แสงธรรมสาดส่องที่เวียดนาม 1

 
kanchana.c
วันที่  1 ก.ย. 2556
หมายเลข  23477
อ่าน  1,665

ระหว่างวันเสาร์ที่ 31 ส.ค. 56 - 10 ก.ย. 56 ชมรมบ้านธัมมะ เวียดนาม เรียนเชิญท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มาสนทนาธรรมที่เมืองโฮจิมินห์ ซิตี้ และหวฺงเต่า เป็นเวลา 10 วัน


วันนี้คือวันที่ 31 ส.ค. 56 พวกเรานัดพบกันที่สนามบินดอนเมืองเพื่อเดินทางไปโฮจิมินห์ซิตี้ เวียดนาม ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ไปถึงอย่างไม่พร้อมเพรียงกัน เพราะบางท่านไปคอยอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็กลับมาที่ดอนเมืองทันเวลาได้ เพียงแต่ทำให้ตื่นเต้นกันทั่วหน้าตั้งแต่เริ่มออกเดินทางเท่านั้นเอง ต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาคุณแก้วตา เอนกพุฒิ ที่รับท่านอาจารย์และพี่จี๊ดไปส่งที่ดอนเมือง คุณอ้อม สวิณี แสนทอง น้องเบน บุญยวีร์ รัชนี ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ช่างภาพแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่ดอนเมืองจนลุล่วงไปด้วยดี ออกเดินทางจากจากดอนเมือง 7:45 กัปตันแอร์เอเซียซิ่งไปถึงสนามบินเวียดนามใต้เวลา 09:00 ก่อนเวลา 15 นาที ทำให้ผู้มารับท่านอาจารย์มาไม่ทัน พวกเราจึงต้องต้องยืนคอยสักพัก จึงได้พบกับสหายธรรมเวียดนามที่รู้จักและคุ้นเคยกันดี เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว ท่านอาจารย์ก็มาสนทนาธรรมที่ฮานอย และต้นปีนี้น้องๆ เหล่านี้ก็ไปสนทนาธรรมที่เมืองไทย 1 เดือน สำหรับผู้มีศรัทธาแล้ว ระยะทางไม่ใช่อุปสรรคในการฟังธรรมเลย พวกเรานั่งรถบัสคันใหญ่ไปโรงแรม น้องฟ้า ไกด์สาวสวยชาวเวียดนามที่พูดไทยชัด คล่อง อ่อนหวาน แนะนำเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ และประวัติศาสตร์ต่างๆ ทำให้รู้ที่มาของ "นางเลิ้ง" ว่าเป็นที่อยู่ของพี่สาวใหญ่ขององค์เชียงสือ ขณะที่อพยพลี้ภัยมาอยู่เมืองไทย ในรัชกาลที่ 1 (หรือ 2) และสามแสน (สามเสน) ก็คือที่พักของทหารญวนสามแสนคนที่มาช่วยไทยรบกับพม่า (อันนี้ต่างกับประวัติศาสต์ของไทย) จะเห็นความวิจิตรของการปรุงแต่งที่หลากหลายไปตามเชื้ิอชาติ เห็นได้จริงๆ ว่าเป็นสิ่งที่สมมติขึ้น ไม่มีสาระอะไรที่จะยึดถือเป็นจริงเป็นจัง
โรงแรมลักกี้ที่พวกเราพักอยู่ในเขต 7 ของเมือง เป็นเขตเมืองใหม่ย่านชานเมือง เห็นตึกสูงๆ ที่สร้างแล้วและกำลังสร้างมากมาย เป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะ จึงสะอาดและเขียวขจีด้วยต้นไม้ใหญ่ ไกลจากสนามบินมาก รถต้องแล่นผ่านไชน่าทาวน์ที่พลุกพล่านเหมือนสำเพ็ง แต่สองข้างทางก็ร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ที่รัฐบาลดูแลรักษาอย่างดีตามนโยบายของลุงโฮ ที่คนเวียดนามเคารพนับถือยกย่องว่าเป็นประดุจเทพเจ้า เป็นผู้อุทิศตนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเวียดนาม ท่านไม่มีครอบครัว ทำงานเพื่อเวียดนามจริงๆ คนเวียดนามผ่านการเป็นเมืองขึ้นและการสู้รบมาหลายครั้ง แต่คนเวียดนามถูกสอนไม่ให้เกลียดศัตรูที่ทำลายประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นจีน ที่พยายามยึดเวียดนามให้รวมกับจีน ถึงขนาดเผาทำลายอักษรเวียดนามจนหมดไม่เหลือแม้ซาก ฝรั่งเศสที่ปกครองเวียดนาม หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาที่ทำสงครามในเวียดนาม จนบ้านเมืองย่อยยับ ผู้คนล้มตายจำนวนมากก็ตาม เพราะทุกอย่างผ่านไปแล้ว อยู่กับปััจจุบันที่ช่วยกันสร้างบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า (ตามคำบอกเล่าของน้องฟ้า ฟังแล้วก็น่านับถือความคิดของคนเวียดนามจริงๆ ) คนเวียดนามให้ความเห็นกับสถานการณ์การเมืองไทยว่า ทุกอย่างจะสงบ ปรองดอง และพร้อมใจกันพัฒนาบ้านเมืองได้ ถ้ามีผู้นำอย่างลุงโฮ ที่ทุกคนเคารพนับถือในคุณความดี ไม่ใช่ในอำนาจ (รวมทั้งอำนาจเงินด้วย) แล้วจะหาจากที่ไหน
หลังรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารใกล้ๆ โรงแรมแล้ว ท่านอาจารย์ได้พักผ่อนก่อนเริ่มสนทนาธรรมครั้งแรกในช่วงบ่าย คนเวียดนามเห็นคณะผู้ติดตามท่านอาจารย์มีถึง 22 คน จึงกราบเรียนท่านอาจารย์ว่า มีคนมาลงทะเบียนฟังธรรมเป็นร้อย เขาพยายามหาสถานที่ที่สามารถบรรจุคนฟังมากขนาดนั้นมาหลายแห่ง เปลี่ยนหลายครั้ง จึงขอร้องให้คนไทยทีี่มีโอกาสฟังธรรมมากกว่า และไม่มีหน้าที่จำเป็น สละที่นั่งชาวเวียดนามได้ฟังธรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งพวกเราก็เห็นใจและเต็มใจที่จะไปเที่ยวชมเมืองแทน แต่ขอไปเก็บภาพและบรรยากาศในห้องบรรยายเพื่อมาเล่าให้แฟนคลับฟังก่อน ทราบแล้วเกิดปีติว่า ท่านเหล่านี้เห็นคุณของการเข้าใจธรรมะว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง จึงพากันมาฟังความจริงแท้นี้ เห็นแสงทองของพระธรรมสาดส่องที่เวียดนามแล้ว กราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ผู้เป็นกัลยาณมิตร นำความรู้ความเข้าใจธรรมะที่ท่านศึกษาเข้าใจดีแล้วมาเกื้อกูลแก่ผู้สนใจพระธรรม คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้รับประโยชน์ตามสมควรแก่ความเข้าใจของตน ด้วยความกรุณาแก่สหายธรรมที่อยู่ห่างไกลกัลยาณมิตร ผู้เข้าใจพระธรรมเช่นท่านอาจารย์ ไม่เหมือนพวกเราที่มีโอกาสดีกว่า แม้ไม่ได้ฟังในครั้งนี้ แต่ความเข้าใจธรรมะที่สะสมมาก็อาจทำให้พิจารณาสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏได้บ้าง แม้ขณะที่เที่ยวชมเมือง

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 1 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์กาญจนา เป็นอย่างยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 1 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์กาญจนา เป็นอย่างยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Boonyavee
วันที่ 1 ก.ย. 2556
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพสูงสุด ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณแม่แดงที่กรุณาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคณะผู้เดินทางไปประเทศเวียดนาม และรายงานสดการสนทนาธรรมมาให้สมาชิกบ้านธัมมะได้อ่านและร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 1 ก.ย. 2556

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดงที่กรุณาถ่ายทอดภาพ

และเรื่องราวให้ได้อนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ

และผมขออนุญาตลงถ้อยคำสนทนาบางตอนของท่านอาจารย์สุจินต์กับสหายธรรมชาวเวียดนามเพื่อประโยชน์ในการเตือนใจครับ

If the word "dhamma" is not related to reality at this moment, it is useless.

ถ้าคำว่า "ธรรมะ" ไม่ชี้ให้เห็นถึงความจริงในขณะนี้ ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

Question: What was born? What died?

Answer: Dhamma, the reality arises and falls away all the time.

ถามว่า: อะไรเกิด อะไรตาย

ตอบ: ธรรมะ สภาพของสิ่งที่มีอยู่จริงที่ เกิดแล้ว ดับแล้ว ตลอดเวลา

What is the purpose of studying the teaching of The Lord Buddha?

Just to understand because no one understand this before.

อะไรคือวัตถุประสงค์ของการศึกษาพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า?

เพียงเพื่อให้เข้าในสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจมาก่อน

Dithi can not understand dithi and Lobha can not understand Lobha.

Only panna can understand.

ทิฏฐิไม่สามารถเข้าใจทิฏฐิ โลภะไม่อาจเข้าใจโลภะ มีแต่ปัญญาเท่านั้นที่จะเข้าใจได้

Function of panna is to detach. Function of Lobha is to attach.

หน้าที่ของปัญญาคือละ หน้าที่ของโลภะคือติดข้อง

Who can practice without understanding now?

ใครจะปฏิบัติ (ปฏิปัตติ) ได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจขณะนี้

Attachment derives from ignorance. Because of no understanding realities, there is attachment.

ความติดข้องเกิดจากความไม่รู้ เพราะไม่เข้าใจความจริงจึงติดข้อง

How can kilesas be reduced if there is no understanding.

กิเลสจะลดลงได้อย่างไร หากไม่มีความเข้าใจ

What is impermanent right now? Not just saying that "nothing is permanent".

ขณะนี้อะไรไม่เที่ยง? ไม่ใช่เพียงแค่พูดได้ว่า "ทุกอย่างไม่เที่ยง" (แต่ไม่ได้เข้าใจจริงๆ )

Everything which appears can be object of understanding.

ทุกสิ่งที่ปรากฏเป็นสิ่งที่สามารถทำความเข้าใจได้

Where is dukkha? Do we have to go somewhere?

when is dukkha? Right now.

ทุกข์อยู่ที่ไหน? ต้องตามหาไหม?

ทุกข์เกิดเมื่อไร? เดี๋ยวนี้หรือเปล่า

What is more important than understanding realities right now?

What is going to happen next moment, no one knows.

อะไรจะสำคัญมากไปกว่าความเข้าใจสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงขณะนี้

ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในขณะต่อไป

Trying to understand dhamma without understanding realities will not bring any of dhamma understanding at all.

พยายามเข้าใจธรรมะโดยไม่เข้าใจความเป็นจริงแล้ว ย่อมไม่สามารถเข้าใจธรรมะได้เลยจริงๆ

The path to nirvana is detachment all along the way.

หนทางสู่พระนิพพานมีแต่การละโดยตลอด

Sati arises and falls away. Why want to have sati?

When there is more understanding, sati will definitely arise.

สติเกิดแล้วก็ดับ ทำไมต้องการที่จะมีสติ

เมื่อใดก็ตามที่เข้าใจมากขึ้น สติย่อมเกิดขึ้นเองแน่ๆ

.....................

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพอย่างยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
montha
วันที่ 1 ก.ย. 2556

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างสูง

และกราบอนุโมทนาในความตั้งใจสื่อบรรยากาศให้พวกเราได้รู้ในการบรรยายธรรมในครั้งนี้ค่ะ และอนุโมทนาในกุศลจิต ของทุกท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ปวีร์
วันที่ 2 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

กราบเท้าท่านอาจารย์ที่เคารพอย่างสูงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 2 ก.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 2 ก.ย. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดง ครับ ที่ให้ได้ดูทั้งภาพและคำบรรยายการเดินทางไปเวียดนามโดยละเอียด จนเห็นภาพ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาน้องบุณยวีร์ ช่างภาพอาสาสมัครคนใหม่กับกล้องตัวใหม่ สำหรับภาพบรรยากาศการเดินทางที่ท่าอากาศยานดอนเมืองที่สวยงามครับ

ขออนุโมทนาท่านผู้ร่วมเดินทางและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
papon
วันที่ 2 ก.ย. 2556

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
j.jim
วันที่ 3 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 3 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
napachant
วันที่ 4 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
yupaporn
วันที่ 10 ก.ย. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ขอนอบน้อม
วันที่ 13 ก.ย. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ปลากริม ไข่เต่า
วันที่ 22 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ