก็ตาม นี่เป็นความจริง ดังนั้น ตนเองรักสุข เกลียดทุกข์ ฉันใด สัตว์อื่น ก็รักสุขเกลียดทุกข์ ฉันนั้น จึงไม่ควรฆ่า ไม่ควรเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ดังข้อความตอนหนึ่งที่พระโพธิสัตว์ กล่าวไว้ว่า

“ถ้าสัตว์ทั้งหลาย พึงรู้อย่างนี้ว่า ชาติสมภพ (การเกิด) นี้เป็นทุกข์ สัตว์ก็ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะว่าผู้มีปกติฆ่าสัตว์ ย่อมเศร้าโศก”

(จาก .... พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก มตกภัตตชาดก)

และอีกประการหนึ่งที่ควรจะพิจารณา คือ การฆ่าสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นใครทำ ก็เป็นอกุศลกรรมทั้งสิ้น ไม่มีการยกเว้น ไม่มีข้ออ้าง เพราะฆ่าก็คือ ฆ่า เป็นอกุศลกรรม ให้ผลเป็นทุกข์โดยส่วนเดียวเท่านั้น ผู้ที่ประกอบอกุศลกรรมอย่างนี้กล่าวได้ว่าเป็นคนพาล ภพภูมิข้างหน้าของผู้ที่ประกอบอกุศลกรรมก็คือ อบายภูมิ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการไปสู่อบายภูมิของคนพาลทั้งหลายนั้นยากที่จะพ้นไปได้ คือ จากอบายภูมิ ก็กลับไปสู่อบายภูมิอีก โอกาสของการสร้างกุศล (ความดี) มีน้อยมาก ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 9 พ.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Jans
วันที่ 9 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
harji
วันที่ 9 พ.ย. 2557

เราไม่ควรเบียดเบียนสัตว์อื่น เพราะว่าเป็นอกุศลสร้างความเดือดร้อนแก่ทั้งสองฝ่ายครับ ที่คุณนิ้งกล่าวว่าเอามันไปไกลๆ ดีแล้วครับที่ไม่ได้ฆ่า คุณนิ้งก็ลองหาวิธีเช่นเอามันไปให้ไกลกว่าเดิม แล้วแต่คุณนิ้งจะคิดครับ แต่ไม่ควรทำให้หนูเดือดร้อนครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นิ้ง
วันที่ 9 พ.ย. 2557

เอาแมวมาเลี้ยงไว้ไล่แมวแทน ถ้าแมวไปฆ่าหนูกิน แบบนี้ ถือว่าเรามีส่วนร่วมในการช่วยฆ่าหนูด้วยรึเปล่าคะ -_- เพราะเป็นคนเอาแมวมา

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 9 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 10 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
thilda
วันที่ 10 พ.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สิริพรรณ
วันที่ 10 พ.ย. 2557

การทำสิ่งใด แล้วต้องร้อนใจภายหลัง ก็ไม่ควรทำดีกว่า ทุกชีวิตก็แสวงหาอาหาร ที่อยู่ ทั้งคน สัตว์ โลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงว่า เป็นที่ของคนเท่านั้น หากมองตาเขา ก็จะเห็นว่า เขาก็กลัวภัย และเป็นทุกข์เหมือนเรา สมัยที่ยังไม่ได้เข้าใจธรรมะ ก็เล่นงานแมลงสาป ยุง เพราะไม่รู้ ป่านนี้ ยังสงสารอยู่เลยค่ะ ก็หนีไม่พ้นอกุศลจิตทุกครั้งที่นึกถึง จึงไม่ควรทำเลยนะคะ อาจย้ายเขาให้ไปหาที่อยู่ใหม่ในป่าไกลๆ ที่เขาน่าจะควรอยู่ และถ้าไม่ไป ก็สงเคราะห์ตามควร เพราะอาจเคยเป็นญาติเราก็ได้นะคะ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสเตือน ผู้ที่เราพบในชาตินี้ล้วนเคยเกี่ยวข้องในอดีตชาติ ที่บ้าน ตอนนี้ ไม่มีหนูแล้ว ด้วยวิธีทำนองนี้ค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ปวีร์
วันที่ 11 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ประสาน
วันที่ 11 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
tanrat
วันที่ 11 พ.ย. 2557

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
sairung
วันที่ 11 พ.ย. 2557

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 29 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ