ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๒

 
khampan.a
วันที่  11 พ.ค. 2557
หมายเลข  24843
อ่าน  1,952

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๒

สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้นั้น ยาก เป็นบุญแล้วที่ได้ฟัง ที่จะได้มีโอกาสเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น

สะสางความไม่รู้และความเห็นผิด ด้วยความเข้าใจพระธรรม

เสียง เป็นเรา หรือเป็นธรรม? เสียงเป็นเสียง เป็นธรรมอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรา

ไม่มีใครหยุดยั้งความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมได้เลย มีแต่ไปอย่างเดียว และไม่สามารถย้อนกลับมาอีกได้

ขณะนี้ มีใครหรือเปล่า? มีแต่ธรรม

ขณะนี้ เป็นธรรมแต่ละขณะ เห็นเป็นขณะหนึ่ง ได้ยินเป็นขณะหนึ่ง เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป

ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ชาติหนึ่ง ก็ผ่านไปด้วยความไม่รู้

มีวิธีอื่นไหมที่จะทำให้เข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรม ถ้ามี แสดงว่า ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ฟังพระธรรมซ้ำๆ บ่อยๆ นี้แหละที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น

ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นธรรม

ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นอกจากธรรม

คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ คำของคนอื่น ต่างกัน แล้วจะฟังคำของใคร?

เดี๋ยวนี้ มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ จิต เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของจิต และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย ก็ทำกิจหน้าที่ของตนๆ


คนที่ไม่ได้ฟังพระธรรม มีเยอะมาก แม้จะมีตา มีหู ก็ตาม

คิดที่จะฟังเรื่องอื่น มากกว่าคิดที่จะฟังพระธรรมหรือเปล่า นี้คือความจริง

ถ้าคุ้นเคยกับการฟังพระธรรม ก็จะฟังพระธรรมเพื่อละคลายความไม่รู้

เพราะรู้ว่าไม่รู้ จึงต้องฟังพระธรรม และรู้ว่าจะละความไม่รู้ได้อย่างไร ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

จิตเห็นไม่ได้ไปที่เสียงเลย แต่ไปที่สีซึ่งเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา

สนใจอะไร มีหรือที่จะไม่คิดถึงสิ่งนั้น

เมื่อมีการฟังพระธรรมบ่อยๆ คุ้นเคยกับการฟังพระธรรม ย่อมคิดที่จะฟังพระธรรมอยู่เรื่อยๆ ทำให้เป็นผู้ไม่ขาดการฟังพระธรรม

ฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจขึ้น จะเข้าใจขึ้นอย่างแน่นอน เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องกั้น

ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล ไม่สามารถทำให้เข้าใจธรรมได้เลย

ถ้าไม่มีกุศลเกิดแทนอกุศล อกุศลก็เกิดเพิ่มขึ้น แล้วจะเข้าใจธรรมได้อย่างไร

เวลาที่ไม่เข้าใจ จะบอกว่าเป็นกุศล ไม่ได้ ขณะที่ไม่เข้าใจ ก็ต้องเป็นอกุศล

ความเข้าใจพระธรรม อารักขา คือ รักษาให้พ้นความเห็นผิด เกื้อกูลไม่ให้เห็นผิด

ฟังอะไร เพื่ออะไร? ฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ

เห็นแต่ละขณะแล้วไม่รู้ความจริง นั่นแหละ สะสมอวิชชาเพิ่มขึ้นแล้ว

พระธรรม ทุกคำ เป็นคำเตือนให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริง

ความโกรธทำร้ายตนเองก่อนที่จะไปทำร้ายคนอื่น

หลงอยู่ในสังสารวัฏฏ์ เพราะความไม่รู้

อกุศลมาก พร้อมที่จะทำให้เป็นไปในทางที่ผิดอยู่เรื่อยๆ

อะไรที่นำพาไปในทางที่ผิด? โลภะ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ให้ไปทำอย่างอื่น แต่ให้ฟังพระธรรมให้เข้าใจ

ธรรม เป็นอนัตตา ไม่มีใครกำหนด มีใครไปกำหนดให้สัมปฏิจฉันนจิตเกิดสืบต่อจากจิตเห็น บ้าง ไม่มีเลย เพราะความเป็นจริงของธรรม เป็นอย่างนั้น

ความละเอียดลึกซึ้งของพระธรรม จะเข้าใจได้ก็ต้องอาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

ผู้ที่จะมีความเกษม ความสบาย ความไม่ขัดเคือง ได้ ก็ต้องเป็นผู้ละคลายขัดเกลากิเลสของตนเองได้ จึงจะมีความเกษม มีความสบาย มีความไม่ขัดเคืองยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้นการกระทำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางกายและทางวาจานั้น ก็จะต้องไม่มีเวร ไม่มีภัย คือ ไม่เป็นไปในทุจริตกรรม

ถ้าอ่อนน้อมไม่ลง จิตของใครเป็นอกุศล ไม่สำคัญเลย จิตของคนอื่นทำอะไรไม่ได้ ไม่สำคัญ สำคัญที่จิตของตัวเอง

การอบรมเจริญปัญญาตลอดชาตินี้ หรืออดีตชาติ หรือต่อๆ ไปในอนาคต อีกกี่ชาติก็ตาม จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อจะให้รู้ชัดจนกระทั่งประจักษ์แจ้งในอรรถของคำว่า สภาพที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ไหนก็ตาม ภพไหนก็ตาม เป็นการเกิดขึ้นของนามธรรมและรูปธรรม แต่ละขณะ ตามความเป็นจริง

เป็นไปไม่ได้ที่ปัญญาจะนำไปสู่ทางแห่งความไม่รู้ ผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม แสดงว่าไม่เห็นคุณค่าของคำแต่ละคำที่เป็นวาจาสัจจะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

สิ่งเดียวที่จะทำให้จิตพ้นจากโทษ พ้นจากความเศร้าหมอง พ้นจากกิเลส ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก.

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๑


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 พ.ค. 2557

กราบขอบพระคุณ อาจารย์ คำปั่น ที่ถ่ายทอดธรรมดีมากๆ ครับ

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
swanjariya
วันที่ 11 พ.ค. 2557

♡กราบอนุโมทนาขอบพระคุณ♡

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง

♤กราบอนุโมทนาขอบคุณ♤

ท่านอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัยที่เมตตาแบ่งปันธรรมทั่วถึงเสมอมา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 11 พ.ค. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 12 พ.ค. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 12 พ.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jaturong
วันที่ 12 พ.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
phawinee
วันที่ 12 พ.ค. 2557

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่งและอนุโมทนาในกุศลของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 12 พ.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 13 พ.ค. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 14 พ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
มังกรทอง
วันที่ 5 ก.พ. 2565

ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นธรรม ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นอกจากธรรม น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ