มีคนกล่าวว่า แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงไม่พ้นวิบากกรรม

 
นี่นะใหญ่สุดแล้ว
วันที่  17 มี.ค. 2557
หมายเลข  24597
อ่าน  1,690

มีคนกล่าวว่า แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงไม่พ้นวิบากกรรม โดยยกเรื่องที่พระพุทธองค์ทรงมีอาพาธ ซึ่งเป็นผลของกรรม

ผมอยากทราบว่าคำกล่าวนี้ มุ่งหมายถึงผลของกรรมที่ยังไม่เป็นอโหสิกรรมใช่หรือไม่

แล้วกรรมที่เป็นอโหสิกรรมของพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ จนถึงพระพุทธเจ้า ย่อมมีมากกว่าปุถุชนใช่หรือไม่ หรือว่าเท่าเทียมกันครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กรรม คือ การกระทำ ว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ได้แก่ เจตนาเจตสิก, กรรม มีทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ผลจึงต่างกัน กล่าวคือ กรรมดีให้ผลที่ดี ทำให้มีความสุข ส่วนกรรมชั่วให้ผลที่ไม่ดี ทำให้มีความทุกข์ เมื่อทำกรรมสำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรรมในชาตินี้หรือกรรมในชาติก่อนๆ ที่ผ่านมา เมื่อถึงคราวให้ผล ย่อมให้ผลตามฐานะของกรรม นั้นๆ

อโหสิกรรม อโหสิ (ได้มีแล้ว) + กมฺม (เจตนาซึ่งเป็นผู้กระทำ)

กรรมที่ได้มีแล้ว , กรรมที่เลิกให้ผล หมายถึง กุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่ได้มีแล้ว แต่ไม่มีโอกาสให้ผล เพราะล่วงเลยเวลาที่จะให้ผล หรือ ถูกกรรมอื่นตัดรอนจนไม่สามารถให้ผลได้อีก เช่น เจตนาในชวนจิตดวงที่ ๑ ให้ผลในชาติปัจจุบัน เมื่อไม่มีโอกาสให้ผลก็เป็นอโหสิกรรม หรือ โลกุตรกุศลกรรมตัดรอนอกุศลกรรมที่จะให้ผลไปเกิดในอบายภูมิ ทำให้เป็นอโหสิกรรม หรือ เมื่ออรหัตตมัคคจิตเกิดขึ้น เป็นโลกุตรกุศลที่ตัดรอนกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมที่ได้กระทำมาแล้วในอดีต ทำให้เป็นอโหสิกรรม ไม่ให้ผลในภพชาติต่อไปเพราะพระอรหันต์เมื่อปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก กรรมที่กระทำมาแล้วทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์จึงเป็นอโหสิกรรม

อโหสิกรรม 6 ประการ มีดังนี้ครับ

1. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมได้มีแล้ว

2. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมไม่ได้มีแล้ว

3. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมมีอยู่

4. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมไม่มีอยู่

5. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมจักมี

6. กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมจักไม่มี

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ

อโหสิกรรม ๖

กรรมอดีต ๖ อย่าง [อรรถกถากรรมกถา]

อัตถิกรรม - กรรมปัจจุบัน ๔ อย่าง

ภวิสสติกรรม - กรรมอนาคต ๒ อย่าง

ตราบใดที่มีขันธ์ 5 ยังมีการเกิดอยู่ แม้พระพุทธเจ้า ผู้ทรงดับกิเลสหมดแล้ว แต่ยังมีขันธ์ 5 ก็ยังไม่พ้นจากผลของกรรม ที่เป็นกรรมอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่เคยทำในอดีตชาติ เช่น ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินทับนิ้วพระบาท เป็นต้น

ซึ่ง อโหสิกรรม ก็หลายนัย ซึ่งกรรมได้มีแล้ว แต่ผลของกรรมจะไม่มี ก็แตกต่าง ตามระดับของพระอริยบุคคล ตามระดับของกุศลด้วย ซึ่งแตกต่างจากปุถุชนแน่นอน อย่างปุถุชน ก็ไม่พ้นจากการเกิดในอบายภูมิ ยังต้องตกนรก แต่หากเป็นพระอริยบุคคลแล้ว กรรมที่จะทำให้เกิดในอบายภูมิ ในนรก มีอยู่ก็ตาม แต่เพราะดับกิเลสที่จะทำให้เกิดในนรก ในอบาย กรรมที่จะทำให้ตกนรก ที่เคยทำ ก็เป็นอโหสิกรรม คือ กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมก็จักไม่มี คือ ไม่สามารถให้ผลอีก แตกต่างจากปุถุชน ที่ทำกรรมให้ไปนรก หากไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล กรรมนั้นเมื่อสบโอกาส ก็ทำให้ตกนรกได้ ครับ และพระอริยบุคคลที่แตกต่างตามระดับขั้น ก็แตกต่างกันออกไป เช่น พระอรหันต์ อย่างกรรมของท่านพระองคุลิมาล ที่ฆ่าคนเกือบพันคน แทนที่จะต้องตกนรก กรรมนั้นที่จะทำให้ตกนรก ก็เป็นอโหสิกรรม เพราะไม่สามารถให้ผลตกนรกได้ เพราะท่านจะไม่เกิดอีกในชาติต่อไป เพราะดับขันธ์ทั้งปวงเมื่อปรินิพพาน ครับ และแม้อกุศลที่เล็กๆ น้อยๆ ที่จะต้องเจ็บปวด อันเกิดจากอกุศลกรรม ก็เป็นอโหสิกรรมในชาติหน้าของพระอรหันต์ เพราะไม่ต้องเกิดอีกแล้วนั่นเอง ส่วนพระอริยบุคคล เช่น พระโสดาบัน หากเกิดเป็นมนุษย์ ก็ยังสามารถได้รับผลของกรรมที่ไมดีเล็กๆ น้อยๆ ได้ ดั่งเช่น พระพุทธเจ้าที่ปวดหลัง เป็นต้น ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์จริงๆ คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ในเบื้องต้นก็พอจะเข้าใจได้ว่า การได้รับผลของกรรม ต้องมาจากเหตุ คือ กรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีต เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ย่อมเป็นเหตุให้ผลเกิดขึ้นได้ แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงประชวร ตลอดจนถึงพระอริยบุคคลท่านอื่น เช่น ท่านพระสารีบุตร ยังป่วยหนัก ท่านพระมหาโมคคัลลานะยังถูกโจรทุบตีทำร้าย เป็นต้น นี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อเหตุมี ผลก็ต้องมี เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

เพราะฉะนั้นที่จะเป็นประโยชน์จริงๆ สำหรับผู้ศึกษาพระธรรม คือ ควรอย่างยิ่งที่จะถอยกลับจากอกุศลธรรม ไม่กระทำอกุศลกรรม เพราะอกุศลกรรมเป็นเหตุนำมาซึ่งความทุกข์เดือดร้อนมากมาย แต่ถ้าเป็นกรรมดี ที่เป็นกุศลกรรมแล้ว ควรจะสะสมให้มีมากขึ้น เจริญยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่จะเป็นเหตุนำมาซึ่งผลที่ดีในภายหน้า จนกว่าจะมีการอบรมเจริญปัญญาจนสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น สูงสุดถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่มีการเกิดอีก เป็นผู้สิ้นทั้งกรรมและผลของกรรมอย่างสิ้นเชิง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 17 มี.ค. 2557

พระพุทธเจ้าก็ยังได้รับอกุศลวิบาก ทางกายก็ได้รับถ่ายเป็นเลือด แต่ไม่มีทุกข์ใจ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
นี่นะใหญ่สุดแล้ว
วันที่ 18 มี.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 18 มี.ค. 2557

วัดเขาวัง ราชบุรี

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ