ช่วงเวลาที่มีค่า ... ณ หาดใหญ่ จ. สงขลา ๒๗ มี.ค. ๒๕๕๗ [ตอนที่ ๓ ...จบ]

 
khampan.a
วันที่  28 มี.ค. 2557
หมายเลข  24642
อ่าน  1,513


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



วันนี้วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๗ มีการสนทนาธรรมที่โรงแรมเอเชียน หาดใหญ่ จ. สงขลา เป็นวันสุดท้าย วันนี้ท่านอาจารย์ได้กล่าวถึงความเป็นจริงของธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของเหตุ และ ผล ในส่วนของกรรมและผลของกรรม เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย และกล่าวถึงความเป็นจริงของธรรมที่เป็นเมตตา ความเป็นมิตรเป็นเพื่อนกับผู้อื่น ทำให้สงบสุขร่มเย็น นอกจากนั้นในตอนท้ายของการสนทนาธรรม ผู้จัดสนทนาธรรมในครั้งนี้ คือ คุณพนิดา มิตรปวงชน คุณชลธี - คุณสุคันธรส ภู่ชลธี ได้กล่าวถึงเหตุที่จัดสนทนาธรรม สรุปสาระสำคัญ ได้ว่า เมื่อตนเองได้พบธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ก็ประสงค์ที่จะให้ผู้อื่นได้ฟังได้ศึกษาด้วย พร้อมกันนั้นก็เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ศึกษาพระธรรมในเขตภาคใต้ได้พบกับท่านอาจารย์ และสนทนาธรรมร่วมกันในบ้านธัมมะซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ ที่มีการฟังธรรมสนทนาธรรม เพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง นำมาซึ่งความปลื้มปีติยินดีสำหรับผู้ที่ได้ยินได้ฟังเป็นอย่างยิ่ง

วันนี้ ข้าพเจ้าขออนุญาตประมวลสาระสำคัญของการสนทนาธรรมวันสุดท้ายมาฝากผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกันทุกท่าน ได้อ่านได้พิจารณาร่วมกันในประโยคสั้นๆ ดังต่อไปนี้

-ธรรม จริง ตรง ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมีเหตุทำให้เห็นเกิดขึ้น เห็นจึงเกิดขึ้น ใครๆ ก็บังคับบัญชาไม่ได้

-ความกลัวเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่เป็นอกุศล คือ ความไม่รู้

-ถ้าเข้าใจความจริง จะไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความตกใจกลัวเลย มั่นคงในความเป็นจริง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

-ไม่ชื่อว่าฟังพระธรรม ถ้าไม่ได้เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้

-มีเงินทองมากมาย แต่ก็เป็นทุกข์เดือดร้อนได้ จะเอาเงินไปซื้อให้ทุกข์หมดไปก็ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นปัญญาแล้ว จะไม่นำทุกข์มาให้เลยแม้แต่น้อย

-ต้องไม่ลืมว่า ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละขณะ แต่ไม่เคยรู้ความจริงของสิ่งนั้น จึงต้องฟังพระธรรม

-ฟังคำของคนอื่น แต่ไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกได้อย่างไร

-การฟังพระธรรมต้องไม่ผิวเผิน ต้องฟัง ต้องไตร่ตรองต่อไปอีก

-ไม่ประมาทตั้งแต่ต้น คือ ตั้งแต่เริ่มฟัง

-ขณะที่หลับสนิท เราเป็นใครก็ไม่รู้เลย

-ศึกษาพระธรรม ไม่มีวันจบตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่

-จิตของใครซึ่งสกปรกด้วยอกุศล จะให้ผู้อื่นชำระให้ก็ไม่ได้ ก็ต้องเป็นปัญญาของผู้นั้นเอง

-มีแต่นามธรรมและรูปธรรมเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดิรัจฉานหรือมนุษย์ก็ตาม

-มีโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ก็ฟังไปเถิด สะสมเป็นอุปนิสัยในการฟังพระธรรมต่อไป

-พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีเลื่อนลอย แต่แสดงถึงสิ่งที่มีจริงโดยละเอียดยิ่ง เป็นเหตุเป็นผล

-กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานในการฟังและการดูในสิ่งต่างๆ แต่พอถึงเวลาฟังพระธรรม เลิกสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเพื่อมาฟังพระธรรม นี้คือผู้เห็นประโยชน์ของพระธรรม

-ขณะที่เกิดเป็นคนนี้ มีเจ้ากรรมนายเวรส่งมาเกิดหรือเปล่า? ไม่มีเลย แต่ที่เกิดเป็นบุคคลนี้ก็เพราะกรรม

-เมื่อเข้าใจแล้วว่า ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร ก็เลิกอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร

-ไม่ว่าจะเป็นฆ่ามดหรือฆ่าช้าง ก็คือ อกุศลกรรม

-โกรธแล้วฆ่าผู้อื่น นั้น เป็นเวรของผู้ฆ่า ไม่ใช่ของผู้ถูกฆ่า เพราะเวร คือ อกุศลกรรม ซึ่งจะเป็นเหตุทำให้ผลที่ไม่ดีเกิดขึ้นในภายหน้า

-ที่เกิดนี้ เป็นเราหรือว่าเป็นธรรม? เป็นธรรม แต่เพราะไม่รู้ จึงยึดถือว่าเป็นเรา

-ผู้ที่หมดภาระ คือ พระอรหันต์ แต่ถ้าเป็นผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ยังต้องแบกภาระ คือ ยังต้องเห็น ต้องได้ยิน ต้องได้กลิ่น ต้องได้ลิ้มรส เป็นต้น ต่อไป

-ขณะใดที่กุศลจิตเกิด จะไม่ให้ผลเป็นทุกข์เลย

-อาหารที่กลืนกินเข้าไปแล้วจะนำเอาออกมาปรุงใหม่ ใส่พริก ใส่กระเทียม เติมน้ำปลาใหม่ไม่ได้ อกุศลกรรมที่ได้ทำไปแล้วก็ฉันนั้น ไม่สามารถแก้ได้เลย

-โลกร่มเย็นเพราะเมตตา แต่ที่เดือดร้อนไม่ร่มเย็นก็เพราะขาดเมตตา

-แทนที่เราจะคิดว่า ทำไมคนอื่นไม่เป็นมิตรกับเรา แล้วทำไมเราไม่เป็นมิตรกับเขาเลยล่ะ ไม่ต้องแสวงมิตรจากที่ไหน แต่เราสามารถที่จะเป็นมิตรกับผู้อื่นได้ทันที

-ไม่ว่าจะเป็นคนชนชาติใด กุศลเกิด ก็เป็นกุศล อกุศลเกิดก็เป็นอกุศล ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่เป็นธรรม

-ความเห็นถูกจะทำกิจเห็นผิดไม่ได้ ความเห็นถูก ก็ต้องทำกิจเห็นถูก

-ความเข้าใจพระธรรม นำมาซึ่งความสุข ไม่นำทุกข์มาให้เลยแม้แต่น้อย.

ช่วงเวลาที่มีค่า ... ณ หาดใหญ่ จ. สงขลา ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗

ช่วงเวลาที่มีค่า ... ณ หาดใหญ่ จ. สงขลา ๒๖ มี.ค. ๒๕๕๗ [ตอนที่ ๒]

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของท่านผู้จัดสนทนาธรรมในครั้งนี้ (คุณพนิดา มิตรปวงชน, คุณชลธี - คุณสุคันธรส ภู่ชลธี เป็นต้น)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 28 มี.ค. 2557

กราบอนุโมทนาขอบคุณท่านอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 28 มี.ค. 2557

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของท่านผู้จัดสนทนาธรรมในครั้งนี้ (คุณพนิดา มิตรปวงชน, คุณชลธี - คุณสุคันธรส ภู่ชลธี เป็นต้น)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2557

-โลกร่มเย็นเพราะเมตตา แต่ที่เดือดร้อนไม่ร่มเย็นก็เพราะขาดเมตตา

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของท่านผู้จัดสนทนาธรรมในครั้งนี้ (คุณพนิดา มิตรปวงชน, คุณชลธี - คุณสุคันธรส ภู่ชลธี เป็นต้น)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 28 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 28 มี.ค. 2557

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 28 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nattawan
วันที่ 28 มี.ค. 2557

ศึกษาพระธรรมไม่มีวันจบ

ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 28 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 28 มี.ค. 2557

เป็นลาภอันประเสริฐยิ่ง

ที่มีโอกาสได้รับรสพระธรรมอันบริสุทธิ์บริบูรณ์

โดยความอุปการะเกื้อกูลของ ชาว มศพ. ทุกท่าน

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เซจาน้อย
วันที่ 28 มี.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
napachant
วันที่ 29 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
panida
วันที่ 29 มี.ค. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

โก๋ (พนิดา มิตรปวงชน)

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ch.
วันที่ 30 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
jaturong
วันที่ 31 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ