สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ... ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  10 ธ.ค. 2556
หมายเลข  24153
อ่าน  13,167

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

ขอเรียนถามค่ะ “สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ...“ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง” ความเป็นสภาพธัมมะ ของ ๑. สังฆัง ๒. สรณัง ๓. คัจฉามิ คืออย่างไร โดยศัพท์ และ โดยความหมาย ทั้งสามคำนั้น แปลว่า และ คือ อะไร

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาสำหรับคำอธิบายและกุศลทุกประการของทุกๆ ท่านค่ะ

ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

ความเป็นสภาพธัมมะของ ๑. สังฆัง ๒. สรณัง ๓. คัจฉามิ คืออย่างไร

เป็นสภาพธรรมฝ่ายดีที่ระลึกเป็นในพระคุณของพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ตามความเป็นจริง ที่ไม่ใช่การระลึกเคารพในตัวบุคคล แต่ระลึกถึงคุณธรรมของท่าน แม้จะเห็นพระภิกษุรูปใด ก็ระลึกถึงคุณธรรมของพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ก็เป็นการระลึกถึงคุรธรรมด้วยจิตที่ดีงามในขณะนั้น ขณะที่เจริญเพิ่มขึ้นบ่อยๆ ในการระลึกถึงคุณธรรมของพระอริยสงฆ์ ก็เป็นการเจริญสมถภาวนา ครับ

ซึ่งที่พึ่งที่ทำให้ปลอดภัยจาก กิเลส จากอกุศลกรรม คือ ความดี ประการต่างๆ เป็นที่พึ่ง ที่จะทำให้ได้รับสิ่งที่ดีๆ ประการต่างๆ และพ้นจากความทุกข์ใจชั่วขณะนั้น และพ้นจากการเกิดในอบาย ตราบเท่าที่กรรมดีให้ผล แต่ ความดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ตราบใดที่ไม่ใช่ความดีที่ประกอบด้วยปัญญา เพราะ ปัญญาเท่านั้น ที่จะเป็นธรรมที่ละกิเลส ละภัยประการต่างๆ ได้อย่างแท้จริง เพราะ สามารถดับกิเลสได้จนหมดสิ้น ไม่มีการเกิดอีก ก็ไม่ต้องได้รัทุกข์ ภัย และไม่ต้องแสวงหาที่พึ่ง อีก เพราะ พ้นภัยประการทั้งปวงแล้ว ซึ่งปัญญาจะมีได้อย่างไร หากไม่ได้ศึกษาพระธรรม ซึ่งพระธรรมที่ถูกต้อง มีได้ เพราะอาศัยการตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า และผู้ที่รู้ตามมี คือ พระอริยสาวกทั้งหลาย ดังนั้น การจะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ก็เพราะ มีปัญญา ความเข้าใจพระธรรมเป็นสำคัญ การถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ในที่นี้ ไม่ใช่พึ่งเพราะ ขาดความเข้าใจพระธรรม แต่เพราะอาศัยการศึกษาพระธรรม ปัญญาเจริญ จึงมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และเพราะอาศัยที่พึ่ง คือ พระรัตนตรัย ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เพราะ แม้พระพุทธเจ้า จะปรินิพพานแล้ว แต่เพราะอาศัย การระลึกถึงพระคุณของพระองค์ ย่อมเป็นที่พึ่ง ให้พ้นภัยจากอกุศล สงบจากกิเลส และ เพราะอาศัยการศึกษาพระธรรมของพระองค์ ปัญญาที่เจริญขึ้นย่อมสามารถทำให้ดับกิเลส พ้นจากทุกข์และภัยทั้งปวง และ เพราะอาศัยการระลึกถึงคุณของพระสงฆที่มีคุณธรรม อันเกิดจากความเข้าใจพระธรรมของตน ขณะนั้นก็พ้นจากภัย คือ อกุศลประการต่างๆ ในขณะนั้น ครับ

พระรัตนตรัย จึงเป็นรัตนที่ประเสริฐ ที่ทำให้สัตว์โลก ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ เงิทอง พ้นจากทุกข์ได้ชั่วคราว แต่ไม่สามารถพ้นจากทุกข์อันเกิดจากกิเลส และพ้นทุกข์ คือ การเกิดในสังสารวัฏฏ์ได้เลย ปัญญาได้จากการศึกษาพระรรม ปัญญานั้นเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ และทำให้ถึงพระรัตนตรัยเป้นที่พึ่งได้อย่างถูกต้อง ครับ

การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้นั้นต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา และปัญญานี้ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ค่อยๆ อบรมความเข้าใจพระธรรม ค่อยๆ ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ โดยไม่ไปฟังคนอื่นที่มีความเห็นผิดคลาดเคลื่อนไปจากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง จึงแสดงให้เห็นว่าการมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ต้องเริ่มจากการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง นั่นเอง ครับ.

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ได้ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่แสดงถึงการมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ไพเราะ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ดังนี้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานถึง ๔ อสงไขยแสนกัปที่สามารถจะรู้พระธรรม เพราะฉะนั้นพระธรรมที่ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษาอยู่ที่ไหน และเดี๋ยวนี้มีไหม และคนยุคนี้สามารถได้รับฟังและเข้าใจได้หรือเปล่า นี่เป็นความต่างกันของคนในยุคโน้นกับคนในยุคนี้ ถ้าเคยไปวัดฟังพระธรรม ก็จะรู้ว่า ในอดีตกาลสมัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระอรหันต์มากมาย พระอรหันต์คือใคร ก็ไม่ใช่เพียงแต่ได้ยิน และได้ยินอะไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าได้ยินแล้วต้องการเข้าใจ ก็ฟังพระธรรมจนกระทั่งสามารถค่อยๆ เข้าใจคำที่ได้ยินทีละเล็กทีละน้อย เช่น ถามว่าพระอรหันต์คือใคร พระอรหันต์คือผู้ดับกิเลสหมด ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นได้เลย

เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้ควรเคารพอย่างสูง เพราะว่าการดับกิเลส เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ถ้ามีความเข้าใจถูกต้องว่า เมื่อเกิดมาทุกคนก็มีกิเลส และอยู่ไปวันๆ ทุกวันก็เต็มไปด้วยกิเลส เพราะฉะนั้นถ้าใครสามารถดับกิเลสได้ ผู้นั้นควรแก่การเคารพอย่างยิ่ง สมัยนี้มีไหมคะพระอรหันต์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรคะว่า ใครเป็นพระอรหันต์และใครไม่เป็นพระอรหันต์

นี่คือถ้าเราขาดความรู้ เราก็จะถูกหลอก เพราะเหตุว่าถ้าใครบอกว่า คนโน้นคนนี้เป็นพระอรหันต์ เราก็อาจจะเชื่อ แต่ตามความเป็นจริง ต้องเป็นความรู้ของเราเอง จึงสามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามความเป็นจริง

ด้วยเหตุนี้เราจึงมีคำว่า มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่เราใช้กันบ่อยๆ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ มีใครเป็นที่พึ่งคะ มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ มีพระธรรมที่ทรงแสดงแล้ว ที่ทำให้ทุกคนสามารถหมดจดจากกิเลสได้เป็นที่พึ่ง เพราะถ้าไม่มีพระธรรม ใครก็หมดกิเลสไม่ได้ และก็มีพระสังฆรัตนะ คือ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ถึงผู้ที่ไม่ใช่อริยะแล้วก็เป็นที่พึ่งได้ แต่ต้องเป็น

ผู้สามารถเข้าใจธรรม จนสามารถช่วยคนอื่นให้เข้าใจ ในฐานะของสาวกด้วย ไม่ใช่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทุกคนเคยพูดคำนี้ไหมคะ ๓ ประโยค พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ แต่ขอเป็นที่พึ่งอย่างไร เพราะเหตุว่า แม้คำว่า “ที่พึ่ง” ก็ไม่รู้ว่า จะพึงพระรัตนตรัย พึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร เพราะว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ไม่มีอีกเลยที่จะไปเฝ้า สักการะ หรือจะขอเป็นที่พึ่ง แต่ยังพึ่งได้อยู่ เพราะเหตุว่าเป็นพระบรมศาสดาที่ทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นสามารถรู้สามารถเข้าใจได้

เพราะฉะนั้นการที่จะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คือ พระองค์เป็นผู้มีพระปัญญาสูงสุดในสากลจักรวาล ไม่มีผู้ใดเปรียบได้เลย และทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นเข้าใจได้ เพราะฉะนั้นจะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าวันนี้ จะพึ่งอย่างไร หรือจะไม่พึ่ง หรือแต่เพียงกล่าวว่า พึ่งแต่ไม่รู้จะพึ่งอย่างไร

เพราะฉะนั้นวันนี้เพียงแค่คำเดียวว่า “ธรรม” จะพึงธรรม จะพึงอย่างไร กำลังจะพึ่งเมื่อได้ฟังและเข้าใจ จึงจะพึ่งได้ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่มีทางจะพึ่งเลย

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือ นับถือพระรัตนตรัย มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ไปนับถือศาสนาอื่น ในขณะนั้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 10 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 11 ธ.ค. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
นิคม
วันที่ 6 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ