รูปกลาปะ คืออะไร

 
homenumber5
วันที่  12 ก.พ. 2557
หมายเลข  24459
อ่าน  2,736

วันพุธ ปลายเดือนมกราคม 2557 ได้ชมรายการทีวีเช้ามืด ฟังอ. สุจินต์ถามว่ากุหลาบอยู่ที่ไหน แล้วโยงไปกล่าวถึงสภาพธรรม รูป กลาปะ ผู้เข้าฟังตอบไปต่างๆ ดิฉันฟังแล้วไม่เข้าใจ ว่าเกี่ยวกับรูปปรมัตถ์ อย่างไร อ. ยังถามว่าเคยเห็นดอกมะลิสีแดงไหม จากการฟังวันนั้น มาตรองดูกับ ปรมัตถธรรมเรื่องรูปปรมัตถ์ จึงขอกราบเรียนถาม วิทยากร ในบ้านธัมมะดังนี้

๑. ผม หนัง เล็บ กระดูกฟัน ลมหายใจ อวัยวะทุกอย่างของ ร่างกาย คน เป็น รูป ใช่หรือไม่

๒. อวัยวะของคน เป็นรูปปรมัตถ์หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เรียกว่ารูปประเภทใด

๓. อาการ เดิน ยืน นั่ง นอน เหยียด คู้ ต่างๆ ของคนเรานี้เป็น รูปหรือ นาม

๔. รูปปรมัตถ์นั้น เสื่อมสลายแบบร่างกายคนหลังจากหมดลมหายใจไหม

๕. ถ้ารูปปรมัตถ์ไม่เสื่อมสลายไปกับลมหายใจ แล้วรูปปรมัตถ์มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุอะไร

๖. มีเหตุอะไร ที่นำ วิญญาณบางชนิดไปเกิดเป็นสัตว์ แตกต่างกันใน ๓๑ ภพภูมิ

๗. ถ้าวันนี้ เรายังไม่ศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจตามสภาวธรรม ตามที่เป็นจริง (เราตักบาตรตามวันสำคัญ ฟังเทศน์ เวียนเทียน ไปงานบวช งานผ้าป่า ผ้ากฐิน บริจาคเงินสร้างวัด สร้างพระพุทธรูป) เมื่อเราตายแล้ววิญญาณเราจะไปเกิดเป็นสัตว์อะไรได้บ้าง


Tag  รูป  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 12 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. ผม หนัง เล็บ กระดูกฟัน ลมหายใจ อวัยวะทุกอย่างของ ร่างกาย คน เป็น รูปใช่หรือไม่

- เป็นการประชุมรวมกันของรูปธรรม ครับ จึงสมมติเรียกว่า ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง

๒. อวัยวะของคน เป็นรูปปรมัตถ์หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เรียกว่ารูปประเภทใด

- อวัยวะของคนก็เป็นการประชุมรวมกันของรูปธรรม 8 รูป เรียกว่า อวินิพพโภครูป ครับ

๓. อาการ เดิน ยืน นั่ง นอน เหยียด คู้ ต่างๆ ของคนเรานี้เป็น รูปหรือ นาม

- เดิน ยืน นั่ง นอน เป็นการสมมติขึ้น ที่เป็นบัญญัติ ครับ

๔. รูปปรมัตถ์นั้น เสื่อมสลายแบบร่างกายคนหลังจากหมดลมหายใจไหม

- ถูกต้อง ครับ และ แม้มีลมหายใจ รูปก็เสื่อมไป เปลี่ยนแปลงไปอยู่แล้ว ครับ เพราะรูปเกิดขึ้นและดับไป ครับ

๕. ถ้ารูปปรมัตถ์ไม่เสื่อมสลายไปกับลมหายใจ แล้วรูปปรมัตถ์มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุอะไร

- รูป เสื่อมสลายไป ตามที่กล่าวมาในข้อ 5 ครับ

๖. มีเหตุอะไร ที่นำ วิญญาณบางชนิดไปเกิดเป็นสัตว์ แตกต่างกันใน ๓๑ ภพภูมิ

- ตามกรรมที่กำหนดมา ครับ ทำให้แตกต่างกันไปตามกรรมที่ทำให้เกิด ทำให้กำเนิดต่างกัน 31 ภพภูมิ

๗. ถ้าวันนี้ เรายังไม่ศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจตามสภาวธรรม ตามที่เป็นจริง (เราตักบาตรตามวันสำคัญ ฟังเทศน์ เวียนเทียน ไปงานบวช งานผ้าป่า ผ้ากฐิน บริจาคเงินสร้างวัด สร้างพระพุทธรูป) เมื่อเราตายแล้ววิญญาณเราจะไปเกิดเป็นสัตว์อะไรได้บ้าง

- ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน แม้จะเจริญสติปัฏฐานแล้วก็ตาม ก็ยังเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดในสวรรค์ ก็ได้ อบายภูมิก็ได้ ครับ ตามกรรมในอดีตที่ให้ ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 12 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-ที่กล่าวว่าเป็นผม หนัง เล็บ กระดูก หรือ อวัยวะส่วนต่างๆ ก็ไม่พ้นไปจากความเกิดขึ้นเป็นไปของรูปธรรม เพราะมีรูปธรรมเกิดขึ้น จึงมีการสมมติเรียกว่าเป็นผม หนัง เป็นต้น

-ที่มีการคู้เข้า เหยียดออก ก็เพราะมีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ที่เป็นนามธรรม และ รูปธรรม เพราะถ้าไม่ไม่จิตเกิดขึ้นเป็นไป ก็จะไม่มีการเกิดน ยืน นั่ง นอนเลย

สำคัญที่เข้าใจว่าทุกขณะ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ถ้าเป็นสภาพรู้ ธาตุรู้ก็ได้แก่ จิต และเจตสิก ถ้าเป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่ธาตุรู้ แต่มีจริงๆ ก็เป็นรูปธรรม ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเลย

-จริงๆ แล้ว รูปธรรม เกิดตามสมุฏฐานของตนๆ เมื่อเกิดแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่มีแม้แต่รูปเดียวที่เกิดแล้วจะเที่ยงยั่งยืน

- เพราะมีกรรมที่ได้กระทำแล้ว เป็นเหตุ ยังไม่ได้ดับกิเลสจนหมดสิ้น จึงทำให้สัตว์มีการเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามควรแก่กรรมที่จะนำเกิด เพราะถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ หรือเกิดเป็นเทวดา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งนั้น

-เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่ากรรมใดจะนำเกิดในภพต่อไป ที่สำคัญที่สุด คือความไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่ประมาทในกำลังของอกุศล เป็นคนดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ สำคัญที่สุด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 12 ก.พ. 2557

รูป คือ สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่เจ็บ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
s_sophon
วันที่ 18 ก.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ