พระอภิธรรม

 
นิรมิต
วันที่  19 มี.ค. 2556
หมายเลข  22649
อ่าน  1,807

กราบสวัสดีท่านวิทยากรและมิตรธรรมที่เคารพทุกท่าน

มีความสงสัย ขอกราบเรียนถามว่า พระอภิธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง เพื่อเกื้อกูลแก่การประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ทั้งหมดในพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ที่ท่านพระสารีบุตรได้สดับจากพระพุทธองค์ หรือแม้พระอภิธรรมทั้งหมดที่ทรงแสดงจากพระโอษฐ์ตลอด ๓ พรรษา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่เราๆ ท่านๆ ได้ศึกษากันตราบจนถึงปัจจุบัน ก็ยังชื่อว่าหยาบมาก ใช่หรือไม่ เพราะเหตุว่า พระอภิธรรมย่อมมีความละเอียดเป็นอนันต์ ที่ทรงแสดง แม้ละเอียดถึงเพียงนั้นก็หยาบ อภิธรรมจริงๆ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ย่อมละเอียดกว่านี้หาประมาณไม่ได้ ที่ทรงแสดงก็คือ ทรงเรียบเรียงด้วยพระญาณแล้ว ที่เพียงพอจะเกื้อกูลสัตว์โลกได้เท่านั้น ใช่ไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม ล้วนแล้วแต่เกิดจากพระปัญญา และ ทรงพิจารณาแล้วว่า เพียงพอที่จะสามารถให้สัตว์โลกเข้าใจได้ แม้แต่ในส่วนพระวินัยก็มีข้อบัญญัติ จริงๆ แล้ว ในความละเอียด นับเป็นโกฎข้อ แต่พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า ธรรมเหล่าใดที่จะเป็นประโยชน์กับสัตว์โลก ก็แสดงเพียงเท่านั้น ส่วนใดที่ไม่เป็นประโยชน์กับสัตว์โลก แม้พระองค์จะตรัสรู้สภาพธรรมทั้งหมดทั้งปวง ก็ไม่ทรงแสดง ในส่วนพระอภิธรรมก็เช่นกัน พระอภิธรรมเป็นการแสดงถึงความจริงของสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรม ที่รู้ได้ด้วยปัญญา ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงแสดง พระอภิธรรมทั้งในส่วน ๗ คัมภีร์ และในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสรู้สัจจะ ความจริงอย่างละเอียดลึกซึ้ง สุดประมาณที่สัตว์โลกจะรู้ได้ เช่น ความเป็นปัจจัย ที่มีความละเอียดลึกซึ้ง สุขุมอย่างยิ่ง ดังนั้น พระพุทธเจ้า จึงทรงแสดงพระธรรมในส่วนที่สัตว์โลกจะสามารถเข้าใจได้ คือ สามารถรู้ตาม และ รู้ลักษณะของตัวจริงที่เป็นอภิธรรมได้ เมื่อได้ฟังพระธรรมในส่วนต่างๆ และ ที่เป็นส่วนของอภิธรรมด้วย ครับ

ดังนั้น จะกล่าวว่า ที่พระองค์ทรงแสดง จะหยาบมากสำหรับพระปัญญาคุณ คือ สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้ทั้งหมด ที่เปรียบดังใบไม้ในกำมือกับใบไม้ของต้นไม้ทั้งต้น ความละเอียดของสภาพธรรมและความจริงทั้งหมด พระองค์ทรงตรัสรู้ทั้งหมด แต่สิ่งใดไม่เป็นประโยชน์กับสัตว์โลก หรือ เป็นสิ่งที่เหลือวิสัยของปัญญาสัตว์โลก พระองค์ก็ไม่ทรงแสดง แต่แสดงสิ่งที่จะสามารถเข้าใจได้ คือ แสดงในส่วนที่เป็นใบไม้ในกำมือเดียวเท่านั้น ครับ พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงจึงเป็นส่วนหยาบ คือ ไม่ทั้งหมดที่พระองค์ทรงตรัสรู้ แต่ละเอียดยิ่งและเพียงพอแล้ว สำหรับสัตว์โลกที่พอจะเข้าใจได้ในส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งก็แล้วแต่ว่า สัตว์โลกนั้น คนใด ที่จะได้อ่านแล้วเข้าใจส่วนไหนก็เข้าใจในส่วนนั้น ครับ

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงจึงละเอียดยิ่งแล้ว คือ ละเอียดยิ่งที่จะสามารถทำให้ละหมู่กิเลสได้ ละเอียดด้วยพระปัญญาคุณ ละเอียดด้วยตัวสภาพธรรม ซึ่งบัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nopwong
วันที่ 20 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nong
วันที่ 20 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 20 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทุกคำในพระไตรปิฎก อันเป็นพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็มุ่งให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้เข้าใจธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะทรงแสดงในส่วนใดก็ตาม ย่อมไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยโวหาร โดยพยัญชนะต่างๆ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง (อภิธรรม) ที่หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน ไม่ได้เลย สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง ถ้าเป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทพระธรรมว่าง่าย ศึกษาด้วยความตั้งใจ ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ

คำว่า อภิธรรม ฟังดูชื่อแล้ว หลายท่านกลัว แต่ที่จริงแล้ว อภิธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นจริง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไรก็ตามสภาพธรรมไม่มีเปลี่ยน ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ขณะที่กุศลจิตเกิด เช่น ให้ทาน ช่วยเหลือผู้อื่น ฟังธรรม อ่อนน้อมต่อผู้ที่ควรแก่การอ่อนน้อม เป็นต้น ขณะที่อกุศลจิตเกิด ไม่ว่าจะเป็นความติดข้อง หรือ ความไม่พอใจ ขุ่นเคืองใจ เป็นต้น ขณะที่หลับสนิทไม่รู้อารมณ์ของโลกนี้ ... ทั้งหมด เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอภิธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทเกิดปัญญา เข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษาอย่างแท้จริง ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ตามกำลังปัญญาของแต่ละบุคคล ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 20 มี.ค. 2556

พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระอภิธรรมโดยย่อกับท่านพระสารีบุตรเพราะท่านมีปัญญามาก และท่านพระสารีบุตรแสดงพระอภิธรรมให้ลูกศิษย์ขนาดปานกลาง และพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระอภิธรรมให้เทวดาฟังโดยละเอียดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
daris
วันที่ 20 มี.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jaturong
วันที่ 22 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
นิรมิต
วันที่ 22 มี.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
boonpoj
วันที่ 20 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 17 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
WS202398
วันที่ 19 มิ.ย. 2556

"ทุกคำในพระไตรปิฎก อันเป็นพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง" คำว่าทุกคำ รวมอรรถกถาหรือเปล่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
khampan.a
วันที่ 19 มิ.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรียน ความคิดเห็นที่ 11 ครับ

ทุกคำในพระไตรปิฎก รวมถึงในอรรถกถาด้วย ล้วนกล่าวอธิบายให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง เพราะอรรถกถาหมายถึง คำอธิบายเนื้อความ ขยายข้อความพระไตรปิฎก ซึ่งในสมัยครั้งพุทธกาลก็มีแล้ว คือ ส่วนหนึ่งมาจากปกิณณกเทศนาของพระพุทธองค์ ส่วนหนึ่งก็มาจากพระอรหันต์สาวก มีท่านพระสารีบุตรเป็นต้น ได้อธิบายไว้ ครับ ซึ่งควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pheejad
วันที่ 22 มิ.ย. 2556

พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโดยย่อแก่พระสารีบุตร หมายความว่า อธิบายย่อๆ พระสารีบุตรก็เข้าใจในรายละเอียดได้เท่ากับที่พระพุทธเจ้าแสดงให้กับเทวดา ใช่หรือไม่ครับ

ขอขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
เซจาน้อย
วันที่ 26 มิ.ย. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
papon
วันที่ 9 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
bsomsuda
วันที่ 9 ก.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ