ศรัทธาที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง

 
papon
วันที่  24 ก.ค. 2557
หมายเลข  25158
อ่าน  908

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"ศรัทธาที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง" พจนาท่านอาจารย์ในพระอภิธรรมพื้นฐานเหมือนท่านอาจารย์พยายามจะบอกว่าให้มีจิตอยู่ในปัจจุบัน ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้ความเข้าใจด้วยครับ ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 24 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ศรัทธาที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ มีความเลื่อมใสในการเจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา

ศรัทธา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง คือ เป็นสภาพธรรมที่ผ่องใสสะอาดปราศจากอกุศล เมื่อมีกำลังย่อมปรากฏเป็นความเลื่อมใส เชื่อมั่นในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม คือ เลื่อมใสในพระรัตนตรัย คือ ในพระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เลื่อมใสในคุณความดี ซึ่งศรัทธาจะเพิ่มขึ้นได้ ก็ต้องมีเหตุ นั่นคือ อาศัยการฟังพระธรรม จากสัตบุรุษ มีการได้อ่าน ได้ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมจะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความศรัทธา เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น เพราะเหตุว่า การได้ฟังพระธรรม ได้ศึกษาพระธรรม เป็นเหตุให้เกิดศรัทธาเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะอาศัยความเข้าใจถูกในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จึงทำให้ละคลายกิเลส ละความไม่รู้ และคิดถูกต้องตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เห็นพระพุทธคุณ หรือ คุณของพระพุทธเจ้าตามความเป็นจริงว่า พระองค์ทรงแสดงพระธรรมที่ถูกต้อง และทรงมีพระปัญญาอย่างประเสริฐสุด จึงเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เพราะอาศัยปัญญาที่เกิดจากการศึกษาฟังพระธรรมเป็นสำคัญ และเมื่อเข้าใจถูกในพระธรรมที่ได้ศึกษา ก็เกิดความเลื่อมใส เกิดศรัทธาเพิ่มขึ้นในพระธรรม ทำให้เห็นประโยชน์เห็นคุณค่าของการได้ศึกษาพระธรรม จึงศึกษาพระธรรมต่อไป ก็มีศรัทธาในพระธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป และเพราะปัญญาที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมแล้ว เมื่อเห็นพระภิกษุ ก็เกิดความอ่อนน้อมเลื่อมใสระลึกถึงคุณธรรมของพระอริยสงฆ์ และในความเป็นพระภิกษุโดยไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าท่านจะมีกิริยาอาการอย่างไร แต่น้อมนึกถึงคุณของพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็เกิดความเลื่อมใสในพระสงฆ์ด้วย และเพราะอาศัยการฟังเรื่องหนทางที่ถูกต้อง มีปัญญาเกิดขึ้นก็เกิดศรัทธา ที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยการฟังพระธรรมต่อไป และเมื่อปัญญารู้ความจริงในลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในณะนี้ ก็มีศรัทธาที่เกิดร่วมด้วยในขณะนั้น เป็นศรัทธาที่เกิดร่วมกับการรู้ความจริงของสภาพธรรม ครับ

...ขออนุโมทนา ครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 24 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อกล่าวถึงสภาพธรรมแล้ว ก็เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน แม้แต่ศรัทธาก็เช่นเดียวกัน เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภท แม้ในการฟังการศึกษาพระธรรม ถ้าไม่มีศรัทธาแล้ว จะไม่ฟังอย่างแน่นอน เพราะไม่เห็นประโยชน์ไม่เห็นคุณค่า แต่เพราะมีศรัทธา พร้อมด้วยโสภณธรรมอื่นๆ เกิดขึ้น จึงมีการฟังมีการศึกษาพระธรรม ซึ่งจะเห็นได้จริงๆ ว่า เพราะมีศรัทธา มีความเลื่อมใสในพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เป็นการกล่าวถึงสภาพธรรมที่มีจริง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในการที่จะทำให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นธรรม จึงไม่ละเลยโอกาสที่สำคัญ ที่จะทำให้ตนเองได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก ด้วยการตั้งใจฟังพระธรรม ไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกค่อยๆ เจริญขึ้น เป็นเหตุให้มีการรู้ลักษณะของสภาพธรรม ได้ในที่สุด

และที่สำคัญ ลักษณะประการหนึ่งของผู้มีศรัทธาก็คือ เป็นผู้มีความใคร่ คือ มีความประสงค์ที่จะฟังพระธรรม ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 24 ก.ค. 2557

มีศรัทธาที่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรมไม่ใช่เรา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 25 ก.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ