แบ่งปันสิ่งที่บันทึกจากชั่วโมงพื้นฐานพระอภิธรรม

 
wittawat
วันที่  29 เม.ย. 2556
หมายเลข  22819
อ่าน  1,020

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

พอดีกระผมได้เข้าชั่วโมงพระอภิธรรมวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.2556 ก็มีบันทึกที่จดไว้ได้และก็ขอโอกาสในการแบ่งปัน เป็นเนื้อความสรุปสั้นๆ ครับตามกำลังความเข้าใจครับ

-ฟังธรรม คือ ต้องรู้จักธรรม

-พระธรรมที่ทรงแสดง ก็เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ (ฟังความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ )

-ถ้าไม่เข้าใจธรรม ก็ดำรงค์ชีวิตอยู่ด้วยความคิด แต่ถ้าได้ฟังพระธรรมจากที่ไม่เข้าใจ ก็ได้เข้าใจขึ้น และจากโลกนี้ไปด้วยความเข้าใจขึ้น

-โอกาสที่ได้ฟัง มีหลายๆ ชาติ หรือว่านานๆ ครั้ง หากพระศาสนาอันตรธานไป ก็ไม่มีโอกาสได้ฟัง

-ไม่มีทางที่ใครจะเข้าใจพระธรรมได้ในเวลาอันเล็กน้อย

-โลกอาจคิดว่าเป็นหลายๆ ประเทศ มีน้ำ มีภูเขา แต่ถ้าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น ก็ไม่มีโลก

-ความจริง "ชีวิต" ขณะนี้คือ สภาพธรรมที่เกิดดับ สืบต่อและยังไม่ตายคือ มีสิ่งที่มีจริงปรากฏให้รู้ได้ ถ้าไม่มีธาตุรู้ ก็ไม่มีชีวิต (โต๊ะ เก้าอี้ ศพ ต้นไม้ ไม่รู้อะไร ก็ไม่มีชีวิต) มีธาตุรู้เมื่อใด ก็มีชีวิต

-รู้สารพัดรู้ แต่ "เห็น" อยู่ ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร

-มีคิด บางคนคิดยังไม่จบ แต่ก็ตายไปก่อน แต่ละเรื่องคิดจากที่เห็นบ้างเกิดมากินนอน และก็จากโลกนี้ไป กินนอนไม่พอยังติดข้องด้วย เพราะฉะนั้นควรที่จะรู้ความจริงหรือไม่ มีสัตว์ที่ข้องอยู่กับการรู้ความจริง (โพธิสัตว์) หลายระดับ (พระสาวกโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์ พระสัพพัญญูโพธิสัตว์) มีพระธรรมที่นับคำไม่ได้ เพื่อให้พิจารณารู้ความจริง รู้ประโยชน์แท้จริง

-แม้ข้อความในพระไตรปิฎกกล่าว ก็ต้องพิจารณาเพื่อเป็นความเข้าใจของตนเอง

-"ตราบใดที่ชีวิตินทรีย์ยังมีอยู่ ตราบนั้นความไม่หยุดยั้งแต่อารมณ์เหล่านี้ก็มีอยู่ <ข้อความจากอรรถกถา>" เห็นมีจริง เป็นชีวิต มีธาตุรู้จึงมีชีวิต ขณะใดที่มีธาตุรู้เกิดจึงจึงมีสิ่งที่ถูกรู้ (อารมณ์) เช่น มีรู้กลิ่น กลิ่นจึงปรากฏ เสียงรู้อะไรไม่ได้ มีธาตุรู้เสียงเกิดเมื่อใดจึงรู้เสียงได้ เป็นต้น และขณะนี้เสียงที่มีจริงก็หมดไปแล้ว แสนสั้นหมดและไม่กลับมาอีกเลยคือ ศึกษาก็เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้

-ฟังธรรม ๑๐๐ ครั้ง ๑๐๐๐ ครั้งก็ยังละไม่ได้ จนกว่าจะเข้าใจสิ่งที่มีจริง

-ฟังแล้วสุดท้ายก็ต้องตาย แต่จะตายแล้วสะสมการเข้าใจความจริงหรือไม่?

-ประโยชน์ของการเกิดมา สูงสุด คืออะไร?

(ทรัพย์สมบัติ ที่ว่ามี มีจริงเมื่อจับต้องกายทั้งหมดใครเป็นเจ้าของ มีธาตุรู้เกิด จึงพูดได้ เดินได้แต่เมื่อตายไป "แม้มารดา ก็ไม่ต้องการ")

-ประโยชน์ ก็คือ "ภาวนาธิษฺฐานชีวิตํ"

-"ภาวนา" หมายถึง การอบรมเจริญปัญญา (ให้สิ่งที่ไม่เคยเกิด เกิดขึ้นให้สิ่งที่เกิดแล้วเจริญขึ้น ด้วยการอ่าน, ฟัง, ไตร่ตรองว่าเป็นจริงอย่างนี้ตามที่ได้ฟัง) จนกระทั่งถึงความสมบูรณ์ของปัญญา

"อธิษฐาน" มั่นคง หรือ ตั้งใจมั่น (มั่นคง ว่าฟังพอหรือไม่ ทานยามื้อเดียวไม่ใช่ว่าหายโรค และการมีที่พึ่ง ซึ่งสูงที่สุดคือ พระรัตนตรัย)

"ชีวิต" ชีวิตที่สุจริตประโยชน์สูงสุด ก็คือ "การมีชีวิตสุจริตมั่นคงที่จะอบรมเจริญปัญญา"

ขออนุโมทนาท่านอาจารย์ อาจารย์วิทยากร และผู้ร่วมสนทนาในการสนทนาชั่วโมงพื้นฐานพระอภิธรรม ครั้งนั้นด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 29 เม.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์สูงสุด ก็คือ "การชีวิตสุจริตมั่นคงที่จะอบรมเจริญปัญญา"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณ wittawat ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 29 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และ ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
amornrat44
วันที่ 29 เม.ย. 2556

อนุโมทนาคะ ขอสรุปแบบนี้ทุกสัปดาห์เลยน่ะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 29 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 29 เม.ย. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
natural
วันที่ 29 เม.ย. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
panasda
วันที่ 30 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 1 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ผิน
วันที่ 2 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 4 พ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ธ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ