-ตามที่สืบทราบมา แต่ละสำนักปฏิบัติธรรม เขาจะมีกฎเกณฑ์ หลักการในการปฏิบัติของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน พร้อมทั้งมีอาจารย์สอนกรรมฐาน กล่าวคือสติปัฏฐาน ๔ ญาณ ๑๖ ผู้ที่ผ่านญาณ ๑๖ เขาว่าเป็นพระโสดาบัน จริงหรือไม่?
-ในญาณที่๑๓ ว่า โคตรภูญาณ คือทางเปลี่ยนผ่านจากปุถุชนเป็นอริยะชนแท้จริงหรือ?
-เราไปเที่ยวศึกษาดูและสอบถามอาจารย์สอนวิปัสสนา ท่านก็ชี้ให้ดูว่าคนนั้น คนนี้ ก็ผ่านญาณ ๑๖ ขอคำวินิจฉัยครับ?
ขอบคุณครับอาจารย์
★ ตามที่สืบทราบมา แต่ละสำนักปฏิบัติธรรม เขาจะมีกฎเกณฑ์ หลักการในการปฏิบัติของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน พร้อมทั้งมีอาจารย์สอนกรรมฐาน กล่าวคือ สติปัฏฐาน ๔ ญาณ ๑๖ ผู้ที่ผ่านญาณ ๑๖ เขาว่าเป็นพระโสดาบัน จริงหรือไม่ ?
» ไม่มีใครจะพยากรณ์ว่าใครบรรลุ ได้ญาณอะไร นอกจากพระพุทธเจ้าเท่านั้น
★ ในญาณที่ ๑๓ ว่า โคตรภูญาณ คือ ทางเปลี่ยนผ่านจากปุถุชนเป็นอริยะชนแท้จริงหรือ ?
» ใช่ครับ
★ เราไปเที่ยวศึกษาดู และสอบถามอาจารย์สอนวิปัสสนา ท่านก็ชี้ให้ดูว่าคนนั้น คนนี้ก็ผ่านญาณ ๑๖ ขอคำวินิจฉัย ครับ ?
» พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มีญาณหยั่งรู้เรื่องนี้ ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปัญญาจะเจริญขึ้นตามลำดับจนถึงความสมบูรณ์พร้อม (ถึงความเป็นพระอริยบุคคล ข้ามพ้นจากความเป็นปุถุชนได้) ก็ต้องมาจากการค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ใช่การไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ตามสำนักต่างๆ ด้วยความต้องการ ด้วยความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของธรรม เพราะนั้นไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ถึงความเจริญขึ้นของปัญญาเลย นำคำว่าวิปัสสนาญาณมาใช้ แต่ไม่ใช่เลย แม้แต่น้อย ครับ
คำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
"พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้เพื่อให้บุคคลอื่นได้เข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงตรัสรู้ หมายความว่า ควรรู้ หรือ เข้าใจตั้งแต่ต้นว่า พระพุทธศาสนาเป็นคำสอนของใคร ? ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนเรื่องอะไร ? ทรงสอนเรื่องความจริง หรือ สัจจธรรม ที่สามารถรู้ตาม จนถึงประจักษ์แจ้งความจริงและดับความไม่รู้ ดับกิเลสได้ ตามลำดับขั้นของปัญญา เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาจึงเป็นเรื่องของปัญญา ทั้งหมด
คำสอนในพระพุทธศาสนา ทั้งหมด ไม่ได้มีคำแนะนำให้ทำ แต่เป็นเรื่องของบุคคลผู้ศึกษานั้นเอง ที่ควรเข้าใจตั้งแต่ต้นว่า ตนเองได้รู้จักพระพุทธศาสนาแล้วหรือยังว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ทรงสอนให้ เข้าใจสัจจธรรม ไม่ใช่สอนให้ทำโดยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ทรงสอนให้เข้าใจว่า ขณะนี้มีสภาพธรรมที่กำลัง ปรากฏซึ่งตั้งแต่เกิดจนตายก็เกิดดับสืบต่อตลอดเวลาไม่ขาดสาย แต่ไม่เคยรู้จักสภาพธรรมนั้นๆ ตามความเป็นจริง ว่าสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนั้น คืออะไร และมีการยึดถือสภาพธรรมเหล่านั้นว่าเป็น ตัวตน ซึ่งหากจะเข้าใจจริงๆ ว่าขณะไหนเป็นเรา เป็นตัวตน ก็คือ เมื่อได้ฟังพระธรรมคำสอนของพระองค์ เมื่อได้ฟังแล้วเกิดความเข้าใจ ก็จะทราบตามความเป็นจริง ว่าไม่มีสิ่งที่เคยยึดถือว่า เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคล มีแต่สภาพธรรมที่เกิดดับสืบต่อ ตามเหตุตามปัจจัย ซึ่งหมายถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ แต่ละขณะเท่านั้น"
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...